บทที่ 191 ระดับเซียนแท้วัฏจักร ข้ามเวลาท่องหมื่นโลก
‘ชำระล้างโลกมนุษย์?’
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว นอกจากโลกเมฆาแดง ยังมีโลกมนุษย์อื่นที่เป็นเช่นนี้อีกด้วยหรือ
เขาถ่ายทอดเสียงเอ่ยถาม “หลายปีมานี้ชำระล้างโลกมนุษย์มากเท่าไรแล้ว”
ยายเมิ่งกล่าวตอบว่า “นี่เป็นโลกมนุษย์แห่งที่สิบ”
หานเจวี๋ยนิ่งเงียบ
‘สรรพชีวิตสิบโลกเชียวนะ!
จักรพรรดิสวรรค์ช่างเหี้ยมได้ใจจริงๆ!’
หานเจวี๋ยตกใจ เขาเกือบให้ความประทับใจต่อจักรพรรดิสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยมเพราะความดีที่มีต่อเขาแล้ว
ตอนนี้ดูท่าจักรพรรดิสวรรค์คงจะดีเฉพาะกับเขาเท่านั้น
สิบโลกนั่นไม่มีบุตรแห่งสวรรค์เหมือนเช่นหานเจวี๋ย ทั้งหมดล้วนกลายเป็นเถ้าถ่านผงธุลี ช่างน่ากลัวจริงๆ
“ข้าสงสัยยิ่งนัก เหตุใดจะต้องชำระล้างโลกมนุษย์ให้ได้ด้วย” หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงเอ่ยถาม
ยายเมิ่งเองก็ไม่ได้ลังเล ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “หากโลกมนุษย์ต้องการอาศัยสายมารมาเพิ่มระดับโชคชะตาทั้งหมด เช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วโลกมนุษย์แบบนี้จะกลายเป็นแดนมาร แม้เผ่ามารจะถอนตัวจากเวทีในการเป็นตัวเอกฟ้าดินแล้ว แต่ตลอดมานั้นจิตอกุศลก็ยังไม่มอดดับ ร้อยปีก่อนก็เคยเรียกมหาเคราะห์ขึ้นครั้งหนึ่ง ทำเอาวังสวรรค์ไม่สามารถกำจัดเผ่ามารได้อย่างสิ้นซาก ทำได้เพียงจำกัดการแพร่ขยายของเผ่ามารเท่านั้น
ที่เจ้ามาหาข้าก็เพราะเรื่องนี้หรือ”
หานเจวี๋ยได้สติกลับมา ถ่ายทอดเสียงกล่าว “ย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว ข้าเพียงแต่ใคร่รู้ว่าเหตุใดโลกเมฆาแดงถึงได้มีผู้ทรงพลังกลับชาติมาเกิดมากมายขนาดนี้”
ยายเมิ่งกล่าวยิ้มๆ “เจ้าคิดมากไปแล้ว ผู้ทรงพลังของโลกเบื้องบนมีมากดุจขนวัว แต่ละวันก็ไม่รู้ว่ามีผู้ทรงพลังตั้งมากมายเท่าไรที่ดับสิ้น และก็ไม่รู้ว่ามีผู้ทรงพลังตั้งเท่าไรที่โผล่กลับมาจากวัฏจักร พวกผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่ที่อยู่ในโลกเมฆาแดงอันที่จริงก็นับว่าน้อยแล้ว จนถึงตอนนี้ โลกเมฆาแดงมีเพียงจักรพรรดิเซียนไม่กี่ท่านที่กลับชาติมาเกิด ผู้ทรงพลังที่เหนือกว่าจักรพรรดิเซียนมีเพียงคนเดียว เมื่อสามร้อยปีก่อน โลกมนุษย์อื่นยังประสบกับต้าหลัวกลับชาติมาเกิด โชคชะตาทั้งโลกเหินทะยาน สรรพชีวิตต่างดื่มด่ำกับโชคลาภที่ต้าหลัวนำมาให้”
ผู้ทรงพลังที่เหนือกว่าจักรพรรดิเซียนคาดว่าคงเป็นฉู่ซื่อเหรินแล้ว
หานเจวี๋ยตระหนักถึงความเข้าใจผิดของตน
เขาใช้สายตาของโลกมนุษย์ไปอนุมานแดนเซียน บางทีแดนเซียนอาจใหญ่ยิ่งกว่าโลกมนุษย์ทั้งหมดมารวมกันเสียอีก
เซียนทองมากมายดั่งสุนัข เซียนแท้เดินทั่วเมืองจริงๆ หรือ
หานเจวี๋ยลอบสบถออกมา
“หากถูหลิงเอ๋อร์บรรลุถึงระดับมหายานแล้ว อย่าให้นางเข้าร่วมกับวังสวรรค์” ยายเมิ่งถ่ายทอดเสียงบอกหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “ไม่เข้าร่วมวังสวรรค์ ก็จะไม่ขึ้นสู่สวรรค์หรือ”
