บทที่ 1024 โมโห
สำหรับการกระทำของหานเย่ หานเจวี๋ยคร้านจะไปวิจารณ์ หากว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตในโลกมหามรรคพ้นนิวรณ์จะต้องเกลียดชังหานเย่แทบตายแน่ แต่หากว่ากันในมุมของผู้บำเพ็ญก็ไม่อาจพูดอะไรได้
ตัวมนุษย์เองเดิมทีก็ชอบกักขังเพาะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นไว้อยู่แล้ว หากไม่ใช่เพื่อกินก็เพื่อใช้แรงงาน การกระทำของหานเย่ก็ไม่ต่างกันเลย
ขอเพียงไม่ทรมานสังหารอย่างทารุณ หานเจวี๋ยก็ไม่มีทางเข้าไปยุ่ง
ตบะของหานเย่พัฒนาไปเร็วอย่างยิ่ง นอกจากการเข่นฆ่าแล้วยังมีความช่วยเหลือจากพวกเต้าจื้อจุนทั้งสี่ด้วย สี่คนนี้เรียกได้ว่าสอนทุกอย่างให้หานเย่จนหมดเปลือก ถึงขั้นที่เทศนาให้เข้าใจในอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคด้วย
หานเจวี๋ยพอใจในตัวพวกเต้าจื้อจุนทั้งสี่มาก มีสายตาเฉียบแหลม ผ่านมาหลายแสนปีแล้วพวกเต้าจื้อจุนก็ยังไม่ลืมกำพืด เหล่าตานก็ไม่มีแผนร้าย เป็นร่างแยกที่เป็นเอกเทศไม่ขึ้นต่อร่างจริง
หานเจวี๋ยสอดส่องดูเหล่าศิษย์อีกครั้ง โจวฝาน เจียงเจวี๋ยซื่อ หลงเฮ่าและพวกฟางเหลียงต่างปลอดภัยอยู่สุขดี
ปัจจุบันนี้เหล่าศิษย์สืบทอดที่อยู่ในมรรคาสวรรค์มีอำนาจล้นฟ้ายิ่งใหญ่มีบารมี
ส่วนหานทั่ว หานฮวง หานชิงเอ๋อร์ สองรายแรกล้วนยุ่งอยู่กับการปิดด่าน หานชิงเอ๋อร์ก็ไปติดตามเจียงเจวี๋ยซื่อ ออกท่องเที่ยวไปทั่ว
หานเจวี๋ยเคลื่อนย้ายมายังอาณาเขตเต๋าหลัก เรียกหานโยวมาพบ
หานโยวคือหัวหน้าเผ่าเอกานับหมื่น ปีนั้นเผ่าจอมเวทเผชิญการขับไล่กวาดล้างจากมรรคาสวรรค์ จักรพรรดินีผืนพิภพต้องการประคับประคองเผ่าจอมเวทไว้จึงสร้างเผ่าเอกาขึ้นมา มอบพรสวรรค์อันแกร่งกล้าให้ แต่จำกัดความสามารถในการสืบทายาทของพวกเขาไว้ จนถึงปัจจุบันนี้เผ่าเอกาก็ยังมีเพียงหนึ่งหมื่นคน แต่เนื่องจากอาศัยอยู่ในเขตเซียนร้อยคีรีมาตลอดดังนั้นจึงไม่ล้มหายตายจากเลย
เมื่อได้พบหน้าหานเจวี๋ยอีกครั้ง หานโยวตื่นเต้นยิ่ง
หลายแสนปีผ่านไป เขาแทบจะใกล้ลืมหน้าตาของหานเจวี๋ยไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าหานเจวี๋ยยังคงระลึกถึงเขาอยู่
หานเจวี๋ยสอบถามสารทุกข์สุกดิบก่อน ทำให้หานโยวซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตา
“หานโยว หากข้าต้องการให้เผ่าเอกาย้ายที่อยู่ ไปอยู่ในโลกแห่งหนึ่งเป็นเทพคอยดูแลโลกให้ข้า คอยนำทางให้เหล่าสรรพสิ่ง เจ้าคิดเห็นอย่างไร” หานเจวี๋ยเก็บรอยยิ้มลงพลางเอ่ยถามออกไป
หานโยวเอ่ยตอบทันที “แล้วแต่เจ้าสำนักจะจัดการเลยขอรับ เผ่าเอกาจะติดตามเจ้าสำนักตลอดไป”
