ณ ประตูสวรรค์ทักษิณ มีแสงสีขาวกะพริบผ่าน
ร่างของพวกอันหลินเริ่มปรากฏให้เห็น
ตรงนั้นมีชายผมยาวสีเงินคนหนึ่ง กำลังมองพวกเขาด้วยใบหน้าแต้มยิ้ม
เมื่อเซียนพสุธาเยว่อิ่งและเซียนพสุธามิ่งหยวนเห็นผู้มาเยือน ก็โค้งคำนับทันที “กระหม่อมขอถวายบังคมจักรพรรดิจื่อเวย!”
พอพวกอันหลินได้ยินว่าบุคคลตรงหน้าคือจักรพรรดิจื่อเวย ก็ทำความเคารพตามโดยพลัน
“ทุกคนอย่าได้มากพิธีเลย เดินทางครั้งนี้ลำบากพวกเจ้าแล้ว”
แม้ใบหน้าของจักรพรรดิจื่อเวยจะเรียบเฉย แต่เสียงกลับอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าเจือพลังอันปลอบประโลมผู้คน ทำให้ความกังวลภายในใจลดลงไปไม่น้อย
อันหลินถึงได้เงยหน้าขึ้น มองชายผมเงินตรงหน้าด้วยความสงสัย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้เที่ยงแท้กับตา ในใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ส่วนตาเฒ่าคนก่อนหน้านี้ ใครจะรู้ว่าเขาเป็นผู้เที่ยงแท้หรือไม่ เพราะแม้แต่ชื่อก็ไม่ได้บอกอันหลินด้วยซ้ำ
แต่จักรพรรดิจื่อเวยผู้เป็นถึงจักรพรรดิทั้งสี่แห่งสรวงสวรรค์ มีสมญานามว่าเจ้าแห่งดาราและปรมาจารย์แห่งปรากฏการณ์ของสรรพสิ่ง
กล่าวกันว่า เขารู้วิชาเซียนนับหมื่น เป็นปรมาจารย์แห่งวิชาเซียน
เล่ากันว่า เขาเป็นผู้ควบคุมกฎธรรมชาติ หยั่งรู้เคราะห์ภัยของจักรวาล
บุคคลที่สุดยอดปานนี้ปรากฏตรงหน้าอันหลิน เขาจะไม่ตื่นเต้นได้เหรอ
“เรื่องในแดนมนุษย์ของพวกเจ้าข้าทราบเรื่องแล้ว สำเร็จภารกิจได้อย่างดียิ่ง”
“ค่ายกลไตรภูมิไม่สมบูรณ์ ถูกเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬฉวยโอกาสเป็นความผิดของข้าเอง ตอนนี้ข้าจะมอบบัตรเชิญปรุงยาให้พวกเจ้าคนละใบ นำบัตรเชิญนี้ไปที่ราชวังดุสิต สามารถสั่งทำยาวิเศษไม่เกินขั้นหกได้หนึ่งเม็ดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ของขวัญชิ้นนี้ขอให้พวกเจ้ารับไว้ด้วยเถอะ”
พูดจบ จักรพรรดิจื่อเวยก็โบกมือขวา บัตรเชิญสีทองก็ปรากฏขึ้นในมือของทุกคน
“ขอบพระทัยจักรพรรดิจื่อเวย!” เมื่อทุกคนเห็นบัตรเชิญในมือก็ดีอกดีใจ กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ
นี่มันยาวิเศษเชียวนะ ทุกเม็ดล้วนประเมินค่าไม่ได้
ตอนนี้พวกเขาขอให้คนในราชวังดุสิตปรุงยาให้หนึ่งเม็ดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มันช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจเหลือเกิน
จักรพรรดิจื่อเวยพยักหน้า เบนสายตาไปที่อันหลิน แผนที่ดาวอันกว้างใหญ่ไพศาลปรากฏวาบขึ้นในดวงตา
เพียงชั่วครู่ นัยน์ตาของเขาก็กลับมาสุกใสอีกครั้ง ดวงตาสะท้อนภาพของชายหนุ่มคนนั้น
“อันหลิน คุณงามความดีของเจ้าข้าก็ทราบแล้วเช่นกัน เจ้าเป็นวีรบุรุษของเรื่องนี้เชียวนะ กระบี่พิชิตมารเล่มนั้นถือเสียว่าข้าให้เจ้าเป็นของขวัญ”
