ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 371

บทที่ 371 สาปแช่งจนตาย ปรับแก้ดวงชะตา

“ในที่สุดเจ้าหมอนี่ก็ทนไม่ไหวแล้วสินะ”

หานเจวี๋ยลอบสบถ ยิ่งมองราชันโลภะก็ยิ่งรู้สึกขัดใจมากขึ้นเท่านั้น

ในอนาคตเจ้าหมอนี่จะเปลี่ยนไปใช้หน้าตาของเขา ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด!

หานเจวี๋ยต้องฆ่าเขาให้ได้!

ยามนี้โชคเข้าข้างแล้ว คนผู้นี้ส่งตัวเองมาหาถึงที่

ภายใต้สายตาจับจ้องของหานเจวี๋ย ราชันโลภะร่ายคำสาปแช่งพิลึกพิลั่นอยู่ตลอด แรงสาปแช่งโจมตีเข้าใส่หานเจวี๋ยอย่างต่อเนื่อง

อ่อนแอนัก!

หานเจวี๋ยไม่รู้สึกถึงอะไรเลย แค่จะแช่งให้เขาเป็นหวัดสักหน่อย ยังแทบเป็นไปไม่ได้เลย

หลังจากนั้นไม่นาน ฉากสถานการณ์ก็พังทลายลง หานเจวี๋ยกลับสู่ถ้ำเทวาฟ้าประทานอีกครั้ง

เขาแอบสงสัยกับตัวเอง

ราชันโลภะในตอนนี้ไม่มีระดับความเกลียดชังต่อตัวเขาเลย แล้วเหตุใดจึงสาปแช่งเขากันเล่า

หรือจะเป็นเช่นเดียวกับเซวี่ยหมิงเหอ สาปแช่งวังสวรรค์ทั้งวัง

ไม่น่าใช่กระมัง คนผู้นี้ไหนเลยจะมีความสามารถขนาดนั้น

ในสายตาของหานเจวี๋ย ระดับปฐมเทพขั้นหกกลายเป็นตัวตนที่ปวกเปียกเหมือนไก่อ่อนไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว

หานเจวี๋ยกำลังคิดอยู่ว่าจะวิวัฒนาการสืบหาสาเหตุสักหน่อยดีหรือไม่

ช่างเถอะ!

ถึงอย่างไรอนาคตก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จักรพรรดิสวรรค์มีชีวิตรอดจนถึงจุดจบของมหาเคราะห์ได้ หานเจวี๋ยก็คร้านจะใส่ใจแล้วว่าราชันโลภะสาปแช่งตนด้วยเหตุใด

ใช้อายุขัยหมื่นล้านปีกับเขาไปก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!

หานเจวี๋ยไม่ได้ลงมือสาปแช่งทันที แต่รอให้การสาปแช่งของอีกฝ่ายสิ้นสุดลงก่อน

เวลาผ่านไปราวหนึ่งราวก้านธูป ราชันโลภะหยุดสาปแช่งเขาแล้ว

หานเจวี๋ยรอคอยต่อไป

สิบปีผ่านไป

หานเจวี๋ยหยุดฝึกบำเพ็ญ หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งราชันโลภะ

ถึงอย่างไรการสาปแช่งก็เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากเขาสาปแช่งกลับในช่วงที่ราชันโลภะกำลังสาปแช่งเขาอยู่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราชันโลภะจะบอกต่อจักรพรรดิเซียนวัฏจักรว่าเขาก็คือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ จนอาจเป็นเหตุให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยได้

หานเจวี๋ยรู้แจ้งแก่ใจดีว่าความเกลียดชังในตัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการนั้นมีมากมายเกินไป น่าจะขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแห่งแดนเซียนแล้ว

ห้าวันผ่านไป

อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลง เขาทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการสาปแช่ง

ปฐมเทพขั้นหกตัวเล็กๆ จะสามารถต้านทานอายุขัยหมื่นล้านปีของเขาได้หรือ

….