สำหรับพวกเขาแล้วหานเจวี๋ยมิใช่เพียงเจ้าสำนักแต่เปรียบเสมือนบิดา เพียงยามนี้สำนักซ่อนเร้นยิ่งใหญ่มากอำนาจ พวกเขายากจะได้ใกล้ชิดอีก
หานเจวี๋ยให้หานโยวไปเรียกรวมตัวเผ่าเอกาทันที
ครึ่งวันต่อมา หานเจวี๋ยเคลื่อนย้ายเผ่าเอกาเข้าสู่โลกปฐมยุค ส่งพวกเขาไปในพื้นที่ของเทพมารชีวิต ให้พวกเขาอยู่ร่วมกันดีๆ วันหน้าจะได้ช่วยกันดูแลจัดการโลกปฐมยุค
ตอนนี้เทพมารชีวิตคือเทพมารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกปฐมยุค มีตบะระดับมหามรรคแล้ว เผ่าเอกาส่วนใหญ่มีตบะระดับเสรี ให้ความช่วยเหลือเทพมารชีวิตได้
มีหานเจวี๋ยจับตามองอยู่ เทพมารชีวิตก็ไม่กล้าข่มเหงเผาเอกาเช่นกัน อีกทั้งเขาสังเกตการณ์มานานแล้ว เทพมารชีวิตนิสัยอ่อนโยนไม่มีท่าทีดุร้ายเหี้ยมโหดเลย
หลังจากกำชับสั่งการเสร็จ หานเจวี๋ยก็กลับมายังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
หลังจากอยู่ร่วมกับเหล่าคู่บำเพ็ญเพียรเป็นเวลาหลายร้อยปี เขาถึงกลับไปที่อารามเต๋าอีกครั้ง
เขาสอดส่องจักรวาลโลกดารา ยามนี้จักรวาลโลกดาราอุดมด้วยหลากหลายเผ่าพันธุ์ รุ่งเรืองอย่างยิ่ง หลิวเป้ยก็ชุบเลี้ยงศิษย์ไว้กลุ่มหนึ่งให้คอยดูแลจัดระเบียบจักรวาลโลกดารา ส่วนตัวเขากลับมายังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สามแล้ว สงบใจฝึกบำเพ็ญ
เวลาผ่านมาเนิ่นนานปานนี้ ความปรารถนาต่ออำนาจของหลิวเป้ยเฉยชาไปเสียแล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของหานเจวี๋ย มีเพียงตบะเท่านั้นที่จีรัง อำนาจเป็นเพียงความสุขเพียงชั่วคราวเท่านั้น แน่นอนชั่วคราวในที่นี้เพียงพอจะเป็นชั่วชีวิตหนึ่งของมนุษย์ธรรมดาแล้ว
หานเจวี๋ยสอดส่องอยู่สักพักก็หมดความสนใจ
ถึงแม้จักรวาลโลกดาราแห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยเขาแต่ก็ถูกผสานรวมเข้ากับฟ้าบุพกาลแล้ว ดวงชะตาเชื่อมโยงกันมิใช่ของเขามานานแล้ว
วันหน้าให้ความสนใจเพียงโลกปฐมยุคก็พอ
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ จากนั้นก็หลับตาฝึกบำเพ็ญ
….
ภายในดินแดนเวิ้งว้าง หานฮวงนั่งสมาธิอย่างสงบ รอบข้างไร้ซึ่งสรรพสิ่ง ถึงขั้นที่ไม่มีพลังวิญญาณเลยด้วยซ้ำ
เทพมหาทัณฑ์ปรากฏตัวขึ้น พินิจดูหานฮวง
เขาไม่ได้รบกวนหานฮวง หานฮวงเองก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของเขาแล้วแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้น ยังคงฝึกบำเพ็ญต่อไป
‘เทพมารอนธการ…จะไปหาได้จากไหนกันแน่’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...