บทที่ 155 การประลองของอันดับหนึ่งในหล้า
ระดับความประทับใจเพิ่งจะ 4 ดาว?
หานเจวี๋ยลอบทอดถอนใจ ไม่ได้สนใจพวกบรรดาศิษย์และศิษย์หลาน เดินตรงไปทางถ้ำเทวาของสิงหงเสวียน
เมื่อเข้ามาภายในถ้ำเทวาของสิงหงเสวียน หานเจวี๋ยก็ได้รับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นจากนางทันที
เดิมทีหานเจวี๋ยอยากจะพูดคุยกับนางก่อน คิดไม่ถึงว่านางจะใจร้อนยิ่งนัก
เขาจำต้องใช้พลังเวทปิดครอบถ้ำเทวาแห่งนี้เอาไว้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีเสียงการเคลื่อนไหวดังเล็ดลอดออกไป
หนึ่งเดือนต่อมา
ทั้งคู่อาภรณ์สะอาดเรียบร้อย นั่งหันหน้าเข้าหากัน
หานเจวี๋ยหยิบมงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ออกมา ส่งมอบให้กับสิงหงเสวียน
สิงหงเสวียนรับไว้ด้วยความปลาบปลื้ม และไม่ได้พูดคุยอย่างเกรงใจกับเขาอีก
นางหยิบโอสถที่ตนเองได้มาโดยบังเอิญออกมาด้วยคิดอยากมอบให้หานเจวี๋ย แต่ถูกหานเจวี๋ยปฏิเสธเสียก่อน
“สิ่งของของโลกมนุษย์ ข้าไม่ต้องการแล้ว หลังจากนี้เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดีเถิด” หานเจวี๋ยยิ้มกล่าว
แม้เขาจะมีสาวงามคู่ใจไม่น้อย แต่คนที่เขาชอบมากที่สุดก็ยังเป็นสิงหงเสวียน
ยามรู้สึกรักนั้นง่ายดาย ยามเลิกรักกลับยากยิ่งนัก
การชอบพอคนผู้หนึ่ง บางทีอาจเป็นเพราะนางหน้าตาสะสวย อาจเป็นเพราะนางพูดจาตรงใจเจ้า และอาจเป็นเพราะนางแย้มยิ้มในเวลาที่เจ้าอ่อนแอ
มีเพียงทุ่มเทออกไป ถึงสามารถพิสูจน์สถานะของคนผู้นั้นในใจเจ้าได้
ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่สิงหงเสวียนออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก หลังจากกลับมาแล้วนางล้วนมอบของล้ำค่าให้กับเขา ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไม่ได้เอ่ยขอบคุณ แต่เขาก็จดจำขึ้นใจมาโดยตลอด
หานเจวี๋ยให้สิงหงเสวียนนำหุ่นเชิดแห่งสวรรค์อกมา พูดคุยกับนางไปพลางเปลี่ยนพลังวิญญาณของหุ่นเชิดแห่งสวรรค์ให้นาง
หุ่นเชิดแห่งสวรรค์ที่มีความแข็งแกร่งระดับเซียนอิสระ หลังจากนี้หากสิงหงเสวียนออกไปข้างนอกอีก คิดอยากตายก็คงยากแล้ว
ใบหน้าของสิงหงเสวียนเปื้อนยิ้มตลอดเวลา นางเห็นว่าหานเจวี๋ยดีกับตนมากขึ้น คำพูดคำจาก็มีมากกว่าแต่ก่อน
ยามนี้นางไม่ได้เพ้อฟันอยากครอบครองหานเจวี๋ยแล้ว หวังเพียงแต่ตนเองสามารถกลายเป็นคนผู้นั้นที่สำคัญที่สุดในใจของเขาได้
หานเจวี๋ยรับรู้ได้ถึงความคิดบางอย่างของนาง แต่นี่กลับไม่สำคัญเลย
นางสามารถคิดสารพัดวิธีเพื่อเอาใจเขา แล้วเขายังต้องถือสาอะไรอีก
ด้วยการบอกเล่าของสิงหงเสวียน หานเจวี๋ยก็ได้เข้าใจสถานการณ์ในช่วงนี้ของแดนบำเพ็ญพรต
จวนเซียนสวรรค์เผชิญกับการโจมตีจากเผ่ามาร จนเกือบถูกทำลายเสียย่อยยับ โชคดีที่แดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ลงมือช่วยเหลือ สุดท้าย จี้เซียนเสินอาศัยพลังแห่งตนสยบสังหารมารแท้ทั้งหมด ชื่อเสียงสั่นสะท้านทั่วทั้งใต้หล้า!
จี้เซียนเสินในยามนี้กลายเป็นที่หนึ่งในหล้าสมคำเล่าลือแล้ว!
