ศิษย์ทั้งหลายไม่ได้เศร้าเสียใจมากนัก กลับตื่นเต้นดีใจเสียอีก
คาดไม่ถึงว่าในสำนักหยกพิสุทธิ์จะซ่อนผู้ทรงพลังที่สังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณได้อย่างง่ายดายเอาไว้!
ผู้อาวุโสถ่ายทอดวิชาทั้งสิบแปดยอดเขาบอกเล่าเหตุการณ์ในสงครามให้เหล่าศิษย์ฟัง สำหรับตัวตนของหานเจวี๋ย พวกเขาไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด เพียงบอกนามผู้อาวุโสสังหารเทพเท่านั้น
ผู้อาวุโสสังหารเทพ!
หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ ชื่อนี้ก็กลายเป็นผู้ที่น่าเลื่อมใสมากที่สุดในใจของบรรดาศิษย์สำนักหยกพิสุทธิ์!
ผู้คนล้วนสงสัยใคร่รู้ทุกเรื่องของผู้อาวุโสสังหารเทพ
พลบค่ำวันเดียวกันนั้น
ณ ยอดเขาหยกวิเวก
ครั้นเซียนซีเสวียนปลอบขวัญศิษย์ทั้งหลายเรียบร้อย ก็ให้พวกเขาทั้งหมดแยกย้ายไป เหลืออยู่เพียงหานเจวี๋ย
แม้ว่าศิษย์ยอดเขาหยกวิเวกเห็นกับตาว่าหานเจวี๋ยเป็นผู้ลงมือ แต่ก็ไม่คิดว่าหานเจวี๋ยคือผู้อาวุโสสังหารเทพ
รวมถึงฉางเยวี่ยเอ๋อร์ด้วยเช่นกัน
ก่อนออกไป ฉางเยวี่ยเอ๋อร์มองไปยังหานเจวี๋ย
ผ่านเคราะห์ใหญ่เช่นนี้มา หานเจวี๋ยก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย
นางนึกเลื่อมใสอยู่ในใจ
นางมีเรื่องจะคุยกับหานเจวี๋ย จึงเตรียมตัวไปคอยอยู่ด้านนอก
ประตูใหญ่ของตำหนักหยกวิเวกถูกปิดลง
ภายในตำหนักเหลือเพียงหานเจวี๋ยและเซียนซีเสวียน
เซียนซีเสวียนแต่งแต้มใบหน้าใหม่อีกครั้งแล้ว ยังคงงามล่มเมืองราวกับนางเซียนบนสวรรค์เหมือนเคย
นางจ้องตรงไปที่หานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยก้มหน้าลง ในใจกลับไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด
ไม่ว่าตอนนี้เขาจะทำอะไร สำนักหยกพิสุทธิ์ก็ไม่มีทางขับไล่เขาไปแน่
เซียนซีเสวียนเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิเขา
“เจ้าไม่มีสิ่งใดอยากจะพูดหรือ” เซียนซีเสวียนเอ่ยถาม
หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมา กล่าวด้วยความสงสัยว่า “ข้าต้องพูดอะไรหรือ”
เซียนซีเสวียนแค่นเสียงขึ้นจมูก “เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงมาที่สำนักหยกพิสุทธิ์”
หลี่ชิงจื่อสามารถเพิกเฉยได้ แต่นางเป็นอาจารย์ก็ควรทำให้กระจ่างแจ้ง
ในเมื่อศิษย์แกร่งกว่าอาจารย์ แล้วนางจะเป็นอาจารย์ได้อย่างไร
มิน่าล่ะเจ้าเด็กนี่ถึงไม่เคยต้องการให้นางชี้แนะ…
“ต่อไปข้าควรจะเรียกเจ้าว่าสหายเต๋าหานกระมัง”
เมื่อเจอเซียนซีเสวียนประชดประชัน หานเจวี๋ยไม่มีทางเลี่ยง “ศิษย์ไม่มีภูมิหลังใดทั้งสิ้น ท่านน่าจะรู้ที่มาของข้าจากศิษย์น้องเถี่ยแล้ว ท่านไม่เชื่อในพรสวรรค์ของข้าหรือขอรับ”
