บทที่ 416 ศึกชิงโชคชะตาเปิดฉากขึ้นแล้ว
เทพเซียนรวมถึงเผ่าพันธุ์อีกมากมาย หลังจากกลายเป็นเทพเซียนแล้ว พวกเขาจะมีผลประโยชน์ร่วมกัน หากวังสวรรค์ถูกทำลาย ชะตากรรมและโชควาสนาของพวกเขาล้วนจะเสื่อมถอย ดังนั้นถึงแม้จะเป็นเทพเซียนจากเผ่ามนุษย์แต่เมื่อได้ยินว่าเผ่ามนุษย์จะโค่นล้มเทพเซียน พวกเขาก็รู้สึกโกรธแค้นมากเช่นกัน
กว่าพวกเขาจะกลายเป็นเทพเซียน ต้องมานะพากเพียรอยู่ไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี จะปล่อยให้ผู้อื่นมากดหัวได้อย่างไร
“เผ่ามนุษย์กำแหงเกินไปแล้ว วังสวรรค์ของพวกเราปกป้องดูแลพวกเขา ปราบปีศาจกำจัดมารให้พวกเขา ดูแลชะตาฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อพวกเราเช่นนี้”
“ใช่แล้ว ในอดีตวังปีศาจก่อหายนะแก่เผ่ามนุษย์ มิใช่วังสวรรค์ของพวกเราหรือที่ยื่นมือช่วยเหลือ”
“หมาป่าตาขาว มีอริยะให้ท้าย จึงคิดจะท้าทายเทพเซียนงั้นหรือ”
“ถูกต้อง พวกเราก็สามารถเชิญอริยะมาสนับสนุนได้เช่นกัน!”
เหล่าเทพเซียนพากันวิพากษ์วิจารณ์ ต่างมีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน
พื้นเพฟางเหลียงมาจากเผ่ามนุษย์ จึงไม่อยากเห็นมนุษย์และเทพเซียนกลายเป็นศัตรูกัน แต่ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจแล้ว
นี่น่ะหรือมหาเคราะห์ มิใช่แค่ต่อสู้ห่ำหั่นเท่านั้น ยังต้องเลือกระหว่างความเป็นความตายและระหว่างศีลธรรมกับความถูกต้อง
แววตาของฟางเหลียงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ยกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบลง
เทพเซียนทั้งหมดต่างมองไปที่เขา
ฟางเหลียงเปิดปากเอ่ย “เตรียมการประกาศศึกกับเผ่ามนุษย์ ในเมื่อมหาเคราะห์ต้องการให้มนุษย์และเทพเซียนต่อสู้ตัดสินกัน วังสวรรค์ก็ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ทำได้เพียงเผชิญหน้ากับสงครามแล้ว!”
ทันทีที่วาจานี้ถูกกล่าวออกมา เหล่าเทพเซียนต่างพากันตอบรับเป็นอย่างดี
ต่อให้วังสวรรค์ล่มสลาย ศักดิ์ศรีของเทพเซียนก็มิใช่สิ่งที่มนุษย์สามัญจะแตะต้องได้
….
สิบห้าปีผ่านไป
หานเจวี๋ยยังคงดูดซับแรงกรรมจากบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรอยู่ในถ้ำเทวาฟ้าประทาน ตัวอักษรสี่แถวพลันเด้งขึ้นมาตรงหน้าเขา
[ตรวจสอบพบว่าศึกชิงโชคชะตาแห่งมหามรรคาไร้สิ้นสุดเปิดฉากขึ้นแล้ว ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง เข้าร่วมเผ่ามนุษย์ เข่นฆ่าเทพเซียน จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]
[สอง เข้าร่วมวังสวรรค์ ขยายอำนาจเทพเซียน จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ได้รับของล้ำค่าฟ้าดินแบบสุ่มหนึ่งชิ้น]
[สาม เก็บตัวบำเพ็ญ ปลีกตัวจากความขัดแย้ง จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
หานเจวี๋ยตกตะลึง
ศึกชิงโชคชะตาเปิดฉากขึ้นแล้วหรือ
หรือว่าศึกตัดสินครั้งสุดท้ายของมหาเคราะห์ในครั้งนี้คือศึกระหว่างเผ่ามนุษย์และวังสวรรค์
ช้าก่อน
หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิตเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ยิ่งคิดหานเจวี๋ยก็ยิ่งหนาวสะท้าน หากว่าทุกอย่างล้วนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว วังปีศาจ วังเทพ สำนักพุทธ เผ่าเทพอีกาทอง วังมังกรรวมถึงยมโลก ล้วนเป็นตัวรับเคราะห์
หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สามในทันที
[ยินดีด้วยท่านได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[รองเท้าอักขระลับบัญญัติมรรคา: ยอดสมบัติต้าหลัว ยอดสมบัติที่ก่อกำเนิดขึ้นจากปราณฟ้าบุพกาล เคลื่อนไหวอย่างอิสระอยู่เหนืออำนาจแห่งกฎเกณฑ์ มีผนึกกลไกป้องกันการโจมตีจากพลังจิตระดับเซียนทองต้าหลัวได้]
สมบัติชิ้นนี้ไม่เลวเลย!
ชิ้นส่วนมหามรรคก็ได้เพิ่มเป็นหกชิ้นแล้ว
หานเจวี๋ยหยิบรองเท้าอักขระลับบัญญัติมรรคาออกมา เริ่มทำให้มันจดจำเจ้าของ
ความคิดของเขาล่องลอยออกไป
ผู้นำวังสวรรค์คือฟางเหลียงศิษย์ของเขา ส่วนว่าที่ราชาแห่งมวลมนุษย์ของเผ่ามนุษย์คือสิงหงเสวียน…
ผู้นำของทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนของเขา…
อิทธิพลของหานเจวี๋ยเพิ่มขึ้นมากถึงเพียงนี้โดยไม่ทันรู้ตัว
ตอนนี้พอเขาหยุดคิดแล้วมองย้อนกลับไป ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับฝันไป
ตอนนั้น เขาเพียงคิดอยากมีทางรอดชีวิตให้มากหน่อยถึงได้รับศิษย์ ไม่คิดเลยว่าจะค่อยๆ ก้าวมาจนถึงวันนี้ได้
“ข้ากลายเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไปแล้วจริงๆ”
หานเจวี๋ยพึมพำกับตัวเอง ยิ้มอย่างจนปัญญา
แต่เขากลับไม่นึกเสียใจเลย
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้วอย่างไรเล่า ขอเพียงมีชีวิตรอดไปตลอดรอดฝั่ง ไล่ตามมหามรรคไปได้ตลอด เขาก็ยินดีเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
แน่นอน ยอมรับแค่ภายในใจเท่านั้น ไม่สามารถออกหน้ายอมรับได้
มีพวกผู้คนมากมายเหลือเกินที่โยนความผิดของตนให้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ช่างไร้ยางอายนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...