ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 234

สรุปบท บทที่ 234 พญากุญชรเขย่าสมุทร ภูตน้ำเต้าตกสู่พื้นดิน: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 234 พญากุญชรเขย่าสมุทร ภูตน้ำเต้าตกสู่พื้นดิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 234 พญากุญชรเขย่าสมุทร ภูตน้ำเต้าตกสู่พื้นดิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 234 พญากุญชรเขย่าสมุทร ภูตน้ำเต้าตกสู่พื้นดิน

พญากุญชรเขย่าสมุทรอารมณ์ดีไม่เลว ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกับสตรีโฉมงามผู้มีคุณสมบัติโดดเด่นและไม่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่

เขาเป็นถึงจอมเทพปีศาจตนหนึ่งของวังปีศาจ มีพลังวิเศษมากมาย ร่างเดิมเป็นช้างป่า เคยสะเทือนผืนมหาสมุทรด้วยเท้าข้างเดียว ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่าเขย่าสมุทรมา

รูปร่างของเขาอ้วนใหญ่ ฟันเหลืองเต็มปาก ดวงตาเสือดาวใบหน้ากว้าง พาดชุดคลุมหนังพยัคฆ์ไว้บนบ่า สวมเกราะดำเกล็ดงูหลาม เดินเหินบนก้อนเมฆ ลมพัดแรงอยู่ใต้ฝ่าเท้า ลักษณะท่าทางน่าเกรงขาม

พญากุญชรเขย่าสมุทรนึกถึงเสียงของหานเจวี๋ยแล้ว ก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้

บุคคลนิรนามก็กล้าบอกให้เขาไว้หน้าให้หรือ

เขาไม่ได้พบเจอคนน่าขันเช่นนี้มาหลายปีแล้ว

……

อู้เต้าเจี้ยนกล่าวด้วยสีหน้าโกรธกริ้ว “นายท่าน เจ้านั่นโอหังเหลือเกิน โมโหจะตายอยู่แล้ว!”

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินใครหยามหมิ่นหานเจวี๋ยเช่นนี้

หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจนาง เขาจดจ่ออยู่กับการถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพ

เดิมทีลี่เหยาก็มีคุณสมบัติดีเยี่ยมอยู่แล้ว ตบะก็ยกระดับขึ้นด้วย จึงเรียนวิชาอัญเชิญเทพได้ไม่ยาก

วิชาที่นางฝึกฝนก็แค่วิชาอัญเชิญ สิ่งที่ซับซ้อนอย่างแท้จริงคือวิชาเคลื่อนย้ายที่หานเจวี๋ยเชี่ยวชาญ

หลังจากหานเจวี๋ยอธิบายไปหนึ่งรอบ ลี่เหยาจดจำได้อย่างสบายๆ นางเริ่มรวบรวมความจำ มือทั้งสองก็ทำท่ามือร่ายวิชาตาม

หานเจวี๋ยดึงพลังจิตกลับมา มองไปทางอู้เต้าเจี้ยนก่อนกล่าวว่า “ไม่เป็นไร อีกไม่นานเขาจะเสียใจภายหลังเอง”

อู้เต้าเจี้ยนถามด้วยความสงสัย “เมื่อครู่ท่านถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้นางหรือ เรียนพลังวิเศษในตอนนี้ก็สามารถสังหารเจ้านั่นได้หรือ”

“ไม่ผิด”

หานเจวี๋ยกลับไปนั่งขัดสมาธิบนตั่งเตียง

อู้เต้าเจี้ยนแปลกใจมากกว่าเดิม

พลังวิเศษอันใดกันที่สามารถทำให้ลี่เหยาผงาดขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ และสังหารเจ้านั่นกลับได้

นางตั้งหน้าตั้งตารอคอย

วันต่อมา ลี่เหยาสำแดงวิชาอยู่หลายสิบรอบ ในที่สุดก็ทำสำเร็จ

ด้านหลังของนางปรากฏคลื่นวนสีดำขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อนางหันไปมองก็แอบตกใจกับตัวเอง “นี่คือพลังวิเศษอะไรกัน”

