เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม นิยาย บท 53

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม ตอนที่ 53 ตบหน้า
ตอนที่ 53 ตบหน้า

ม่านรัตติกาลมาเยือน แสงดาวส่องสกาวระยิบระยับ

ด้านนอกสวน มีรถหรูรูปแบบแตกต่างกันออกไปจอดอยู่หลายสิบคัน

ภูเขาเขียวและน้ำสีครามโอบล้อมสวน ตรงกลางมีตำหนักที่สร้างจากอิฐขาว ภายในตำหนักมีแสงไฟสว่างโร่ เคล้าด้วยดนตรีอันไพเราะฟังสบาย

ที่นี่รวมผู้มีอิทธิพลของแต่ละแวดวงในตะวันตกเฉียงใต้ไว้

มียักษ์ใหญ่ในแวดวงการเมือง เศรษฐีระดับท็อปของวงการธุรกิจ และมีผู้นำของตระกูลชื่อดังบางส่วนด้วยเช่นกัน พวกเขาล้วนได้รับการเชื้อเชิญจากเจิ้งหงยี่แห่งสกุลเจิ้ง จึงมารวมตัวกันที่นี่

“รองนายกเทศมนตรีหลิว คุณก็มาด้วยเหรอ” ชายร่างอ้วนคนหนึ่ง เมื่อเห็นชายวัยกลางคนสวมแว่นตายืนอยู่ข้างหน้า ก็รีบปรี่เข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที

เมื่อชายวัยกลางคนเห็นชายร่างอ้วนก็ยิ้มบางๆ “ครั้งนี้ ผมแค่มากับนายกเทศมนตรีฉินก็เท่านั้น”

ชายร่างอ้วนชื่อเหวยหรงฮุ่ย เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ช่วงนี้เพิ่งได้ที่ดินผืนใหญ่ในเมืองหรงเฉิง ครั้งนี้ได้เจอนายกเทศมนตรีฉินโดยบังเอิญ จึงครุ่นคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ตีสนิทเขาดีไหม

เหวยหรงฮุ่ยกับรองนายกเทศมนตรีคุยกันไม่กี่ประโยคแล้ว ก็เดินไปทางนายกเทศมนตรีฉิน

จากนั้น เขาก็เห็นชายร่างกำยำอายุราวๆ สี่สิบปีคนหนึ่ง กำลังยืนเงียบอยู่ข้างๆ

เอ๊ะ…คนคนนี้ดูคุ้นๆ

เหวยหรงฮุ่ยเดินเข้าไป ขอมองหน้าตรงสักหน่อย

ให้ตายเถอะ! นี่มันอธิบดีโจวเจิ้งแห่งกรมตำรวจไม่ใช่เหรอ

ช่วงนี้เขากำลังสาละวนอยู่กับคดีฆาตกรรมประหลาดของหมู่บ้านหวงซีจนปลีกตัวไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีแก่ใจมาร่วมงานเลี้ยงเต้นรำได้

เหวยหรงฮุ่ยทำหน้าตกใจ เขาหวนคิดถึงคำพูดของเจิ้งหงยี่ ตอนที่มาเชิญเขาร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ ดูเหมือนจะมีคนอยากแนะนำให้ทุกคนในงานเลี้ยงเต้นรำได้รู้จัก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาที่เกือบจะถูกก้อนเนื้อบดบังคู่นั้นของเขากวาดมองรอบทิศ คิดในใจว่าคงไม่ใช่บุคคลยิ่งใหญ่อะไรหรอกนะ

ขณะนั้นเอง ก็มีวัยรุ่นสามคนก้าวเข้ามาในงานเลี้ยงเต้นรำ

ชายที่เดินนำหน้าผอมสูง หลังกวาดสายตามองทั่วงานเลี้ยงแล้ว รอยยิ้มจางๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้า

คนที่เดินตามหลังเขา เป็นโฉมงามผมยาวกับผู้ชายที่ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง

“อู่หัว คนที่สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ ต่างก็เป็นผู้มีอิทธิพลที่มีหน้ามีตา สำรวมกายและวาจาด้วยล่ะ” ชายคนนั้นเตือน

คนที่ตามหลังผู้ชายผอมสูงคนนั้น คือหลินอู่หัวกับเกาเผิงนั่นเอง

กับคำเตือนของเกาเผิง หลินอู่หัวก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

ตอนแรกพวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงระดับนี้ พวกเขามีโอกาสมาถึงที่นี่ได้ มันเป็นเพราะคุณชายเจิ้งที่อยู่ข้างหน้าพวกเขานั่นเอง