“อืม ด้วยคุณสมบัติของนาง จะต้องถูกวังสวรรค์คัดเลือกเป็นแน่ เว้นแต่คุณสมบัติจะแย่เกินไป ถึงจะถูกสำนักบำเพ็ญเซียนของแดนเซียนเลือกตัวไป”
“ตกลง”
หานเจวี๋ยรับปากอย่างเบิกบาน
แม้เมืองยมบาลจะกลับสู่การปกครองของวังสวรรค์ ชัดเจนว่าท่านยายเมิ่งมีจิตใจที่เห็นแก่ตน ขอเพียงไม่ให้หานเจวี๋ยกับจักรพรรดิสวรรค์เป็นศัตรูกันก็พอแล้ว
หานเจวี๋ยเพียงอยากบำเพ็ญตบะอย่างเป็นสุข
หานเจวี๋ยมองดูกองทัพภูตผีเบื้องหน้าสะพานอนิจจังต่อ ไม่รบกวนยายเมิ่งอีก
ภาพฉากนี้ช่างตระการตาจริงๆ
จู่ๆ สายตาของเขาก็ตกไปบนร่างภูตผีตนหนึ่ง ด้วยตบะเซียนสวรรค์วัฏจักร เพียงแวบเดียวก็มองทะลุอดีตชาติที่ผ่านมาของเขาได้
คนผู้นี้ค่อนข้างคุ้นตาอยู่บ้าง
“ท่านผู้อาวุโส ภูตผีตนนี้ รบกวนให้เขาไปเกิดในภพที่ดีด้วย”
หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงบอกยายเมิ่ง ก่อนจะถ่ายทอดกลิ่นอายของภูตผีตนนั้นให้กับยายเมิ่ง
“อืม”
ยายเมิ่งตกปากรับคำในทันที
หานเจวี๋ยมองดูอยู่สักพัก ก่อนหน้าส่ายยิ้มๆ
หกภพก่อนภูตผีตนนั้นมีนามว่าหยางหลัว เคยจัดการธุระนอกสำนักให้กับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ และเป็นเขาที่พาหานเจวี๋ยเข้ามาในสำนัก
พันปีผ่านไป หยางหลัวก็ไม่ใช่หยางหลัวเสียนานแล้ว
ตอนนั้นหานเจวี๋ยลืมช่วยเขาเรื่องโอสภสร้างฐาน ยามนี้ก็ตอบแทนน้ำใจเขาสักครั้ง
ขอให้ชาติหน้าเขาสร้างฐานได้ บรรลุแก่นปราณทอง ปราณก่อกำเนิดจนสำเร็จ แล้วมีชีวิตสุขสบายทั้งชาติในเร็ววัน
…
เมื่อกลับถึงถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยก็ตรวจสอบพบตำแหน่งของโจวหมิงเยวี่ย
เจ้านี่ก็กำลังคุกเข่าอยู่ที่เชิงเขา
หลังจากมหาเคราะห์เทพเซียนผ่านพ้น กองทัพที่คุกเข่าอยู่ที่เชิงเขายิ่งมีมากมายกว่าในอดีต
โจวหมิงเยวี่ยสวมอาภรณ์ของศิษย์สายในของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ใบหน้าละม้ายคล้ายสตรี ริมฝีปากแดงเรื่อฟันขาวสะอาด โครงหน้าชวนพิศ ดูราวกับหญิงแต่งกายเป็นชายอย่างมาก
แต่เขาเป็นบุรุษผู้หนึ่งอย่างแท้จริง
‘หรือจะรับไว้ดี’
หานเจวี๋ยลังเล
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว การที่มหาอริยะผิงเทียนกลับชาติมาเกิดที่โลกเมฆาแดง ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแน่แท้ พวกที่เคยล่วงเกินจักรพรรดิสวรรค์ มีหรือจะไปเกิดใหม่ได้ตามใจอยาก
‘หรือจักรพรรดิสวรรค์จะเป็นคนจัดการ
ไม่สนแล้ว! รับเลยแล้วกัน!’
บ่มเพาะยอดฝีมือเยอะหน่อย หากจักรพรรดิสวรรค์เอ่ยถาม เขาก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เสีย
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามีระบบ
หานเจวี๋ยตัดสินใจให้ฉู่ซื่อเหรินรับโจวหมิงเยวี่ยเป็นศิษย์
บรรพชนพุทธแย่งศิษย์ ถึงตอนนั้นบรรพชนพุทธโพธิไล่เลียงขึ้นมา ก็ไปหาเรื่องบรรพชนพุทธภควัต
หลังจากหานเจวี๋ยคิดเสร็จก็หลับตาฝึกบำเพ็ญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...