บทที่ 1107 เทพมารอนธการแฝด
อนธการเริ่มเปิดฉากสังหารหมู่สรรพสิ่งฟ้าบุพกาล เมื่อพลังแกร่งกล้าทั้งเจ็ดสายมาถึง สำนักเลิศนพวิถีก็บุกตะลุยไปอย่างทรงพลังไม่อาจหยุดยั้งได้
เวลาผ่านไปไม่ถึงพันปี สำนักเลิศนพวิถีผงาดขึ้นมาต่อสู้กับอนธการ เก้ามหาฟ้าบุพกาลต่างบุกเข้าโจมตีทัพใหญ่อนธการ ควบคุมการโจมตีล้างบางของอนธการ
สำนักเลิศนพวิถีนำพาความหวังมาสู่ฟ้าบุพกาล สิ่งมีชีวิตเร่ร่อนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงกองกำลังฟ้าบุพกาลที่ถูกอนธการกดขี่ต่างเริ่มเข้าร่วมกับสำนักเลิศนพวิถี
สำนักเลิศนพวิถีเปรียบเสมือนความหวังเพียงหนึ่งเดียวของฟ้าบุพกาล
ชื่อเสียงของเก้ามหาฟ้าบุพกาลก็เริ่มแพร่กระจายออกไป ไม่ทราบว่าตำนานฟ้าบุพกาลขจัดอนธการเริ่มมาจากที่ใด แต่แพร่ลือไปในห้วงอวกาศอันสับสนวุ่นวาย
หานเจวี๋ยและต้นฝูซังเดินทางข้ามฟ้า พานพบศึกระหว่างอนธการและฟ้าบุพกาลเป็นครั้งคราว แต่ล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา
ต้องกล่าวเลยว่า ตอนนี้อนธการเหี้ยมหาญเหลือเกิน มีผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งต้องการสังหารพวกหานเจวี๋ยทั้งสอง แน่นอนว่าย่อมจุดจบไม่ดี
ในวันนี้
หานเจวี๋ยและต้นฝูซังเดินทางมาถึงดินแดนแห่งหนึ่ง ที่นี่คืออาณาเขตของเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ มีความคล้ายคลึงกับเผ่ามนุษย์แห่งมรรคาสวรรค์ แม้แต่รูปแบบโครงสร้างของเมืองก็ยังมีความคล้ายคลึงกันยิ่งนัก
สมกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่ผานกู่และบรรพชนเต๋าสร้างขึ้น
หานเจวี๋ยเดินปะปนอยู่ท่ามกลางมนุษย์มากมายไม่ขาดสาย พลันมีแจ้งเตือนระบบเด้งขึ้นมาเบื้องหน้า
[อาณาเขตเต๋าหลักยกระดับเสร็จสมบูรณ์]
[อาณาเขตเต๋าแห่งที่สองยกระดับเสร็จสมบูรณ์]
[อาณาเขตเต๋าแห่งที่สามยกระดับเสร็จสมบูรณ์]
[อาณาเขตเต๋ายกระดับ ค่ายกลยกระดับเป็นแข็งแกร่งไร้ขีดจำกัด ขอบเขตมิติภายในอาณาเขตเต๋าขยายใหญ่ขึ้น]
[พลังวิญญาณต่างๆ ในอาณาเขตเต๋าเพิ่มขึ้นพันเท่า]
[อาณาเขตเต๋าปิดกั้นการสอดส่องทุกประเภทได้]
ความแข็งแกร่งไร้ขีดจำกัดอันยอดเยี่ยม
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ต่อให้มีเทพผู้สร้างรายที่สองปรากฏขึ้น ก็ไม่สามารถบุกเข้าสู่อาณาเขตเต๋าได้
ในตอนนี้อาณาเขตเต๋าได้วิวัฒนาการกลายเป็นสถานที่ที่มั่นคงปลอดภัยที่สุดในดินแดนเวิ้งว้าง
ถึงแม้ระบบและหานเจวี๋ยจะอยู่ในรูปแบบการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ระบบดำรงอยู่มานานอย่างยิ่ง พลังที่สะสมไว้ทั้งหมดย่อมเหนือกว่าระดับของหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยไม่ได้ใส่ใจมากนัก มุ่งหน้าต่อไป
เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ล้นหลามไม่ขาดสาย ไม่ได้รับผลกระทบจากเพลิงสงครามฟ้าบุพกาลเลย
มนุษย์ของที่นี่ล้วนมีตบะสูงมาก ถือกำเนิดขึ้นมาก็อยู่ในระดับเซียน เอาแค่ภายในเมืองแห่งนี้หานเจวี๋ยก็พบเห็นอริยะเบิกฟ้าหลายร้อยคนแล้ว
ต้นฝูซังก็รู้สึกสนใจเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์มากเช่นกัน แต่ก่อนนางไม่สังเกตเห็นเลยว่าในฟ้าบุพกาลมีเผ่ามนุษย์เช่นนี้ปรากฏขึ้นมาด้วย ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน
บางทีอาจเป็นเพราะถือกำเนิดขึ้นก็อยู่บนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนแล้ว นางจึงมีความสนใจใคร่รู้ในตัวเผ่ามนุษย์ตามธรรมชาติ
ในเวลานี้เอง แรงกดดันมหาศาลทรงพลังเข้าปกคลุม ทำให้มนุษย์ที่เดินขวักไขว่อยู่บนถนนต่างหยุดนิ่งลง ชะงักเท้าเงยหน้ามอง
ไม่มีผู้ใดตระหนกตกใจ เพียงเงยหน้ามองอย่างสงบ คล้ายจะเป็นเรื่องปกติ
“เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์จงฟัง ภายในหนึ่งปีนี้จงเตรียมตัวให้พร้อม ปีหน้าจะต้องออกศึกกับสำนักเลิศนพวิถีแห่งฟ้าบุพกาล ทุกคนต้องเตรียมใจที่จะตายเอาไว้ ไม่ว่าชายหรือหญิงหนุ่มหรือแก่ ล้วนต้องออกศึกทั้งเผ่า!”
นี่คือเสียงของหงจวิน
เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ไม่ได้ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้เลย ตรงกันข้ามสีหน้าของคนส่วนใหญ่ล้วนฉายแววคาดหวังและตื่นเต้น
หานเจวี๋ยสอดส่องดูได้แล้วว่าร่างจริงของบรรพชนเต๋าอยู่ที่ใด
คนผู้นี้ตัดแบ่งวิญญาณออกไปมากมายหลายร้อยล้านเสี้ยว หงจวินก็คือหนึ่งในนั้น ส่วนวิญญาณหลักหลบซ่อนอยู่ในดินแดนเวิ้งว้าง พึ่งพาสมบัติวิเศษบ่วงกรรมชิ้นหนึ่ง สมบัติวิเศษบ่วงกรรมชิ้นนี้คือยอดสมบัติเลิศมรรคา ผู้สร้างมรรคาทั่วไปล้วนจึงไม่สามารถทำนายถึงเขาได้
ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยคิดว่าบรรพชนเต๋าเสี่ยงเป็นภัยคุกคาม แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นอยู่ในสายตาแล้ว ดังนั้นจึงคร้านจะสนใจ
“นายท่าน พวกเราไปดูกันดีหรือไม่”
ต้นฝูซังถามอย่างมีความหวัง สำนักเลิศนพวิถีดั่งดวงตะวันกลางหาว เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์กล้าประจันกับสำนักเลิศนพวิถี ศึกนี้ต้องดุเดือดแน่นอน
หานเจวี๋ยเอ่ยยิ้มๆ “ได้”
เขาก็อยากเห็นกำลังของสำนักเลิศนพวิถีอยู่พอดี
“เจ้าติดตามเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ไปเถิด ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาค่อยไปพบกันที่สนามรบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...