ภายในถ้ำมืดสลัว กายเนื้อของราชันโลภะบิดเร้าอย่างรุนแรง ราวกับมีลมปราณกำลังแล่นพล่านอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าของเขาไม่น่ามองอย่างยิ่ง

เขาเริ่มมีเลือดออกตามเจ็ดทวาร ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย

“สมควรตาย เป็นผู้ใดกันแน่ที่กำลังสาปแช่งข้าอยู่”

ราชันโลภะโมโหเดือดดาล คนแรกที่เขานึกถึงมิใช่หานเจวี๋ย แต่เป็นจี้เซียนเสินหรือไม่ก็ฟางเหลียง

ระยะนี้เขาติดตามสองคนนี้อยู่ตลอด ลอบสังหารศัตรูของคนทั้งสองไปไม่น้อยเลย ย่อมมีโอกาสที่จะล่วงเกินศัตรูที่ทรงพลังเข้า

ราชันโลภะบังเกิดความรู้สึกเคียดแค้น

ล้วนต้องโทษจักรพรรดิเซียนวัฏจักร ไม่เห็นเขาเป็นคนเลยสักนิด!

ใช้เขาทำงานสกปรกและเหนื่อยยากอยู่เสมอ!

เวลานี้ แรงสาปแช่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราชันโลภะไม่มีแก่ใจจะเดือดดาลแล้ว ในใจเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว คิดหาวิธีต้านทานแรงสาปแช่งอย่างสุดกำลัง

เวลาผ่านไปหลายชั่วยาม

เกิดเสียงดังตูม!

กายเนื้อของเขาระเบิดกระจาย กลายเป็นโลหิตเจิ่งนองพื้น

ดวงวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน ยังคงพยายามต่อต้านอยู่

เขาใกล้จะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว

ราชันโลภะพลันเงยหน้าขึ้น พุ่งออกจากถ้ำไป

นอกถ้ำอุดมไปด้วยขุนเขาธารางดงามจับตา เขาเหาะมุ่งไปยังขอบฟ้า ทะยานไปไกลหลายล้านลี้ได้ในชั่วพริบตาเดียว เขามาถึงริมทะเลสาบแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

จี้เซียนเสินและฟางเหลียงกำลังนั่งสมาธิบำเพ็ญอยู่ริมทะเลสาบ เมื่อทั้งคู่สัมผัสกลิ่นอายของเขาได้ ต่างก็พากันลุกขึ้น ตั้งท่าพร้อมต่อสู้

“แจ้งต่อจักรพรรดิเซียนวัฏจักรที! มีคนสาปแช่งข้า!”

“อ๊าก…”

ราชันโลภะเพิ่งกล่าวจบ วิญญาณก็ไม่อาจทนรับแรงระเบิดระดับปฐมเทพได้อีก กายจิตแตกสลายลง

จี้เซียนเสินและฟางเหลียงตะลึงงัน ทั้งสองต่างมีสีหน้าแปลกพิลึก

พวกเขาไม่รู้จักราชันโลภะ

ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง จี้เซียนเสินกล่าวด้วยความปลงอนิจจัง “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการก่อกรรมอีกแล้ว คนผู้นี้น่าเวทนาโดยแท้”

ฟางเหลียงมีสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าราชันโลภะไม่ธรรมดาเลย อย่างน้อยก็คงเป็นระดับเทพ

ระดับเทพผู้ทรงเกียรติไม่น่าเชื่อว่าจะถูกผู้อื่นสาปแช่งจนถึงแก่ความตายได้!

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเก่งกาจมากเพียงใดกันแน่

ฟางเหลียงเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “เรื่องนี้อย่าพูดถึงเลยดีกว่า เจ้าแดนต้องห้ามอันธการพลังวิเศษแผ่ไพศาล ถ้าหากพวกเรารายงานเรื่องนี้ไป เกรงว่าอาจจะถูกเขาเพ่งเล็งไปด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