ก่อนหน้านั้นนางสงสัยยิ่งนัก พลังวิเศษนี้ไม่มีส่วนไหนที่ร้ายกาจเลย

เหตุที่นางฝึกฝนก็แค่รักษาม้าตายประดุจม้าเป็นเท่านั้น

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

หานเจวี๋ยรับรู้ถึงการเรียกหาจากวิชาอัญเชิญเทพ จึงลืมตากล่าว “ข้าจะรีบไปรีบมา”

ครั้นสิ้นเสียง เขาก็ถูกระลอกคลื่นวนสีดำสายหนึ่งดูดไป จากนั้นคลื่นวนก็หายวับตามไปด้วย

อู้เต้าเจี้ยนอึ้งงัน หันไปมองวารีทางช้างเผือกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าตามจิตใต้สำนึก

เป็นดังที่คาดเอาไว้!

หานเจวี๋ยเดินออกมาจากระลอกคลื่นวนด้านหลังลี่เหยา

เขาสวมอาภรณ์ดวงชะตาจักรพรรดิสูงศักดิ์ ใส่รองเท้าขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้า สวมมงกุฎปีกหงส์ไท่ซีบนศีรษะ มือสวมกำไลวิญญาณ พลานุภาพกดดันผู้คน ประกอบกับรูปโฉมที่ไม่เป็นรองใคร ลี่เหยาจึงมองจนตกตะลึง

นางเคยจินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาของหานเจวี๋ย แต่คิดไม่ถึงว่าจะรูปงามเช่นนี้

นางยังคิดว่าหานเจวี๋ยเป็นนักพรตเฒ่าผมขาวหน้าแดงเสียอีก

หานเจวี๋ยนำกระบี่พิพากษาอนธการออกมา เสียงของพญากุญชรเขย่าสมุทรดังขึ้นตามมาว่า “เจ้ามาปรากฏตัวในของวิเศษของข้าได้อย่างไร”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของหานเจวี๋ยทำให้เขาตกใจ

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตกวาดดูครู่หนึ่ง พญากุญชรเขย่าสมุทรยังคงรีบเร่งเดินทาง รอบด้านไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่งคนอื่นอีก

ขณะนั้นเอง!

หานเจวี๋ยสะบัดกระบี่ฟันออกไป จิตกระบี่ระเบิดปะทุ สั่นสะเทือนจนขวดล้ำค่าของพญากุญชรเขย่าสมุทรแตกกระจาย จากนั้นเขากับลี่เหยาก็ปรากฏตัวกลางอากาศ

ดวงตางดงามของลี่เหยาเบิกกว้าง นางไม่ใช่แค่ตะลึงกับใบหน้าของหานเจวี๋ย แต่ยังตกใจพลังแท้จริงของเขาด้วย

‘แข็งแกร่งมาก!’

พญากุญชรเขย่าสมุทรกระเด็นออกไปเพราะของวิเศษระเบิด เขาทรงตัวให้มั่นแล้วมองไปทางหานเจวี๋ย จากนั้นระเบิดอารมณ์โมโหทันที

“เจ้าบังอาจ!”

พญากุญชรเขย่าสมุทรแผดเสียงเกรี้ยว จมูกกลายเป็นงวงช้างแล้วขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว คล้ายกับเทือกเขางอกยาวออกมา ก่อให้เกิดพายุหมุนน่าสะพรึงกลัว

หานเจวี๋ยหายวับมาอยู่ตรงหน้าลี่เหยา ยกกระบี่สำแดงมรรคกระบี่เทียมฟ้าขั้นที่หนึ่งทันใด

หนึ่งกระบี่เทียมฟ้า!

ปราณกระบี่วาดออกไปในแนวขวาง ฟันสังหารจนงวงช้างแหลกเป็นเสี่ยง ฝนโลหิตสาดกระเซ็นกลางผืนฟ้ากว้าง

แทบจะในพริบตาเดียว กายเนื้อของพญากุญชรเขย่าสมุทรก็ถูกปราณกระบี่ผ่าออกเป็นสองส่วน

เขามีตบะแค่ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะต้น ไหนเลยจะต้านทานปราณกระบี่ของหานเจวี๋ยได้

ต่อให้มีตบะระดับเซียนทองไท่อี่ขั้นสมบูรณ์ เมื่อเผชิญหน้ากับหานเจวี๋ยก็ถูกสังหารในพริบตาเช่นกัน!

“ช้าก่อน!”

พญากุญชรเขย่าสมุทรหน้าถอดสี ตะโกนขึ้นอย่างหวาดกลัว

หานเจวี๋ยกวัดแกว่งกระบี่สำแดงไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ

เงากระบี่จำนวนมหาศาลลอยอยู่กลางนภา ปรากฏภาพโอ่อ่ายิ่งใหญ่ ลี่เหยาเห็นแล้วต้องเบิกตากว้าง

เขาลงมือแล้ว หากลี่เหยาถูกจับอีกหรือถูกสังหาร เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

เขาไม่อาจทำเพื่อลี่เหยาโดยไม่สนใจอะไรเลยได้

‘อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

……

ห้าปีต่อมา

หานเจวี๋ยไม่ได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับความเกลียดชังใหม่ๆ ลี่เหยาก็ไม่ได้พบภยันตรายอีก

เรื่องนี้ทำให้เขาโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ไม่ใช่ว่าเบื้องหลังของศัตรูทุกคนจะมีผู้ทรงพลังคอยปกป้อง

ด้วยอัตราความก้าวหน้าของลี่เหยาในขณะนี้ อีกไม่นานก็จะสามารถหาวังสวรรค์พบ

หานเจวี๋ยได้รู้ผ่านลี่เหยาว่าแดนเซียนใหญ่กว่าที่เขาจินตนาการไว้มากนัก สถานที่ส่วนใหญ่ไม่อยู่ภายใต้การดูแลของสวรรค์

สิ่งที่เรียกกันว่าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า วังสวรรค์ก็ไม่ได้ควบคุมทั้งเก้าชั้น

ด้วยขอบเขตพลังของลี่เหยาในตอนนี้ นางเข้าร่วมวังสวรรค์ได้ไม่ยาก คาดว่าการพบหน้าตี้ไท่ไป๋ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ถึงอย่างไรหานเจวี๋ยก็ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในวังสวรรค์

หานเจวี๋ยไม่คิดอะไรมากอีก เขาฝึกบำเพ็ญต่อไป

โลกเขย่าพิภพมีพุทธะอาภรณ์ขาวเป็นผู้นำในหล้า บนห้วงอากาศว่างเปล่ามีจอมเทพอู่เต๋อตั้งมั่นรักษาอยู่ หานเจวี๋ยสามารถฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจ

ผ่านไปอีกราวหกปี

ภูตน้ำเต้าทั้งแปดตกลงพื้น กลายร่างเป็นชายหนุ่มแปดคน เพราะอยู่ภายใต้การปกป้องของอาณาเขตเต๋า พวกเขาจึงไม่ได้ฝ่าด่านเคราะห์

หานเจวี๋ยรอคอยวันนี้มานานแล้ว เขารีบออกจากการปิดด่านไปดูพวกเขาทันที

ภูตน้ำเต้าทั้งแปดสวมเสื้อผ้าแล้วดูคล้ายแฝดแปดคน รูปร่างหน้าตาเหมือนกันมาก

พวกเขาพูดภาษามนุษย์ได้นานแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอุปสรรคด้านการสื่อสาร

หลังจากเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัว พี่น้องทั้งแปดก็ล้อมวงเข้ามา คุกเข่าคารวะอยู่ตรงหน้าหานเจวี๋ยด้วยความตื่นเต้น

หลายปีมานี้ จากการสาธิตด้วยคำพูดและการปฏิบัติให้ดูของบรรดาศิษย์สำนักซ่อนเร้น พวกเขาย่อมรู้ว่าหานเจวี๋ยเป็นคนสร้างพวกเขาขึ้นมา

หากไม่ใช่เพราะหานเจวี๋ย ไหนเลยพวกเขาจะมีวันนี้ได้ ไม่แน่อาจถูกหลอมเป็นของวิเศษไปนานแล้ว

หานเจวี๋ยกวาดตาดู พบว่าพี่น้องทั้งแปดคนบรรลุถึงระดับเซียนอิสระแล้ว

ไม่เลวเลย!

……………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