เพียงไม่นาน เขาก็รับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่ต้านทานพลังจิตของเขาไว้
ดูท่าคงต้องใช้พลังจิตระดับเปลี่ยนวิญญาณถึงจะฝ่าเข้าไปได้
หยางเทียนตงมีความประทับใจต่อเขาในระดับ 3 ดาว น่าจะไม่หลอกเขา
“เช่นนั้นอาจารย์จะรับไว้ เจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณสักสิบปีก่อน อาจารย์ชอบคนมุมานะฝึกฝน หากเจ้าทำผลงานได้ดี อาจารย์จะถ่ายทอดวิชาเวทให้”
หานเจวี๋ยเอ่ยปาก พอได้ยินเช่นนี้ หยางเทียนตงรีบกล่าวขอบคุณทันที
หานเจวี๋ยชี้ไปด้านข้างแล้วบอกว่า “เจ้าหาที่นั่งฝึกบำเพ็ญเถอะ”
จากนั้นหานเจวี๋ยก็หลับตาลง เริ่มฝึกฝนต่อ
หยางเทียนตงลุกขึ้นมาหามุมหนึ่งแล้วนั่งลงไป
เขาไม่กล้ามองหานเจวี๋ย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการล่วงเกิน จากนั้นจึงรีบเริ่มการฝึกฝน
ไม่นาน เขาก็พบว่าพลังวิญญาณในถ้ำเทวาแห่งนี้หนาแน่นมาก
เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการบำเพ็ญเซียนยิ่งนัก!
……
ตั้งแต่ค่ายกลรวมวิญญาณกับของล้ำค่าฟ้าดินชุดใหม่เพิ่มเข้ามาในถ้ำเทวา พลังวิญญาณในถ้ำเทวาก็หนาแน่นมากกว่าเดิม ความเร็วในการฝึกฝนของหานเจวี๋ยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปสิบปี
ตบะของหานเจวี๋ยบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดขั้นสี่
ความเร็วของการทะลวงขั้นระดับนี้เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก
หากยึดตามความเร็วในการฝึกฝนนี้ การทะลวงระดับเปลี่ยนวิญญาณนับว่าอยู่ไม่ไกลแล้ว
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น
ในช่วงเวลาสิบปีที่หยางเทียนตงอยู่ที่นี่ ตบะได้บรรลุถึงระดับสร้างฐานขั้นหกแล้ว
สิบปีกับหกขอบเขตพลังเล็กๆ
ระดับความเร็วในการทะลวงขั้นไม่เลวเลย
นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์จริงๆ!
หานเจวี๋ยเอ่ยปากว่า “ศิษย์ข้า”
หยางเทียนตงสะดุ้งตื่นโดยพลัน รีบคุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย
“สิบปีมานี้รู้สึกอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยถาม
หยางเทียนตงเอ่ยตอบ “ได้ประโยชน์ไม่น้อยเลยขอรับ ไม่เพียงแต่ตบะจะเพิ่มขึ้น ทั้งยังรู้ซึ้งในหลักธรรมอีกมาก”
‘สวรรค์!
เป็นเวลาตั้งสิบปีแล้ว!’
หยางเทียนตงคร่ำครวญในใจ
เวลาสิบปีนี้ เขาสิ้นหวังไปไม่รู้กี่ครั้ง
แต่เขาคิดว่านี่เป็นการทดสอบของหานเจวี๋ย ไม่อาจหย่อนยานได้
หากแม้แต่ด่านแรกยังไม่อาจข้ามผ่านได้ หานเจวี๋ยคงไม่มีทางรับเขาเป็นศิษย์สืบทอดอย่างแน่นอน
หานเจวี๋ยเลิกคิ้วขึ้น เจ้าหมอนี่ยังรู้ซึ้งในหลักธรรมด้วย?
‘โอ้อวดนัก!
ข้าปิดด่านฝึกฝนมาร้อยกว่าปี ยังไม่เห็นเข้าใจอะไรเลย’
หานเจวี๋ยคิดว่าจำเป็นต้องขัดเกลาสักหน่อย “ออกไปทำภารกิจเถอะ ข้าจำได้ว่าหอภารกิจของสำนักมีลำดับแสดงแต้มคุณูปการประจำเดือนอยู่ รอเจ้าได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเดือนแล้วค่อยกลับมา”
เมื่อหยางเทียนตงได้ยิน ก็พลันลุกขึ้นมา
พอลุกขึ้นก็เกือบจะล้มลง
นั่งมานานถึงสิบปี ร่างกายส่วนล่างของเขาแข็งไปหมดแล้ว
เขารีบโค้งคารวะแล้วหมุนตัวจากไป
หานเจวี๋ยโบกมือเปิดประตูถ้ำ
หลังจากหยางเทียนตงจากไป หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนนำโอสถจิตนึกคิดที่ได้มาตอนสังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณก่อนหน้านี้ออกมา
โอสถจิตนึกคิดใช้เพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิตโดยเฉพาะ
หลังจากพลังจิตแข็งแกร่งแล้ว เขาจะได้ลองใช้ขนวิหคสีชาดที่หยางเทียนตงมอบให้เสียหน่อย
โอสถในขวดมีทั้งหมดเก้าเม็ด หานเจวี๋ยนรีบกินเข้าไปทันที
หลังกินโอสถจิตนึกคิดเข้าไป หานเจวี๋ยรู้สึกเวียนหัวในทันใด
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด
แต่พอเขารู้สึกตัวขึ้นมา ก็พบว่าพลังจิตของตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัว
เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างอดไม่ได้
โอสถนี้สุดยอดอยู่บ้างจริงๆ!
หานเจวี๋ยกินโอสถนั้นเรื่อยมา
ครึ่งเดือนต่อมา
โอสถจิตนึกคิดทั้งเก้าเม็ดถูกกินจนหมด ผลลัพธ์ที่ได้ยอดเยี่ยมมาก พลังจิตของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
แกร่งกว่าเดิมมากกว่าสิบเท่า!
ยิ่งกินโอสถมากเท่าไร ผลลัพธ์ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก
หานเจวี๋ยนำขนวิหคสีชาดออกมาอีกครั้ง และส่งจิตเข้าไปด้านใน
ตู้ม!
แรงต้านทานอันแข็งแกร่งปรากฏออกมาอีกครั้ง!
หานเจวี๋ยกัดฟันอดทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...