ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 141

บทที่ 141 ศิษย์หลานผู้แข็งแกร่ง เสียงดังสนั่นโลกา

จี้เซียนเสินกล่าวจบก็พบว่าหานเจวี๋ยมีสีหน้ากังวล ทำให้เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

ดูท่าพรสวรรค์ของตนยังคงสามารถสั่นสะเทือนอีกฝ่ายได้!

เพียงได้ยินหานเจวี๋ยกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “หากครั้งนี้ข้าชนะ หลังจากนี้เจ้าจะยังมาแลกมือกับข้าอีกหรือไม่”

เมื่อจี้เซียนเสินได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจทันที

‘หมายความว่าอย่างไร

เจ้าจะอวดดีเกินไปหน่อยแล้ว!’

“ไม่มีทาง! ข้าจี้เซียนเสินไร้คู่ต่อกรในใต้หล้า ก่อนหน้านี้ก็เพียงแค่ขอบเขตพลังอ่อนกว่าเจ้า ตอนนี้ข้าจะต้องชนะเจ้าอย่างแน่นอน!” จี้เซียนเสินสะบัดแขนเสื้อกล่าว

“เจ้าก็ใช้กระบวนท่าที่สังหารจักรพรรดิมารนั้น ข้าจะรับมันเอง!”

หานเจวี๋ยอับจนคำพูดขึ้นมาในทันที

‘เหตุใดคนหนุ่มต้องรนหาที่ตายให้จงได้’

เขากล่าวด้วยความลังเล “ไม่จำเป็นหรอกกระมัง”

จี้เซียนเสินแค่นเสียงกล่าวอย่างไม่พอใจ “เหตุใดเล่า เจ้ากลัวจะแพ้ข้าหรือ วันนี้เจ้าจะต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ!”

หานเจวี๋ยทอดถอนใจ หลังจากนั้นก็ยกมือขวาขึ้น ครั้งนี้เขายกนิ้วกลางให้กับจี้เซียนเสิน

ไหล่ทั้งสองของจี้เซียนเสินยกขึ้น อัสนีสีทองพุ่งออกมาพันร่างของเขาไว้รอบกาย ก่อตัวเป็นเจดีย์สีทองอันแข็งแกร่ง

หานเจวี๋ยกระตุ้นพลังวิญญาณหกสาย เริ่มรวบรวมพลัง เตรียมพร้อมแสดงดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพ

เขาลังเลมาก

‘ควรใช้พลังวิญญาณกี่ส่วน’

หานเจวี๋ยยกระดับพลังวิญญาณในนิ้วกลางจนถึงสามส่วน กลิ่นอายอันน่ากลัวทำให้จี้เซียนเสินขมวดคิ้ว

“นี่ก็คือปราณกระบี่ที่ใช้สังหารจักรพรรดิมารหรือ คาดไม่ถึงว่าจะใช้ดรรชนีเป็นกระบี่ ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

จี้เซียนเสินลอบคิดอย่างอกสั่นขวัญหาย

เมื่อพลังวิญญาณในนิ้วกลางของหานเจวี๋ยถูกยกระดับถึงห้าส่วนนั้น จี้เซียนเสินก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าขึ้นมา

‘แย่แล้ว!

จะต้านทานได้หรือไม่

จะตายหรือไม่’

ความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นในสมองของจี้เซียนเสิน

‘เป็นไปได้อย่างไรกัน!

ข้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาของจวนเซียนสวรรค์ จะตายได้อย่างไร!’

หานเจวี๋ยยกระดับพลังวิญญาณของดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพอย่างต่อเนื่อง

แปดส่วน!

“ช้าก่อน!”

จี้เซียนเสินตะโกนร้องเรียกให้หยุดในทันใด เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา

หานเจวี๋ยเก็บมือ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “เหตุใดเล่า”

จี้เซียนเสินรู้สึกโล่งใจอย่างอดไม่ได้ ปรางแก้มของเขาแดงเล็กน้อย กล่าวว่า “ช่างเถิด ในเมื่อเจ้าไม่อยากให้ข้ารบกวนเจ้า เช่นนั้นข้ารอเจ้ามีเวลาว่างแล้วค่อยมาหาใหม่”

“ขอลา!”

กล่าวจบจี้เซียนเสินก็หมุนตัวจากไป เขากลายเป็นเศษเงาหายไปท่ามกลางป่าเขาอย่างรวดเร็ว

หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา

‘เจ้าหมอนี่น่ารักอยู่บ้างแฮะ

นี่ก็คืออันดับหนึ่งในใต้หล้าหรือ’

หานเจวี๋ยกลับเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทานอีกครั้ง

อู้เต้าเจี้ยนถามด้วยความใคร่รู้ “เมื่อครู่ท่านไปไหนมาหรือ”

“ไปพบสหายท่านหนึ่ง”

“ชายหรือหญิง”

“หืม? เกี่ยวอะไรกับเจ้า”

เมื่อเห็นหานเจวี๋ยขมวดคิ้ว อู้เต้าเจี้ยนก็ลนลาน นางรีบร้อนโบกมือกล่าว “ข้าเพียงเป็นห่วงท่าน!”

หานเจวี๋ยคร้านที่จะสนใจนาง เขาหลับตาลงทันที นำจิตรับรู้ย้ายเข้าไปในหุ่นเชิดแห่งสวรรค์ของสิงหงเสวียนอีกครั้ง

เขาตรวจสอบอารามเต๋าต่อ พบว่าในอารามเต๋ามีเพียงเศษเสี้ยววิญญาณดวงนั้น

ส่วนกลไกลควบคุมก็มีระดับความอันตรายที่ต่ำมาก

หานเจวี๋ยไม่ได้ตรวจสอบอีก

รอสิงหงเสวียนตื่นขึ้นมา เขาต้องเตือนนางทั้งสองสักหน่อยว่าอย่าได้รบกวนเศษเสี้ยววิญญาณดวงนั้น

‘หากว่าแข็งแกร่งมากเล่า’

จากประสบการณ์ในการอ่านนิยายแนวบำเพ็ญเซียนของหานเจวี๋ยในชาติก่อน ในโลกหล้านี้จะต้องมีผู้ทรงพลังซ่อนอยู่ไม่น้อย ไม่แน่ว่าในโลกมนุษย์อาจจะมีการดำรงอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถพลิกคว่ำแดนทั้งหกซ่อนอยู่ก็ได้!

ไม่แน่ว่าเซียนอิสระอาจจะมีมากเหมือนสุนัข ยุคที่ระดับมหายานเดินอยู่ทุกหนทุกแห่งอาจจะมาถึงก็ได้

หานเจวี๋ยนำพลังจิตกลับเข้ามาในถ้ำเทวา และทำการฝึกฝนต่อ

เขาจำเป็นต้องรักษาระดับความเร็วในการฝึกฝนนี้ไว้ จะต้องเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น ไม่อาจช้า ไม่อย่างนั้นเขาไม่อาจสงบใจได้

……

ห้าปีต่อมา

ตู้ขู่ผู้อาวุโสรับเชิญของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็มาเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ย เขามาบอกลาเพื่อเตรียมขึ้นสู่สวรรค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