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิจื่อเวย อันหลินก็ชะงักไปเล็กน้อย
อันที่จริง…เขาไม่คิดจะคืนกระบี่เล่มนี้แต่แรกอยู่แล้ว
แต่เมื่อจักรพรรดิจื่อเวยเป็นคนเอ่ยออกมาเอง เขาย่อมต้องซาบซึ้งในบุญคุณ กล่าวขอบคุณอีกครั้ง
หลังจักรพรรดิจื่อเวยจัดการธุระที่นี่เสร็จ ก็กลับไปยังวังดาวเหนือ
“เฮ้อ แต่เสียดายกระบี่ที่น่ารักของข้าเหลือเกิน”
ชายผมเงินถอนหายใจแผ่วเบา หากไม่ใช่เพราะเส้นทางจะถล่ม ถ้าเขาใช้ประตูสวรรค์ทักษิณ เขาคงไปถึงแดนมนุษย์ทันทีที่ค่ายกลไตรภูมิถูกบุกรุกแล้ว
“ไม่คิดเลยว่าเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬจะมีวิธีเข้าแดนมนุษย์ด้วย หากเสด็จแม่ทรงทราบ ไม่รู้ว่าพระนางจะทรงมีปฏิกิริยาอะไร” เมื่อเขาคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าแสดงความตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเลย
ภายในรั้วสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียนแห่งสรวงสวรรค์ วีรกรรมที่พวกอันหลินไปทำภารกิจแดนมนุษย์ ลือกระฉ่อนไปทั่วรั้วสำนักแล้ว
เดิมทีเป็นเพียงภารกิจเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพันธนาการหอมาร ปลิดชีพราชามารเท่านั้น
กลับกลายเป็นวีรกรรมอันเป็นตำนานของการทำลายล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจ ล้างบางเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด สังหารอ้านเย่แห่งเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬ
สมาชิกของทีมอันหลิน ถูกนักเรียนทั้งหลายชื่นชมจนตัวลอยแล้ว
ตัวอันหลินเองกลายเป็นบุคคลระดับตำนานแห่งสำนัก วีรกรรมเลื่องลือทั้งหลายลือเลื่องไปทั่วรั้วสำนัก
วีรกรรมอย่างขึ้นสวรรค์จัดการเทพเจ้าได้ ลงทะเลพิฆาตมังกรปีศาจได้
และต่อสู้ในปราสาทเคลื่อนที่ของเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬจนราบเป็นหน้ากลองเป็นต้น
อืม…มีทั้งวีรกรรมที่เขาเคยทำและไม่เคยทำ
หลังหวังเสวียนจ้านรู้ว่าอันหลินสังหารนายหญิงอ้านเย่จริงๆ ก็ตรงดิ่งไปที่ฝ่ายวิชาการ ขอร้องให้อาจารย์ลบชื่อของเขาออกจากที่หนึ่งของอันดับเซียน อ้างว่าอับอายขายหน้า
เอ่อ…ความจริงสิ่งเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่เหล่าอาจารย์ปวดหัวอยู่แล้ว
การกลับมาของพวกอันหลิน สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ในสำนัก
เพราะสาเหตุที่อันหลินโด่งดังเกินไป ทำให้เขายามส่งของที่รับหิ้ว ต้องพบเจอกับปัญหาไม่น้อยเลย
มันทำให้อันหลินปวดกะบาลเหลือทน
เฮ้อ…


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม