ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 229

สรุปบท บทที่ 229 ยุคเจริญรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ เนตรปีศาจฝันเฟื่อง: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 229 ยุคเจริญรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ เนตรปีศาจฝันเฟื่อง จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 229 ยุคเจริญรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ เนตรปีศาจฝันเฟื่อง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 229 ยุคเจริญรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ เนตรปีศาจฝันเฟื่อง

“เกิดอะไรขึ้น”

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่น เขาส่งพลังจิตเข้าไปในป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์

โชคดีที่ระดับพลังของเขาสูง ความร้อนแค่นี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเขา

ไม่นานพลังจิตของหานเจวี๋ยก็มาถึงหน้าป้ายศิลามรรคาสวรรค์

เขาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตกใจจนแทบมึนงง

อันดับที่เจ็ดร้อยหกสิบสาม!

อันดับยังเลื่อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

นี่มันเกิดอะไรขึ้น

หานเจวี๋ยรีบสังเกตดูโลกเมฆาแดงทันที จำนวนผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาและระดับฝ่าด่านเคราะห์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในช่วงหลายปีมานี้ ทั้งยังมีระดับมหายานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผ่านไปไม่นาน หานเจวี๋ยก็จับตำแหน่งของพุทธะอาภรณ์ขาวได้

เจ้าหมอนี่กำลังเทศนาธรรมต่อผู้บำเพ็ญหลายพันคนบนเขาสูงลูกหนึ่ง ในผู้บำเพ็ญเหล่านี้ด้อยสุดก็คือระดับรวมกายา มีคนทะลวงอย่างไม่ขาดสาย

ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังมีผู้บำเพ็ญมาฟังอย่างต่อเนื่อง

มิน่าเล่าดวงชะตาของโลกเมฆาแดงถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันเช่นนี้

ขณะที่ดวงชะตาของโลกเมฆาแดงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หานเจวี๋ยก็สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าดวงชะตาของตนเองก็ทวีขึ้นด้วย

ตี้ไท่ไป๋เคยกล่าวไว้ อยากจะทะลวงจักรพรรดิเซียนจำเป็นต้องใช้ดวงชะตาที่แข็งแกร่งมาก

นี่ก็ไม่ใช่ว่าดวงชะตามาแล้วหรือ

หานเจวี๋ยรับรู้ถึงความทุกข์ของความสุข

ด้านหนึ่งเขากลัวโลกเมฆาแดงจะถูกคนจับจ้อง แต่อีกด้านก็อยากเสพสุขกับดวงชะตาที่เพิ่มอย่างฉับพลัน

‘ช่างเถอะ ช่างเถอะ

ฝึกฝนก่อนแล้วค่อยว่ากัน’

หานเจวี๋ยวางป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ลง และเริ่มฝึกฝนต่อ

เขาเข้าใกล้ระดับเซียนทองวัฏจักรระยะปลายมากขึ้นทุกที หลังจากบรรลุระยะปลายแล้วก็ยิ่งเข้าใกล้ขั้นสมบูรณ์มากกว่าเดิม

บรรลุระดับเซียนทองขั้นสมบูรณ์แล้ว เช่นนั้นจักรพรรดิเซียนจะยังห่างไกลอีกหรือ

บรรลุจักรพรรดิเซียนก็เข้าใกล้ระดับเทพแล้วมิใช่หรือ

บรรลุระดับเทพแล้ว ต้าหลัวยังเป็นฝันอยู่อีกหรือ

หานเจวี๋ยสร้างแนวคิดการทำงานให้ตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น

อารมณ์แห่งการต่อสู้ฮึกเหิม

ขณะที่หานเจวี๋ยยังบำเพ็ญตบะอยู่นั้น พลังวิญญาณฟ้าดินก็เพิ่มขึ้นตามดวงชะตามรรคาสวรรค์ที่เพิ่มขึ้น

สรรพชีวิตครึกครื้น!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดวงชะตาฟ้าดินเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ผู้ทรงพลังในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นประกาศว่านี่คือพระมหากรุณาธิคุณของมรรคาสวรรค์

ยุคเจริญรุ่งเรืองที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้ามาเยือน

ดูเหมือนว่าทุกๆ สองสามปีจะมีบุตรแห่งสวรรค์ปรากฏออกมาหนึ่งท่าน ซึ่งต่างก็มีบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์แตกต่างกันไป

ฝ่ายมารเสื่อมถอย โลกแห่งการบำเพ็ญตบะต้อนรับการมาเยือนของยุคที่แข่งขันด้วยแสนยานุภาพ ไม่มีการต่อสู้ทางศีลธรรมและสัจธรรม มีแต่แข็งแกร่งและอ่อนแอเท่านั้น!

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์กลับตรงกันข้าม ค่อนข้างสงบและไม่มีสำนักใดกล้ายุแหย่

เนื่องจากพุทธะอาภรณ์ขาวแสดงธรรมเทศนาในใต้หล้า จึงมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก มนุษย์ปุถุชนสร้างวัดและรูปปั้นเทวะของพุทธะอาภรณ์ขาวจำนวนไม่น้อย

ผ่านการเสวยสุขจากควันไฟในโลกมนุษย์ ดวงชะตาของพุทธะอาภรณ์ขาวก็เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

…..

