ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1115

สรุปบท บทที่ 1115 ศึกตัดสินเปิดฉากขึ้นแล้ว!: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1115 ศึกตัดสินเปิดฉากขึ้นแล้ว! – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 1115 ศึกตัดสินเปิดฉากขึ้นแล้ว! ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1115 ศึกตัดสินเปิดฉากขึ้นแล้ว!

“เจ้าแดนต้องห้าม…อันธการ…”

ซูฉีกัดฟันเอ่ย ไม่แปลกเลยที่ก่อนหน้านี้จะไม่เห็นเงาร่างเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ที่แท้ก็ซ่อนตัวอยู่บนหัวอนธการสิ้นแสง

หานเจวี๋ยไม่สนใจซูฉีอีก

มหามรรคอัมพรโจวซ่งถอนหายใจเอ่ยไปว่า “ทนไปเถอะ หนีไม่รอดหรอก”

ซูฉีไม่ได้นึกสงสัยในคำพูดเขาเลย มหามรรคอัมพรโจวซ่งมีชื่อเสียงก้องฟ้าบุพกาลแต่ก็ยังมีบทลงเอยที่น่าอนาถเช่นนี้ เพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแข็งแกร่งมากเพียงใด

หลังอนธการสิ้นแสงพบว่าซูฉีหายไป มันคำรามอย่างไม่สบอารมณ์ทันที

เหยื่อที่หาพบได้ยากหายตัวไป เป็นใครก็ต้องหงุดหงิดทั้งนั้น

หานเจวี๋ยทอดสายตามองออกไปไกลๆ

เขามองเห็นหานฮวง สื่อหยวนหงเหมิง หวงจุนเทียนและเก้ามหาฟ้าบุพกาลกำลังหารือกันว่าจะจัดการตนอย่างไรดี

รอจนพวกเขามาจัดการหานเจวี๋ย หานเจวี๋ยก็จะกระตุ้นให้เกิดมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ขึ้น

มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ครานี้อาจจะดำเนินไปหลายร้อยล้านปี หรือถึงขั้นที่นานยิ่งกว่านั้น

ไม่นานนัก อนธการและฟ้าบุพกาลประกาศร่วมมือกัน ขณะเดียวกันก็ประกาศว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการน่ากลัวมากเพียงใด เป็นภัยคุกคามต่อฟ้าบุพกาลมากขนาดไหน

สาวกลัทธิอันธการออกเข่นฆ่าสรรพสิ่งไปทั่วสารทิศ ยิ่งทำให้สรรพสัตว์ตัดสินใจขึ้นมาแล้วว่าจะจัดการเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

ห้าพันปีต่อมา อนธการและฟ้าบุพกาลระดมพลอริยะมหามรรคทั้งหมดมาชุมนุมกันในห้วงอวกาศแห่งหนึ่ง ตั้งด่านขวางทางไปของอนธการสิ้นแสงอยู่ที่นี่

หานฮวง สื่อหยวนหงเหมิง หวงจุนเทียน เก้ามหาฟ้าบุพกาล ผู้แข็งแกร่งเหนือชั้นทั้งหมดสิบสองคนยืนเรียงแถวกัน แต่ละคนแกร่งกล้าทรงพลัง กินกันไม่ลงเลย สั่นสะเทือนห้วงอวกาศอันมืดมิด

จ้าวซวงเฉวียนเอ่ยขึ้นว่า “เดิมทีมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างอนธการและฟ้าบุพกาล แต่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการผู้นั้นกลับหาญกล้ามาท้าทายฟ้าบุพกาลและอนธการ ต้องการทำลายมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ น่าชังโดยแท้ ถึงแม้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะแข็งแกร่ง แต่หากพวกเราร่วมมือกันจะต้องทำลายล้างเขาได้แน่!”

คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นผู้ทรงพลัง ดังนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยเรื่องศีลธรรมที่มีไว้หลอกลวงสรรพสิ่งเหล่านั้นอีก

หานฮวงเอ่ยต่อว่า “เหล่าอนธการเอ๋ย เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจำเป็นต้องตาย มิเช่นนั้นหากยุคแห่งอันธการมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นฟ้าบุพกาลหรือว่าอนธการ ล้วนไม่อาจดำรงอยู่ต่อไปได้ นี่คือศึกตัดสิน ไม่มีโอกาสที่สองแล้ว พ่ายแพ้มีเพียงความตาย พวกเจ้าทั้งหมดล้วนต้องทุ่มเทอย่างสุดกำลัง หากอยากหลบหนี พวกเจ้านึกจริงๆ น่ะหรือว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะปล่อยให้พวกเจ้ารอดไปได้”

“นึกถึงสาวกอันธการเหล่านั้นเถิด เป็นผู้ใดกันเล่า ล้วนเป็นคนไร้ห่วงพะวงหรือไม่ก็เป็นผู้กำหนดชะตาเคราะห์ตัวตนที่อยู่นอกเหนือไปจากมหามรรค แต่ดวงชะตาของพวกเราเชื่อมโยงกับฟ้าบุพกาล หากว่าฟ้าบุพกาลและอนธการล่มสลายไปก่อนที่ยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาถึง พวกเราล้วนต้องตายกันหมด!”

หานฮวงและจ้าวซวงเฉวียนเริ่มเอ่ยกระตุ้นขวัญกำลังใจ นี่เป็นความเข้าขาในฐานะผู้ที่มีศัตรูร่วมกัน เหล่าผู้ทรงพลังในที่นี้วางใจอย่างสมบูรณ์แล้ว พวกเขานึกกลัวอยู่ว่าหานฮวงและจ้าวซวงเฉวียนจะไม่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกันด้วยใจจริง ไม่อยากต้องมาคอยระแวงกันเองในช่วงที่ต่อสู้กับอนธการสิ้นแสง

รอจนพวกเขาปราศรัยจบ สิบสองขุนพลที่นำด้วยหานฮวงและจ้าวซวงเฉวียนก็นำกองทัพมุ่งหน้าไป ยอดมหามรรคและอริยะมหามรรครีบตามหลังไปติดๆ แต่ละคนนำสมบัติวิเศษออกมา จิตใจตึงเครียด

สี่ผู้ทรงพลังครึ่งก้าวสู่ผู้สร้างโผล่มาจากทิศทางที่ต่างกันไป พวกเขาคือร่างแยกของเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล มหาเทวาพ้นนิวรณ์ มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญและจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์

พวกเขาไม่ได้พูดอันใดมาก เข้าร่วมขบวนของพวกหานฮวงทันที ทุกคนต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อทอดสายตามองทะลุจักรวาลนับไม่ถ้วนไป พวกเขามองเห็นเงาร่างของอนธการสิ้นแสงแล้ว กำลังมุ่งหน้ามาอย่างเชื่องช้า เซื่องซึมหาวนอน พ่นไอโลหิตที่ทำให้คนสะอิดสะเอียนออกมา ก่อตัวเป็นหมอกคาวคลุ้งบดบังจักรวาล

บรรยากาศน่าหวาดผวาเข้าครอบงำกองทัพอนธการและฟ้าบุพกาล

วงแสงดวงแล้วดวงเล่าปรากฏขึ้นรอบขบวนทัพ เงาร่างใหญ่มโหฬารมากมายกระโจนออกมาจากด้านใน

เหล่าดวงจิตมหามรรคอย่างเทพมหาทัณฑ์ เทวีตราวินัยและพวกนักพรตเต๋าเสินเผาปรากฏตัวขึ้น ในบรรดานั้นรวมไปถึงกลุ่มเทวทัณฑ์ด้วย มีจำนวนมากมายหลายร้อยคน

บรรพชนเทพปฐมกาลก็มาเช่นกัน เขาจ้องมองเทพมหาทัณฑ์ด้วยแววตาเย็นชา แฝงเจตนาสังหารเลือนราง

หานทั่ว อี๋เทียนและพวกชื่อฝาห้าเทวทัณฑ์รุ่นบุกเบิกก็มาเช่นกัน

ทว่าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมขบวนทัพของสำนักซ่อนเร้น แต่ไปเข้าขบวนฟ้าบุพกาล