“ที่หนึ่งในหล้าอะไรกัน ข้าว่าสามีข้าต่างหากถึงจะเป็นที่หนึ่งในหล้า เพียงแต่สามีข้าถ่อมตน นี่ต่างหากถึงจะเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญอย่างแท้จริง” สิงหงเสวียนแค่นเสียงกล่าว
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “รอให้เจ้ากลายเป็นที่หนึ่งในหล้า เช่นนั้นข้าถึงจะพึงพอใจอย่างแท้จริง”
“ก็ได้ ข้าจะพยายาม วันปกติข้าก็มุ่งมั่นเพียรบำเพ็ญ ไม่ได้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เสียหน่อย”
“ทำต่อไปเถิด”
หลายวันต่อมา
หุ่นเชิดแห่งสวรรค์เปลี่ยนพลังเวทเป็นเซียนอิสระ หานเจวี๋ยจึงให้สิงหงเสวียนเก็บไว้ในแหวนเก็บสมบัติ
หลังจากนั้น เขาพาสิงหงเสวียนเดินออกจากถ้ำเทวา เรียกเซียนซีเสวียน ฉางเยวี่ยเอ่อร์ หลี่ชิงจื่อและซูฉีมาที่ใต้ต้นฝูซังทั้งหมด
หานเจวี๋ยจงใจให้สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ฟางเหลียงและมู่หรงฉี่ล้อมรอบซูฉีไว้ เพื่อสยบความโชคร้ายของซูฉี ก่อนเริ่มให้โอวาทแก่กลุ่มคน
หลังจากกลายเป็นเซียนอิสระวัฏจักร ความเข้าใจที่หานเจวี๋ยมีต่อมหามรรคาก็ลึกซึ้งมากขึ้น
ทุกถ้อยคำของเขายิ่งสามารถทำให้กลุ่มคนหยั่งรู้ได้อย่างลึกซึ้ง เสียงของเขายิ่งสามารถทำให้ความสามารถในการเข้าใจของกลุ่มคนเพิ่มระดับขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะหานเจวี๋ยผสานมรรคของตนเข้าไปในน้ำเสียง ทำให้พวกเขาร่วมหยั่งรู้ไปด้วยกัน
การให้โอวาทครั้งนี้ดำเนินต่อเนื่องไปถึงหนึ่งปี
หานเจวี๋ยหยุดการให้โอวาทลง กลุ่มคนก็ได้สติตื่นรู้ขึ้นมา
[ความประทับใจที่ถูหลิงเอ๋อร์มีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]
ไม่เพียงแค่ถูหลิงเอ๋อร์ ระดับความประทับใจของคนอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยเช่นเดียวกัน
หานเจวี๋ยหยัดกายขึ้น เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “พอเท่านี้เถิด ข้าเองก็ควรไปฝึกบำเพ็ญต่อเช่นเดียวกัน”
เขาหันกายเดินกลับเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน อู้เต้าเจี้ยนรีบกุลีกุจอตามเข้าไป
หลี่ชิงจื่อกล่าวทอดถอนขึ้นว่า “นับวันผู้อาวุโสหานยิ่งเก่งกาจมากขึ้นจริงๆ รู้สึกราวกับว่ากลายเป็นเซียนไปแล้ว”
เซียนซีเสวียนเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “หากกลายเป็นเซียน เหตุใดถึงยังอยู่ที่โลกมนุษย์ได้”
คนอื่นๆ ต่างก็กำลังสงสัยใคร่รู้ถึงขอบเขตพลังของหานเจวี๋ยเช่นเดียวกัน
ซูฉีออกไปก่อนใคร รีบเร่งกลับถ้ำเทวาของตนแบบไม่หยุดพัก เข้าหยั่งรู้มหามรรคต่อ
…
หลังจากบรรลุเซียนอิสระวัฏจักร หานเจวี๋ยก็ไม่ได้ผ่อนปรน มุ่งมั่นเพียรบำเพ็ญต่อไป
ขอเพียงสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ปราศจากเคราะห์ภัยไร้อันตราย เขาก็ไม่สนว่าแดนบำเพ็ญจะประสบเภทภัยอะไร
ผ่านไปประมาณห้าปี
จี้เซียนเสินโผล่มาอีกครั้ง
“กวนอวี่อยู่ที่ใด ออกมาประลองเวท!”
ครั้งนี้ จี้เซียนเสินไม่ได้ถ่ายทอดเสียงบอกหานเจวี๋ยอีก หากแต่แหกปากตะโกนลั่น สั่นสะเทือนไปทั่วสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ทำให้ผู้คนได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ใต้ต้นฝูซัง ถูหลิงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมา สีหน้าฉายแววแปลกประหลาด
‘จี้เซียนเสินมาได้อย่างไรกัน’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...