เซียนซีเสวียนหรี่ตาลงพลางพูด “แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์มาก แต่ความสามารถของเจ้าได้มาอย่างไร คงไม่ใช่ว่าเข้าใจตอนปิดด่านฝึกฝนเป็นแน่”
ระดับปราณก่อกำเนิดสังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
พูดได้ว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน
แม้เซียนซีเสวียนจะเชื่อ แต่เจ้าสำนักกับผู้อาวุโสคนอื่นไม่เชื่อแน่
“เช่นนั้นข้าจะบอกท่าน แต่ท่านอย่าได้พูดออกไปนะขอรับ ตอนเด็กมีเซียนท่านหนึ่งเข้าฝันข้า บอกว่าข้ามีพรสวรรค์ จะได้เป็นเทพเซียน แต่ว่าดวงชะตาไม่ดี มีเคราะห์มาก ข้าจึงไม่กล้าก่อเรื่อง เอาแต่ปิดด่านอยู่ทุกวัน” หานเจวี๋ยตอบอย่างจริงจัง
เซียนซีเสวียนนิ่งเงียบ
หานเจวี๋ยก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด
ผ่านไปนาน
เซียนซีเสวียนกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดเจ้าจึงออกมาต่อสู้ สำนักหยกพิสุทธิ์ก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเจ้าดีนัก ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็ไม่คิดว่าสำนักหยกพิสุทธิ์เป็นบ้านอยู่แล้ว”
หานเจวี๋ยเอ่ยตอบ “เป็นจริงดังนั้น แต่ข้ามีชีวิตอยู่มาร้อยปีแล้ว มีไม่กี่คนที่ข้าใส่ใจ และพวกเขาอยู่ในสำนักหยกพิสุทธิ์พอดี คนที่สำคัญที่สุดในบรรดาเหล่านั้นยังต้องการจะร่วมเป็นร่วมตายกับสำนักหยกพิสุทธิ์อีก”
ระดับความประทับใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
[ความประทับใจที่เซียนซีเสวียนมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3.5 ดาว]
‘เพิ่ง 3.5 ดาวเอง?
สมแล้วที่เป็นอาจารย์ของข้า ช่างไม่เหมือนกับสตรีนางอื่น!
ยิ่งเย็นชา ข้ายิ่งชอบ!’
หานเจวี๋ยปลงอนิจจังในใจ
เซียนซีเสวียนเปลี่ยนเรื่องพลางถาม “เช่นนั้นจะเอาอย่างไรต่อไป ปิดด่านต่อหรือ”
“ขอรับ จอมมารระดับสุญตานั่นไม่แน่ว่าอาจจะกลับมาแก้แค้น ข้าต้องรีบทำเวลาฝึกฝนให้แกร่งขึ้น”
“เช่นนั้นก็เจ้าไปเถอะ”
“ขอรับ”
หานเจวี๋ยลุกขึ้นจากไป
ไม่รู้เพราะเหตุใด หานเจวี๋ยนึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเดินออกไปถึงประตู หานเจวี๋ยหันกลับไปถาม “อาจารย์ อายุขัยของท่านใกล้เข้ามาหรือยัง”
เซียนซีเสวียนชะงัก ถามว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
แช่งให้ข้าตายหรือ
“ข้านึกถึงศิษย์น้องเถี่ยขึ้นมา ข้าไม่อยากให้อาจารย์จากโลกนี้ไป หากมีวันนั้นจริง หวังว่าอาจารย์จะบอกให้ข้ารู้ล่วงหน้า”
หานเจวี๋ยกล่าวจากใจจริง
เซียนซีเสวียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ไปได้แล้ว อายุขัยของข้ายังอีกยาวไกล”
หานเจวี๋ยเร่งรีบเดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...