หง่าง…

เสียงระฆังดังก้องแว่วเข้ามา แสงเจิดจ้าขับไล่ความมืดมิด เรือนร่างสะโอดสะองที่ใหญ่โตมโหฬารพอๆ กับอนธการสิ้นแสงปรากฏตัวขึ้น มีเงาร่างเล็กจ้อยมากมายรายล้อมรอบกายนาง เนืองแน่นเรียงราย ราวกับหมู่ดวงดารา

จักรพรรดิแห่งวังจักรพรรดิมหาโชค!

หานหลิงนำกองทหารจักรพรรดิมุ่งหน้ามา หานเย่ หานเหยาและหานป้าเสินที่อยู่ด้านหลังก็นำกองทัพอริยะมหามรรคทั้งหมดของวังจักรพรรดิมหาโชคมาด้วยแช่นกัน

ไม่มีผู้ใดตระหนกตกใจ ผู้ทรงพลังทั้งหมดล้วนยอมรับทุกอย่างที่เกิดโดยปริยาย มีกองกำลังทุกหัวระแหงมุ่งหน้ามาเข้าร่วม ขวัญกำลังใจของพวกเขาเพิ่มสูงไร้ขีดจำกัด

กองกำลังจากขั้วอำนาจต่างๆ อย่างราชันฟ้าบุพกาลอุดรทิศ เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ เจ้าหุบเหวสุดเขตประจิม กองกำลังจากผลาญนภา พ้นนิวรณ์เป็นต้นค่อยๆ มาถึง

ทะลุผ่านห้วงจักรวาลไปชั้นแล้วชั้นเล่า ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นอนธการสิ้นแสงแล้ว

หานเจวี๋ยตั้งใจเผยตัวให้พวกเขาได้เห็น

“ซูฉี!”

หลี่เต้าคงขมวดคิ้ว เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันใด

“รนหาที่ตาย!”

เทพมารขุนพลสวรรค์เข้าโจมตีทันที เทพมารฟ้าบุพกาลอีกหลายสิบตนแห่งสำนักซ่อนเร้นตามเขาไปติดๆ ศิษย์คนอื่นๆ ก็รีบไล่ตามไปเช่นกัน ด้วยกลัวว่าพวกเขาจะเสียเปรียบ

พอเห็นเช่นนี้ หานฮวงตะโกนสั่งทันที “บุก!”

เขาย่อตัวกระโจนออกไป ปฐมยุคสิ้นสูญปรากฏขึ้นจากฝ่ามือเขา เหวี่ยงคมดาบทัณฑ์เทพฟันเข้าใส่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการที่อยู่บนหัวอนธการสิ้นแสง

“โฮก…”

อนธการสิ้นแสงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว คลื่นเสียงน่าหวาดหวั่นกวาดม้วนไปทั่ว ห้วงมิติพังทลายลงชั้นแล้วชั้นเล่าอย่างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

หานฮวงไม่ทันป้องกัน ถูกกระแทกลอยละลิ่วออกไป พุ่งขึ้นไปด้านบน กระแทกกับมหามรรคสามพันวิถีในชั่วพริบตา

‘เป็นไปได้อย่างไร! เหตุใดเด็กคนนี้ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้’

หานฮวงคิดอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เขาคือผู้ที่สร้างอนธการสิ้นแสงขึ้นมา!

ไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้น เทพมารฟ้าบุพกาลทั้งหมดก็ถูกเหวี่ยงปลิวออกไป ยอดมหามรรคที่เข้าโจมตีตามหลังมาก็เช่นกัน

“มีฝีมือเพียงเท่านี้ยังคิดจะปกป้องฟ้าบุพกาลอีกหรือ ฝันเฟื่องนัก!”

น้ำเสียงเยาะเย้ยของหานเจวี๋ยดังขึ้น นั่นคือเสียงในแบบของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เย็นชาเย้ยหยันรวมถึงหมิ่นแคลน

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