ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 39

บทที่ 39 สังหารผู้อาวุโส สัตว์เลี้ยงเทพปีศาจ
ผู้ดำเนินการลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ?

หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว

เจ้าสุนัขเฒ่านี่ซ่อนตัวได้ดีจริงๆ!

ไม่แปลกใจเลยที่หลังจากเปิดศึกกับลัทธิมารครั้งนั้น ผู้อาวุโสส่วนมากต่างก็เกิดความประทับใจในตัวหานเจวี๋ย แต่เซียนเฒ่าเต้าเหลยกลับไม่ใช่

ที่แท้เจ้าหมอนี่ก็เป็นจารชน!

ช่างชั่วช้ายิ่งนัก

จะจัดการอย่างไรดีเล่า

สังหารเลย หรือว่าหาหลักฐานก่อน?

หานเจวี๋ยลูบคาง รู้สึกลังเลขึ้นมา

เขาคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินทางไปยังยอดเขาหยกวิเวก

เซียนซีเสวียนเชื่อถือได้ ในค่าความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ปรากฏว่านางเป็นจารชน

เมื่อมาถึงหน้าตำหนักหยกวิเวก ประตูใหญ่ก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว หานเจวี๋ยเข้าไปด้านในทันที

ครั้งนี้เขาไม่ได้คุกเข่าคำนับ เพียงแค่ประสานมือคารวะ

“อาจารย์ ข้าพบว่าในเหล่าผู้อาวุโสมีจารชนของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณแฝงตัวอยู่ จะจัดการเช่นไรดี จะสังหารทันที หรือรวบรวมหลักฐานก่อน” หานเจวี๋ยเอ่ยถาม

เซียนซีเสวียนเบิกตาโต เอ่ยถามเสียงเบาว่า “ผู้ใด”

“เซียนเฒ่าเต้าเหลยแห่งยอดเขาอัสนีสวรรค์”

“สังหารเสีย”

“เอ่อ…”

หานเจวี๋ยนิ่งอึ้ง

เป็นการสนทนาที่ต่างจากที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง

หรือว่าเซียนซีเสวียนจะมีความแค้นกับเซียนเฒ่าเต้าเหลย?

เซียนซีเสวียนกล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว “อาจารย์พบความผิดปกติของเขามานานแล้ว ในเมื่อเจ้าก็กล่าวมาเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นความจริงแล้ว”

หานเจวี๋ยพยักหน้า หมุนกายจากไป

เซียนซีเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นตามไป

ทั้งสองคนออกจากยอดเขาหยกวิเวก เหาะไปยังยอดเขาอัสนีสวรรค์

ด้วยเป็นถึงหนึ่งในยอดเขาที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ศิษย์ของยอดเขาอัสนีสวรรค์จึงมีเกือบสองร้อยคน แต่ละคนต่างก็ฝึกฝนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ของยอดเขาอัสนีสวรรค์

พวกหานเจวี๋ยมาถึงยอดเขาอัสนีสวรรค์ในเวลาไม่นาน

“ศิษย์พี่ ข้ามาเยี่ยมเยียนท่าน” เซียนซีเสวียนกล่าว

ครั้นสิ้นเสียง ประตูใหญ่ก็เปิดออก

คนทั้งสองรีบเข้าไปด้านใน

ประตูใหญ่ปิดลงทันที

เมื่อเห็นว่าหานเจวี๋ยมาด้วย เซียนเฒ่าเต้าเหลยอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบหยัดกายขึ้น

“ผู้อาวุโสทั้งสอง มาหาข้าพร้อมกัน…”

เซียนเฒ่าเต้าเหลยถามด้วยรอยยิ้ม ทว่ายังไม่ทันถามจบ แสงกระบี่ก็พลันเปล่งประกายในตำหนักใหญ่

สามกระบี่แยกเงาแทงทะลุเข้าที่หน้าอกของเซียนเฒ่าเต้าเหลยทันใด และตรึงเขาไว้กับผนังหยกของตำหนัก

หานเจวี๋ยในระดับปราณก่อกำเนิดขั้นหนึ่งสามารถสังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณได้ ยามนี้เขาอยู่ระดับปราณก่อกำเนิดขั้นห้า ย่อมจัดการเซียนเฒ่าเต้าเหลยได้อย่างง่ายดาย

‘รวดเร็วยิ่งนัก!’

เซียนซีเสวียนแอบตกตะลึง นางยังไม่ทันเห็นชัดเจนเลยว่าหานเจวี๋ยลงมืออย่างไร

เซียนเฒ่าเต้าเหลยยิ่งตระหนกตกใจ เขาอยากจะดิ้นรนให้หลุดพ้น แต่พบว่าปราณกระบี่ของหานเจวี๋ยแทรกซึมเข้าสู่ร่างของเขาแล้ว อีกทั้งยังกลืนกินพลังวิญญาณอย่างรวดเร็ว

เป็นไปได้อย่างไร!

เหตุใดพลังวิญญาณของเขาถึงได้รุนแรงเช่นนี้

เซียนเฒ่าเต้าเหลยรีบตะโกนด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด “ผู้อาวุโสหาน! ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

หานเจวี๋ยกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ผู้ดำเนินการลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ? ก่อนเจ้าสำนักจะจากไป ได้ให้ข้าปกป้องสำนักหยกพิสุทธิ์ไว้ ช่วงนี้ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ของสำนักหยกพิสุทธิ์ถูกลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณจับตัวไปเป็นเชลยติดต่อกัน คิดว่าคงเป็นข่าวที่เจ้าปล่อยออกไปสินะ วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”

เขาย่างเท้าเข้าไปหาเซียนเฒ่าเต้าเหลย

[เซียนเฒ่าเต้าเหลยเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]

เซียนเฒ่าเต้าเหลยรู้สึกตระหนก พลันกลายเป็นสายฟ้าระเบิดตัวจนแตกกระจาย สายฟ้าหลายสิบสายวิ่งไปตามผืนผนัง พุ่งไปยังประตูใหญ่อย่างรวดเร็ว

หานเจวี๋ยยกมือขวาขึ้นมา สายฟ้าพวยพุ่งออกจากฝ่ามือ

มหาวายุอัสนี!

สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนประสานสลับกันไปมาภายในตำหนัก บรรดาขวดหยก ม้วนภาพวาด และสิ่งของประดับประดาอื่นๆ ถูกสั่นสะเทือนจนแตกกระจายเป็นผุยผง

เกิดเสียงระเบิดดังตู้ม!

ตำหนักอัสนีสวรรค์แหลกละเอียดไม่ต่างกัน เซียนเฒ่าเต้าเหลยปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า กระอักเลือดก่อนร่วงลงบนพื้น

เขาเพิ่งจะลุกขึ้น เงากระบี่สามสายก็ฟาดฟันลงมาจากด้านบน สังหารร่างของเขาแหลกมลายในทันที จิตดั้งเดิมของเขาคิดจะหนี แต่ถูกตราประทับเก้ามังกรขจัดมารโจมตีจนระเบิด

สังหารจนสิ้นซาก!

หานเจวี๋ยหันกายจากไป ทิ้งเพียงคำพูดไว้หนึ่งประโยคว่า “อาจารย์ ที่เหลือมอบให้ท่านจัดการแล้ว”

เขาออกไปอย่างรวดเร็ว

เขาเพิ่งจากไปไม่นาน ศิษย์ยอดเขาอัสนีสวรรค์แต่ละคนก็ทยอยบินเข้ามา หนึ่งในนั้นรวมถึงโม่ฟู่โฉวและโม่จู๋ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