ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 193

บทที่ 193 มหาจักรพรรดิไร้มรณะ เนตรเทพสังสารวัฏ

ยามโพล้เพล้อาทิตย์ลาลับ ประกายแสงแดดที่หลงเหลืออยู่ดุจสีเลือด

ที่ราบทิ้งร้างแผ่ขยายรอยแยก หุบเขากระจายตัว บนหน้าผาที่สูงชันแห่งหนึ่งมีเงาร่างสองสายนั่งอยู่

นั่นก็คือโจวฝานและโม่ฟู่โฉวนั่นเอง

ทั้งสองนั่งขัดสมาธิเคียงไหล่กัน คล้ายกำลังฝึกบำเพ็ญวิชายุทธ์บางอย่าง

เหนือศีรษะของทั้งคู่มีไอดำมืดกระจุกหนึ่งลอยวนเวียน

หานเจวี๋ยรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของเซียนแท้หอบหนึ่ง

‘เซียนแท้ไท่อี่!

โลกเมฆาแดงจะมีเซียนแท้ไท่อี่คนที่สองได้อย่างไร’

หานเจวี๋ยตระหนักได้ทันทีว่าตนเองถูกแทรกแซงเข้าแล้ว

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ห้อทะยานตรงไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังโจวฝานและโม่ฟู่โฉวทันที ตลบม้วนแขนเสื้อคราหนึ่ง ไล่ไอดำมืดกระจุกนั้นออกไป

หลังจากนั้นไม่นาน หานเจวี๋ยมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของฟ้าดิน บริเวณที่ไร้ผู้คน

เขายกมือขวาขึ้น กลางฝ่ามือปรากฏไอดำมืดที่ลอยปรากฏก่อนหน้านี้

“สหายเต๋า! ข้าไม่ได้ทำลายโลกมนุษย์ของเจ้าเสียหน่อย!”

กลางไอดำมืดมีเสียงเย็นเยียบสายหนึ่งดังลอยออกมา เมื่อถูกหานเจวี๋ยจับได้ เขาก็ไม่ได้ลนลานแม้แต่น้อย

[มหาจักรพรรดิอมตะเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]

มหาจักรพรรดิอมตะ?

ฟังแล้วข่มขวัญคนอย่างมาก!

หานเจวี๋ยรีบตรวจดูข้อมูลของเขาผ่านค่าความสัมพันธ์ทันที

[มหาจักรพรรดิอมตะ: ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะกลาง จักรพรรดิเซียนโลกเบื้องบน เผชิญกับการล้อมโจมตีจากเหล่าจักรพรรดิเซียนแห่งวังเทพ ตัวตายมรรคผลสลาย ผ่านไปล้านปี หลังจากนั้นถึงบำเพ็ญจนได้ระดับเซียนทองไท่อี่อีกครั้ง มหาจักรพรรดิอมตะใช้พลังวิเศษแบ่งย่อยดวงวิญญาณนับพันนับหมื่น เสาะหาผู้สืบทอดของตนทั่วหมื่นโลกปวงสวรรค์ คิดอยากก่อตั้งขุมอำนาจใหญ่เหมือนอย่างวังเทพ เนื่องด้วยท่านแทรกแซงแผนการของเขา จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]

‘จักรพรรดิเซียน?’

หานเจวี๋ยตกใจ

เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน นี่ก็แค่จิตวิญญาณเท่านั้น!

เขาจะต้องกลัวอะไร

แค่จิตวิญญาณก็สามารถมีตบะเซียนแท้ได้ มหาจักรพรรดิอมตะช่างมีของอยู่บ้างจริงๆ

หานเจวี๋ยแค่นเสียงกล่าว “รุกรานวังสวรรค์โลกมนุษย์ ละเมิดกฎสวรรค์ ข้าจะไปหาผู้อาวุโสตี้ไท่ไป๋เดี๋ยวนี้”

มหาจักรพรรดิอมตะได้ยินก็รีบร้องเรียกเป็นพัลวัน “สหายเต๋า! มีเรื่องใดก็พูดคุยกันดีๆ เถิด!”