คุณชายเจิ้งคนนี้ชื่อเจิ้งหย่ง เป็นลูกชายของเจิ้งหงยี่เจ้าภาพงานเลี้ยงในครั้งนี้

เกาเผิงกับเขาเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย และถือว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันไม่เบา

และเป็นเพราะความสัมพันธ์แบบนี้ เกาเผิงถึงมีโอกาสพาหลินอู่หัวมาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้

เกาเผิงจ้องมองยักษ์ใหญ่ที่สะเทือนวงการได้แม้เพียงกระทืบเท้าที่อยู่รอบๆ เหล่านี้อย่างอิจฉาตาร้อน คิดในใจว่าหากผูกมิตรกับพวกเขาได้ บริษัทของเขาต้องก้าวหน้าไปอีกขั้นแน่นอน!

คนส่วนใหญ่ในงานเลี้ยงเมื่อเห็นเจิ้งหย่งก็จะพยักหน้ายิ้มๆ บางคนเป็นฝ่ายเข้าไปถามไถ่ด้วยซ้ำหญิงงามรอบๆ ก็พากันจับจ้องมาที่เจิ้งหย่งกันระนาว ในดวงตาเจือความคาดหวัง

เจิ้งหย่งเองก็เพ่งมองเป็นระยะๆ เช่นกัน คุณหนูตระกูลดังที่เข้าร่วมงานเลี้ยง แม้หลายคนจะหน้าตาสะสวย แต่กลับไม่มีคนไหนที่เขาชอบเป็นพิเศษเลย

สาวงามนับไม่ถ้วนมักจะทำให้เกิดความเหนื่อยหน่ายทางสุนทรียศาสตร์ ตอนนี้เมื่อเขาเจอสาวสวย ก็รู้สึกไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป กระตุ้นความรู้สึกได้ยากยิ่งนัก

แต่ทว่าในขณะนั้นเอง ก็มีเรือนร่างโผล่มาในลานสายตาของเขา ทำให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่

เจิ้งหย่งตะลึงงันไปแล้ว ผู้หญิงที่สวมชุดราตรีสีแดงคนนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยงามสะดุดตาเช่นนี้มาก่อน รูปร่างสมบูรณ์แบบ ใบหน้างามล่มเมือง แค่ปรากฏกายก็โดดเด่นเหนือผู้คน

เมื่อเห็นเจิ้งหยงยืนนิ่งกะทันหัน เกาเผิงก็มองตามสายตาของเขาไป จากนั้นก็อุทานออกมาว่า “พวกเขานี่นา!”

พอได้ยินเสียงของเกาเผิง เจิ้งหย่งก็ตื่นขึ้นจากภวังค์ แล้วหันมาถามว่า “เกาเผิง นายรู้จักพวกเขาเหรอ”

เกาเผิงพยักหน้า “เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ฉันรู้จักผู้ชายคนหนึ่งในนั้น เขาชื่ออันหลิน เป็นนักศึกษา ส่วนชายหญิงสองคนนั้น ฉันไม่รู้จัก”

เกาเผิงตั้งใจปิดบังข้อมูลที่ผู้หญิงคนนั้นคล้ายจะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอันหลิน

เขาสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ท่าทางเจิ้งหย่งจะสนใจผู้หญิงคนนั้น

ก็จริง ผู้หญิงที่สวยงามสูงศักดิ์แบบนี้ เป็นใครใครก็ต้องหวั่นไหว

นิสัยของเจิ้งหย่งเขารู้ดี จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เหยื่อที่หมายตาไว้

จากนั้น เขาแค่รอดูเรื่องสนุกก็พอ…

“อืม” เจิ้งหย่งได้ยินก็เริ่มประเมินสามคนนั้น

จากนั้น พ่อบ้านคนหนึ่งก็ยกถาดเครื่องดื่มมา ยื่นไวน์แดงสองแก้วออกมาด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

ไวน์แดงไม่ใช่เหล้าทั่วไป แต่เป็นเหล้ากระตุ้นอารมณ์ที่ถูกบ่มโดยลัทธิไสยเวทสวรรค์ มีสรรพคุณสร้างความลุ่มหลงอย่างรุนแรง

เจิ้งหย่งเป็นคนที่ขี้เกียจเสียเวลากับเรื่องของความรู้สึก หากว่าถูกใจใคร ก็เป็นเรื่องของเหล้าเพียงแก้วเดียว

ตอนที่ 53 ตบหน้า 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม