บทที่ 1083 ศึกหยินหยาง
หานเจวี๋ยมุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของดินแดนเวิ้งว้างภายใต้การนำทางของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ ที่นี่ห่างไกลจากฟ้าบุพกาล โลกปฐมยุคและโลกเลือนพิสุทธิ์ ต่อให้ผู้สร้างมรรคาเปิดศึกใหญ่กันที่นี่ ก็เกิดลูกหลงไปกระทบโลกมหามรรคต่างๆ ได้ยาก ห่างไกลมากเกินพอจริงๆ ไกลถึงขั้นที่หากยอดมหามรรคจะไล่ตามมาก็ต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีแสง
หานเจวี๋ยเปิดใช้งานยอดสมบัติทั่วร่าง เว้นระยะห่างจากจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์
เหตุผลที่ยอมรับคำท้าสู้ครั้งนี้เพราะเขาอยากสร้างความตระหนกให้เจ้านวฟ้าบุพกาลสักหน่อย
ระยะนี้ภายในโลกปฐมยุคมีตัวเบี้ยจากฟ้าบุพกาลปรากฏขึ้นไม่น้อย ในบรรดานั้นมีผู้บำเพ็ญจากสำนักเลิศนพวิถีปะปนอยู่ด้วย ต้องมีแผนการแอบแฝงอยู่เบื้องหลังแน่นอน
ถึงแม้โลกปฐมยุคจะสู้ฟ้าบุพกาลไม่ได้ แต่หานเจวี๋ยไม่เกรงกลัวเจ้านวฟ้าบุพกาลเลย
เขาบรรลุผู้สร้างมรรคาระยะปลายแล้ว อีกทั้งเจ้านวฟ้าบุพกาลถูกสาปแช่งจนบาดเจ็บสาหัส ต่อให้ไม่อาจสังหารในเสี้ยววินาทีได้ แต่ต่อสู้อย่างสูสีได้แน่
ถึงอย่างไรเจ้านวฟ้าบุพกาลก็มีความเกลียดชังต่อเขาอย่างเต็มเปี่ยม หากแสดงพลังออกมาในระดับที่เหมาะสมก็น่าจะข่มขวัญได้
ปราณขาวดำสองสายเริ่มแผ่ออกมาจากรอบกายของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ หมุนวนก่อตัวเป็นฉากโลกมหามรรคแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ราวกับมีฟ้าบุพกาลเข้าสู่ดินแดนเวิ้งว้างแห่งนี้แล้ว
“ให้ข้าได้เห็นความร้ายกาจของผู้สร้างมรรคาอันดับสองหน่อยเถิด!”
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม วาจาแฝงความดูถูก
คนผู้นี้โอหังนัก!
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ว่ากันตามหลักแล้ว ผู้สร้างมรรคาไม่น่าจะเจ้าอารมณ์ขนาดนี้ หรือว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วยุเขา อยากจะหยั่งตื้นลึกหนาบางเขาหรือ
ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์และเจ้านวฟ้าบุพกาลจะดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ มิเช่นนั้นเจ้านวฟ้าบุพกาลคงไม่มีทางปล่อยให้จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์บรรลุถึงผู้สร้างมรรคาระยะกลาง
หานเจวี๋ยก็ไม่พูดไร้สาระอีก สำแดงปฐมยุคไร้สิ้นสูญออกมาทันที คมดาบแสงทัณฑ์เทพเจ็ดวิถีปรากฏขึ้นรอบกาย
คมดาบแสงทัณฑ์เทพเจ็ดวิถีเป็นสีแดง พัวพันอยู่รอบกายเขา เดี๋ยวหดสั้นเดี๋ยวยืดยาว ประกายเฉียบคมน่าหวาดหวั่นแผ่พุ่งใส่จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ที่โถมเข้ามา
เพียงเห็นแวบแรก จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ก็ทราบแล้วว่าพลังวิเศษนี้มีพลังทะลุทะลวงนัก ไม่อาจขวางตรงๆ ได้
กายเนื้อของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์พลันสลายไป หมอกขาวดำหนาทึบพลันตลบปั่นป่วน เข้าท่วมทับหานเจวี๋ยจากรอบทิศทาง ไอหมอกมหาศาลเข้ากลืนกินทั้งโลก ไม่อาจหยุดยั้งไว้ได้
หานเจวี๋ยเพ่งสายตามอง คมดาบแสงทัณฑ์เทพเจ็ดวิถีตวัดฟันไปทั่วสารทิศ เป็นความเร็วที่รวดเร็วจนทำให้เกิดภาพติดตาขึ้นนับไม่ถ้วน คล้ายจะมีดาบแสงแยกออกเป็นนับหมื่นล้าน ตัดฟันหมอกขาวดำหนาทึบอย่างทรงพลัง
หมอกขาวดำที่เข้าครอบคลุมกินพื้นที่ไปครึ่งหนึ่งของฟ้าบุพกาลพลันถูกฟันสลายไปในชั่วพริบตา เหลืออยู่เพียงเสี้ยวปราณนับไม่ถ้วน
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหานเจวี๋ยในทันใด มือข้างหนึ่งที่เต็มไปด้วยลวดลายแปลกประหลาดยื่นออกมา ชั่วพริบตานั้น วังวนขาวดำปรากฏขึ้นด้านหลังหานเจวี๋ย คล้ายห้วงมิติที่บิดเบี้ยว ต้องการจะบดขยี้กายเนื้อของเขาเข้าไป
ฉึบ…
คมดาบแสงทัณฑ์เทพสายหนึ่งฟันเข้าใส่ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์และวังวนขาวดำสลายหายไป
หานเจวี๋ยคร้านแม้แต่จะหันหลังกลับไปด้วยซ้ำ แค่สำแดงปฐมยุคสิ้นสูญออกมา เขาก็จะอยู่ในจุดที่ไม่มีทางพ่ายแพ้แล้ว
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เคลื่อนย้ายปรากฏกายไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ปรากฏกายขึ้นล้วนจะถูกปฐมยุคไร้สิ้นสูญหาตัวพบ ถูกทำลายล้างซ้ำไปซ้ำมา แต่เขากลับไม่ยอมแพ้ พยายามหาช่องโหว่ให้ได้
สามผู้สร้างมรรคาที่อยู่ห่างออกไปเห็นแล้วตกตะลึง
“นั่นคือพลังวิเศษใดกัน”
“ไม่ใช่แค่รวดเร็วเหนือธรรมดาเท่านั้น ไม่ว่าศัตรูปรากฏตัวที่ใดก็ตามไปสังหารได้ทันที ให้ความรู้สึกคล้ายบ่วงกรรมเชื่อมโยงอย่างยิ่ง”
“พลังวิเศษนี้ของอริยะสวรรค์เกรียงไกรแข็งแกร่งยิ่ง ข้าเทียบไม่ติดเลย”
เรื่องที่สามผู้สร้างมาชมการต่อสู้ หานเจวี๋ยและจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ล้วนทราบเรื่องทั้งสิ้น แต่ไม่ใส่ใจก็เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...