บทที่ 189 ความทอดอาลัยของจักรพรรดิสวรรค์ จัดอันดับหมื่นโลก
ฟันแม่น้ำโชคชะตาขาดสะบั้น?
‘เก่งกาจเพียงนี้เชียว’
แม้หานเจวี๋ยจะเชี่ยวชาญมรรคกระบี่เทียมฟ้า แต่ยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นนั้น
นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นพลังวิเศษที่แข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับตบะของตนด้วย
หานเจวี๋ยเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ “แม่น้ำโชคชะตาคือสิ่งใด เหมือนกับแม่น้ำมรรคกระบี่หรือไม่ หาใช่ดำรงอยู่ที่พื้นผิว หากแต่อยู่ในพื้นที่ที่ลึกลงไปอีก?”
ตี้ไท่ไป๋เอ่ยตอบ “ไม่ผิด แม่น้ำโชคชะตาเกี่ยวโยงถึงชะตาชีวิตของทุกคน หากแม่น้ำโชคชะตาขาดสะบั้นแล้ว ชะตาชีวิตของสรรพชีวิตทั้งปวงก็ขาดลงไปด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งต้องห้าม ขุมอำนาจทุกฝ่ายล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง”
หานเจวี๋ยครุ่นคิดใคร่ครวญ
การบำเพ็ญตบะวิชานี้ซับซ้อนยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก
“รอให้เจ้าเรียนมรรคกระบี่เทียมฟ้าจนแตกฉานแล้ว อย่าลืมบอกกล่าวแก่ข้า ข้าจะต้องนำเรื่องนี้กราบทูลฝ่าบาท ให้ฝ่าบาททรงดีพระทัยสักหน่อย” ตี้ไท่ไป๋ลูบเครากล่าวยิ้มๆ
หานเจวี๋ยลังเล
‘ควรพูดดีหรือไม่’
พรสวรรค์ของเขาหากเกินจริงเกินไป จะเป็นผลให้จักรพรรดิสวรรค์ครั่นคร้ามหรือไม่
แต่เมื่อคิดอีกที จักรพรรดิสวรรค์เป็นใครกัน
เขาจะครั่นคร้ามคนรุ่นหลังคนหนึ่งได้อย่างไร
หากเป็นเช่นนี้จริง เขากับยอดแม่ทัพเทพในปีนั้นมีหรือจะรอดชีวิตมาได้
‘ไม่จำเป็นต้องปกปิด!’
หานเจวี๋ยกล่าว “ไม่ขอปิดบังท่าน ข้าช่ำชองมรรคกระบี่เทียมฟ้าแล้ว”
ตี้ไท่ไป๋กล่าวยิ้มๆ “ไม่เลวๆ เรียนได้อย่าง…อะไรนะ ช่ำชองแล้ว? เจ้าอย่าโม้น่า!”
ผู้นำเซียนฝ่ายบุ๋นท่านนี้ไม่อาจรักษาซึ่งความสุขุมได้แล้ว!
‘เป็นไปได้อย่างไรกัน!
นั่นเป็นถึงมรรคกระบี่เทียมฟ้าเชียวนะ!’
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจนใจ “คงลงมือทดลองกับผู้อาวุโสเช่นท่านไม่ได้หรอกกระมัง อีกอย่างโลกมนุษย์ก็ยากจะแบกรับไหว หากท่านไม่เชื่อ พวกเราสามารถออกไปจากโลกมนุษย์ มุ่งหน้าไปทดลองที่ห้วงอากาศว่างเปล่าก็ได้”
เหนือโลกมนุษย์เป็นฟ้าดารา เหนือฟ้าดาราหาใช่แดนเซียน หากแต่เป็นห้วงอากาศว่างเปล่าผืนหนึ่ง ห้วงอากาศที่ไร้สิ่งใด
ตี้ไท่ไป๋กล่าวทันทีว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
มือขวาของเขาโบกคราหนึ่ง เพียงพริบตาหานเจวี๋ยก็มาถึงพื้นที่อันมืดสลัว ไร้ซึ่งแสงสว่าง แต่ทั้งสองล้วนเป็นมนุษย์เซียน กายเนื้อแผ่ซ่านด้วยแสงเทพรำไร
“ร่ายสำแดงมรรคกระบี่เทียมฟ้าใส่ข้าให้เต็มกำลัง” ตี้ไท่ไป๋เอ่ยปากกล่าว
หานเจวี๋ยเองก็ไม่ออมมือ
หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป
ห้วงกาศกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ตี้ไท่ไป๋มองทางหานเจวี๋ยด้วยสีหน้าซับซ้อน
หานเจวี๋ยเองก็เป็นเช่นเดียวกัน
‘เจ้านี่ถึงกับเป็นผู้ฝึกสายกระบี่
ช้าก่อน อย่าบอกนะว่าเซียนกระบี่ที่ตี้ไท่ไป๋โม้เอาไว้ก่อนหน้านี้ก็คือตัวเขาเอง
บัดซบ
หากเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ข้าที่กำลังตบหน้าตัวเองอยู่หรือ
ความจริงแล้วหาใช่ข้าที่เต็มใจเสียหน่อย!’
หานเจวี๋ยเพียงแค่อยากแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่ได้อยากหักหน้าสร้างศัตรู
โชคดีที่ตี้ไท่ไป๋หาใช่คนใจแคบ ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้เขาคงไม่เปลี่ยนจากระดับความเกลียดชังหนึ่งดาวเป็นระดับความประทับใจสามดาวหรอก
ตี้ไท่ไป๋กล่าวทอดถอน “ข้าประเมินเจ้าต่ำไปแล้ว ฝ่าบาทเองก็ประเมินเจ้าต่ำไปเช่นกัน”
[ความประทับใจที่ตี้ไท่ไป๋มีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 4 ดาว]
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างลังเล “เรื่องนี้…”
ตี้ไท่ไป๋กล่าวยิ้มๆ “วางใจเถิด ฟ้ารู้ดินรู้ เจ้ารู้ข้ารู้ ยังมีฝ่าบาทที่ทรงทราบ ไม่มีบุคคลที่สี่ล่วงรู้อีกแน่นอน”
หานเจวี๋ยวางใจอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าฉายรอยยิ้ม
“เรื่องนี้ข้าจะรีบไปกราบทูลฝ่าบาท โชคของวังสวรรค์ โชคยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์!”
ตี้ไท่ไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ส่งหานเจวี๋ยกลับถ้ำเทวา
จากนั้น เขาก็รีบหวนกลับวังสวรรค์ทันที
หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้คิดให้มากความ บำเพ็ญตบะต่อไป
อู้เต้าเจี้ยนกลับถึงภายในถ้ำเทวา พองแก้มเอ่ยถาม “ชายชราผู้นั้นเป็นใครกัน”
หานเจวี๋ยตอบกลับ “ธุระอันใดของเจ้า”
“ข้า…”
“มรรคกระบี่ที่ถ่ายทอดให้เจ้า เรียนไปถึงไหนแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...