ยี่สิบแปดปีผ่านไป

อักขระสามแถวปรากฏขึ้นตรงหน้าขณะที่หานเจวี๋ยกำลังฝึกฝน

[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุสองพันปีบริบูรณ์ ชีวิตก้าวเข้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสวรรค์ทันที ชื่อเสียงสะเทือนไปทั่วแดนเซียน จะได้รับหินมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

[สอง ยังไม่ขึ้นสวรรค์ชั่วคราว ยืดหยัดความตั้งใจเดิม จะได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น]

หานเจวี๋ยลืมตาด้วยความสงสัย

ชิ้นส่วนมหามรรคคือสิ่งใด

เขาเลือกยังไม่ขึ้นสวรรค์ชั่วคราวทันที

[ท่านเลือกยังไม่ขึ้นสวรรค์ชั่วคราว ท่านได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น]

[ยินดีด้วยท่านได้รับพลังวิเศษ–แสงเทพเบญจธาตุ]

[แสงเทพเบญจธาตุ: พลังวิเศษบรรพกาล พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก สามารถแย่งชิงของวิเศษของศัตรูได้ ใช้อำนาจบีบบังคับทำลายค่ายกลได้]

[ยินดีด้วยท่านได้รับชิ้นส่วนมหามรรค]

[ชิ้นส่วนมหามรรค: รวบรวมชิ้นส่วนมหามรรคเก้าชิ้น จะได้รับการสนองตอบจากมหามรรค ได้รับยอดมรรควิถี]

ยอดมรรควิถี?

ฟังดูยอดเยี่ยมมาก แต่ตอนนี้ต้องไม่มีประโยชน์อะไรอย่างแน่นอน

สมกับเป็นระบบที่ใช้เกมเป็นต้นแบบจริงๆ มีกลอุบายอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ จากนั้นเลือกสืบทอดแสงเทพเบญจธาตุ

แสงเทพเบญจธาตุไม่ใช่พลังวิเศษมรรคกระบี่ หานเจวี๋ยใช้เวลาหลายวันถึงฝึกอย่างเชี่ยวชาญ

ฟางเหลียงเงยหน้าขึ้นในทันที ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ดวงตาแนวตั้งดวงหนึ่งปรากฏบนหน้าผากอย่างไม่คาดคิด ด้านในเป็นลูกตาดำคู่แปลกประหลาด

……

เป็นเวลาสิบปีแล้วที่เขาได้รับแสงเทพเบญจธาตุ

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกฝนอยู่พลันรับรู้ถึงคลื่นพลังจิตของตี้ไท่ไป๋ที่ส่งออกมาจากป้ายมรรคาสวรรค์

เขานำป้ายมรรคาสวรรค์ออกมาทันที

“ฟางเหลียงศิษย์หลานของเจ้าหายตัวไปแล้ว” ตี้ไท่ไป๋เอ่ยปากกล่าว

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วถาม “ถูกวังปีศาจจับตัวไปหรือ”

ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านั้นฟางเหลียงได้รับถ่ายพลังจากผู้ทรงพลังหรอกหรืออย่างไร

เขาคิดว่ามีผู้ทรงพลังในวังสวรรค์ถูกใจฟางเหลียงเข้าเสียอีก

“ไม่ใช่ เขาออกไปฝึกประสบการณ์ข้างนอก จากไปหลายสิบปีแล้ว เลยขอบเขตเวลาที่เขาเคยรับรองไว้ ข้าให้เนตรหมื่นลี้และกรรณลมกรดไปสืบข่าว ก็หาร่องรอยของเขาไม่พบ” ตี้ไท่ไป๋กล่าวอย่างจนใจ

ศิษย์หลานของหานเจวี๋ยล้วนอดห่วงได้

มู่หรงฉี่ก็เช่นกัน เพิ่งเข้าร่วมวังสวรรค์ก็ลากยอดแม่ทัพเทพไปด้วยกันแล้ว

หานเจวี๋ยถาม “ฝ่าบาทจักรพรรดิสวรรค์ก็หาไม่เจอหรือ”

“ฟ้ากว้างแผ่นดินใหญ่ นอกเสียจากจะอยู่ในขอบเขตดวงชะตาของวังสวรรค์”

“เอาเถอะ ข้ารู้แล้ว ขอบคุณท่านที่เป็นห่วง”

“เขาคือบุตรแห่งดวงชะตา มาถึงแดนเซียนแล้วดวงชะตาก็ไม่ด้อยลง บางทีคนดีต่างก็มีฟ้าดินคุ้มครอง”

“อืม”

หลังจากสิ้นสุดการติดต่อแล้ว หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูค่าความสัมพันธ์

รูปประจำตัวของฟางเหลียงยังคงอยู่

เขาตรวจอ่านจดหมายต่อ ไม่นานก็พบข่าวของฟางเหลียง

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านสืบทอดเนตรปีศาจฝันเฟื่อง เข้าสู่ระดับเซียนสวรรค์ไท่อี่สำเร็จ]

‘เซียนสวรรค์ไท่อี่หรือ

จึ๊ๆ พุ่งทะยานเร็วดีนี่!’

หานเจวี๋ยวางใจในทันที ดูท่าฟางเหลียงจะไม่เป็นอะไรทั้งยังได้รับโอกาสวาสนาครั้งใหญ่ด้วย

ต่อให้จะกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่อาจไปหาฟางเหลียงที่แดนเซียนได้

พอถึงช่วงวิกฤตจวนตัวจริงๆ ฟางเหลียงก็ยังสามารถใช้วิชาอัญเชิญเทพเรียกเขาไปช่วยได้

……………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