“พูดคุยอย่างไร สองคนที่เจ้าคัดเลือกเป็นคนของข้า เจ้าว่าเจ้าทำเกินไปหรือไม่”

“…”

มหาจักรพรรดิอมตะลอบสบถ

‘มิน่าเจ้าเด็กเส็งเคร็งสองคนนั่นถึงได้ดวงแข็งถึงเพียงนั้น ที่แท้ก็มีมนุษย์เซียนคอยหนุนหลังอยู่นี่เอง’

มหาจักรพรรดิอมตะจมสู่ภวังค์นิ่งเงียบ

หานเจวี๋ยเองก็ลังเลอยู่เช่นกันว่า ควรจะฉีกเนื้อเถือหนังมหาจักรพรรดิอมตะนี่เลยดีหรือไม่

มหาจักรพรรดิอมตะเอ่ยปากกล่าวว่า “สหายเต๋า เรื่องนี้ถือเป็นความผิดของข้า หลังจากนี้จะไม่มาอีก ปล่อยจิตวิญญาณสายนี้ของข้าไปเถอะนะ”

หานเจวี๋ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง ต่อให้บีบจิตวิญญาณสายนี้แตกสลาย ก็ไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายให้ตายได้ เหตุใดต้องสร้างความเกลียดชังฝังลึกด้วย

“เช่นนั้นเจ้าก็ไปเสียเถิด”

หานเจวี๋ยปล่อยไอดำมืดออกมา ค่อยๆ แทรกซึมตราประทับหกวิถีเข้าไปข้างใน

ไอดำมืดหนีออกจากโลกเมฆาแดงด้วยความรวดเร็ว

หลังจากแน่ใจว่ากลิ่นอายของเขาหายไปแล้ว หานเจวี๋ยจึงกลับไปที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียนอีกครั้ง

และทั้งหมดนี้ โจวฝานและโม่ฟู่โฉวล้วนไม่สัมผัสถึงด้วยซ้ำ

หลังผ่านไปนานหลายปี พวกเขาจึงตระหนักได้ว่าผู้ทรงพลังที่คิดอยากรับพวกเขาเป็นศิษย์ในตอนนั้นหายตัวไปแล้วจริงๆ

หลังกลับมาถึงถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มทำภารกิจประจำวัน

หลายเดือนต่อมา เขาถึงสาปแช่งมหาจักรพรรดิอมตะในตอนท้าย

เมื่อเป็นเช่นนี้ มหาจักรพรรดิอมตะน่าจะไม่สงสัยมาถึงตัวเขา

อย่างไรเสียจิตวิญญาณของมหาจักรพรรดิอมตะก็แยกส่วนนับพันนับหมื่น ศัตรูคู่แค้นนับจำนวนไม่หวาดไม่ไหว

หลังจากสาปแช่งเสร็จแล้ว หานเจวี๋ยนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมา เล่าเรื่องของมหาจักรพรรดิอมตะให้ตี้ไท่ไป๋ฟัง เลี่ยงไม่ให้มหาจักรพรรดิอมตะคิดแค้นไม่ยอมเลิกรา

“มหาจักรพรรดิอมตะ? เจ้าหมอนี่กลับยังรอดชีวิตอยู่อีกหรือ” เสียงของตี้ไท่ไป๋ดังลอยออกมาจากป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์

หานเจวี๋ยเอ่ยถามว่า “เขาจะโผล่มาอีกหรือไม่”

“เรื่องนี้ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทเอง อย่างไรเสียมหาจักรพรรดิอมตะก็เป็นจักรพรรดิเซียน เจ้าวางใจเถิด เขาไม่โผล่มาอีกแน่”

เมื่อได้รับการยืนยันจากตี้ไท่ไป๋ คราวนี้หานเจวี๋ยจึงสงบใจลง

อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ว่า “มหาจักรพรรดิอมตะคือใครหรือ”

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้ปิดบัง เล่าขอบเขตพลังเหนือระดับมหายานให้อู้เต้าเจี้ยนได้ฟัง

เซียนทองไท่อี่ทำเอาอู้เต้าเจี้ยนตกใจจนหน้าซีดขาว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