มารหลัวฉิวรับปาก สำหรับเรื่องนี้เขาไม่ได้นำมาใส่ใจ
ต้าเยี่ยนไกลเกินไป เขาถึงคร้านที่จะไป
อีกอย่างจอมมารก็รับเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปอีก
สำหรับคำสั่งของจี้ไน่เหอ มารหลัวฉิวรู้สึกต่อต้านเป็นอย่างยิ่ง
‘เพิ่งพบหน้าก็สั่งให้ข้าไปทำงานแล้วหรือ’
‘ข้าบอกว่าข้ายินดีรับใช้เจ้า ก็แค่พูดตามมารยาทเท่านั้น!’
‘ว่าแต่ผู้บำเพ็ญที่มีนามว่าหานเจวี๋ยทำอะไรกับจี้ไน่เหอกันแน่ ถึงทำให้จี้ไน่เหออยากจะฆ่าเขาเช่นนี้’
‘จี้ไน่เหอเพิ่งกลับมานานเพียงใด’
มารหลัวฉิวเกิดรู้สึกสนใจในตัวหานเจวี๋ยขึ้นมาในทันที
ในสายตาของเขา ผู้ที่ตกตายบนเส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียรจะถูกลิขิตให้ไม่ได้รับมหามรรคา ล้วนเป็นผู้แพ้ทั้งสิ้น
จี้ไน่เหอเป็นเพียงเครื่องมือในการฟื้นฟูฝ่ายมารก็เท่านั้น!
หลังจากนั้น มารหลัวฉิวก็คารวะแล้วจากไป
จี้ไน่เหอมองดูแผ่นหลังของเขา ดวงตาทอประกาย
……
[มารหลัวฉิวเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]
ใบหน้าของหานเจวี๋ยเต็มไปด้วยคำถาม นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
หรือว่าถูกสาปจนเพี้ยนไปแล้ว
เขารีบเปิดดูค่าความสัมพันธ์ทันที
[มารหลัวฉิว: ระดับมหายานขั้นสี่ หนึ่งในห้ามารอาวุโส เนื่องจากไม่พอใจที่จี้ไน่เหอไม่ไว้หน้าตน จึงเกิดความสนใจในตัวท่านที่จี้ไน่เหออยากสังหาร ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]
หานเจวี๋ยเบิกบานขึ้นมาแล้ว ห้ามารอาวุโสกับจี้ไน่เหอจะเกิดความขัดแย้งกันเองหรือ
เขารีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เล่นกับสภาพจิตใจของมารหลัวฉิวต่อ ไม่แน่ว่ามารหลัวฉิวที่หัวรุนแรงอาจจะฉีกหน้าจักรพรรดิมารด้วยสาเหตุนี้ก็ได้!
……
สามปีต่อมา
ตบะของฟางเหลียงติดอยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นเก้า สวินฉางอันพบว่าคุณสมบัติของเขามาถึงปลายทาง ไม่อาจก้าวหน้าไปได้อีกขั้นแล้ว
เมื่อฟางเหลียงทราบเรื่องนี้ก็รู้สึกราวกับถูกอสนีบาตฟาดผ่า วิญญาณหลุดออกจากร่าง
ในเวลานั้นเอง หานเจวี๋ยเรียกเขาเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
ฟางเหลียงรู้สึกตระหนก หรืออาจารย์ปู่จะขับไล่เขาออกจากสำนัก
ไก่คุกรัตติกาล หยางเทียนตงและมู่หรงฉี่ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์ คุณสมบัติของเขาเทียบไม่ได้อย่างแน่นอน
หลังจากเข้าไปในถ้ำเทวาแล้ว ฟางเหลียงเดินอ้อมหญ้าโลกาสวรรค์อย่างระมัดระวัง มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหานเจวี๋ย
“ศิษย์หลานคารวะอาจารย์ปู่”
ฟางเหลียงเอ่ยด้วยความตื่นเต้น ไม่กล้ามองหน้าหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยยกมือขึ้นวางไว้บนหน้าผากของเขา พลังวิญญาณหกวิถีตรวจสอบเข้าไปในร่างของเขา
ภายในร่างของฟางเหลียงมีปราณกลุ่มหนึ่งขัดขวางอยู่ที่จุดตันเถียนของเขา ทำให้เขาไม่อาจฝึกฝนจนถึงระดับรวมแก่นปราณได้
ปราณกลุ่มนี้ลึกลับมาก ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาคนอื่นๆ ก็ล้วนไม่อาจค้นพบ ไม่แปลกใจที่สวินฉางอันจะไม่เห็น
หานเจวี๋ยกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ฟางเหลียง สิ่งที่เจ้าแสวงหาในการบำเพ็ญเพียรคือสิ่งใด”
ฟางเหลียงตื่นตระหนกจนถึงขีดสุด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงกล่าวออกมาว่า “กลายเป็นเซียน”
“กลายเป็นเซียนเพื่อสิ่งใด”
“ย่อมเพื่อมีชีวิตอมตะ”
“เจ้าจะถูกอำนาจ ผลประโยชน์และสตรีพัวพันการฝึกฝนของเจ้าหรือไม่”
“อดีตไม่ อนาคตก็ไม่เช่นกัน บิดามารดาของข้าตายไปแล้วทั้งคู่ ไร้ที่พึ่งพาอาศัย เป็นอาจารย์ปู่ที่รับข้าไว้ แนวคิดการบำเพ็ญเพียรของอาจารย์ปู่ข้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นของชั้นล่าง มีเพียงการบำเพ็ญเพียรที่สูงส่ง!”
“หากข้าให้โอกาสเจ้าบินขึ้นฟ้า ภายภาคหน้าเจ้าจะเป็นอย่างไร”
“อา…ข้ายินดีพลีชีพเพื่ออาจารย์ปู่อย่างไม่เสียดาย!”
“หืม?”
“ไม่สิ ข้าจะมุ่งมั่นฝึกฝน ไม่สนใจเรื่องทางโลก! ไม่สร้างปัญหาให้อาจารย์ปู่อย่างเด็ดขาด!”
มองเห็นท่าทีประหม่าของฟางเหลียงแล้ว หานเจวี๋ยก็พยักหน้าลงด้วยความพอใจ
เช่นนี้สิถึงจะถูกต้อง!
หานเจวี๋ยนำพลังวิญญาณหกสายของตนใส่เข้าไปในร่างของฟางเหลียงทันที เอ่ยเสียงเบาขึ้นว่า “อาจารย์ของเจ้าบอกว่าพรสวรรค์ของเจ้าใช้ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะสร้างพรสวรรค์ให้เจ้าเอง!”
ฟางเหลียงรับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณที่โหมซัดสาดภายในร่าง สีหน้าของเขาดูประหลาดใจและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
ตบะของอาจารย์ปู่สูงส่งเพียงใดกันแน่
[ความประทับใจที่ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]
5 ดาว?
ยังไม่นับว่าสูงที่สุด!
หานเจวี๋ยแอบรู้สึกไม่พอใจ ก่อนกล่าวออกมา “หึ! ชะตามีจำกัด ศิษย์หลานของข้าจะถูกจำกัดจากชะตาได้อย่างไร!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะสละพลังมรรคสักหน่อย!”
คำพูดพึมพำกับตัวเองของเขานี้ทำให้ฟางเหลียงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เพื่อตัวเองแล้ว อาจารย์ปู่ถึงกับยอมสละพลังมรรค…
ดวงตาของฟางเหลียงแดงก่ำขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...