บทที่ 456 จ้าวอวิ๋นแห่งสำนักซ่อนเร้น ต่อสู้ตัดสิน
“ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของเจ้าแม่ ข้าจะคัดเลือกผู้มีจิตเมตตาอารีมีใจโอบเอื้อต่อสรรพสัตว์มาสืบทอดตำแหน่งอริยะแน่นอน”
หานเจวี๋ยประสานหมัดกล่าววาจา น้ำเสียงสัตย์ซื่อจริงจังอย่างยิ่ง
เจ้าแม่หนี่ว์วายิ้มบางๆ เอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้ละไว้เช่นนี้ก่อนเถอะ จากนี้มรรคาสวรรค์จะไร้ซึ่งหนี่ว์วาแล้ว เจ้ายังคงต้องพึ่งพาตัวเอง ข้าไม่สามารถก้าวก่ายเรื่องของมรรคาสวรรค์ได้ จะเป็นการละเมิดต่อมหามรรค”
หานเจวี๋ยพยักหน้ารับคำ “เข้าใจแล้ว ข้าก็ไม่กล้ารบกวนเจ้าแม่เช่นกัน”
เจ้าแม่หนี่ว์วาโบกแขนเสื้อ ความฝันพลันสลายลง
จิตนึกคิดของหานเจวี๋ยกลับสู่ความเป็นจริง
เขาพรูลมหายใจยาวๆ ออกมาคราหนึ่ง
อริยะช่างเล่นเกมเป็นจริงๆ แต่ละแผนต่างลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใดจะคาดถึงว่าหนี่ว์วามิได้ดับสูญอย่างแท้จริง เหล่าอริยะล้วนมิมีผู้ใดทราบ!
‘ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้รับตำแหน่งอริยะมรรคาสวรรค์และไม่ได้พึ่งพาอริยะ เช่นนี้ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ จนถึงตอนนี้ เขายังคงมิได้ล่วงเกินอริยะเลยเว้นก็แต่อริยะมิ่งจี และผู้ที่ล่วงเกินอริยะมิ่งจีคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เกี่ยวข้องอันใดกับตัวเขาหานเจวี๋ยเล่า
หานเจวี๋ยถอนหายใจคราหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
ทุกสิ่งล้วนจัดการอย่างเหมาะสม แม้แต่อริยะก็จัดการได้หมดแล้ว สิ่งที่หานเจวี๋ยต้องทำในตอนนี้คือบำเพ็ญตบะต่อ พยายามกลายเป็นผู้ทรงพลังไร้พ่ายในหมู่ผู้ที่ต่ำกว่าระดับอริยะให้ได้ก่อนเข้าสู่แดนเซียน ต่อให้ทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร หากอยู่ภายในอาณาเขตเต๋าอริยะก็ล้วนฝ่าเข้ามาไม่ได้
ช้าก่อน
ยังมีจุดที่ต้องระวังอยู่
‘ค่ายกลของอาณาเขตเต๋าสามารถสกัดกั้นการบุกรุกของอริยะมรรคาสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่’ หานเจวี๋ยถามในใจ
[ไม่สามารถสกัดกั้นได้หากอริยะอริยะมรรคาสวรรค์บุกเข้ามาพร้อมกันหลายคน]
เปลือกตาหานเจวี๋ยกระตุกไม่หยุด
ยังไม่ปลอดภัยสินะ
ดูเหมือนก่อนที่อาณาเขตเต๋าจะยกระดับอีกครั้ง ยังไม่อาจล่วงเกินอริยะได้ ต้องปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความนบน้อมเกรงใจและตื่นตัวอยู่เสมอ
หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดขำ แล้วบำเพ็ญต่อ
….
เรื่องหนี่ว์วาดับสูญส่งผลให้สรรพสิ่งภายใต้มรรคาสวรรค์บ้าคลั่งยิ่งขึ้น หลังจากสรรพสิ่งทราบว่าอริยะมิได้เป็นอมตะคงกระพัน ความกล้าก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ล้วนต้องการแย่งชิงโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ในมหาเคราะห์ ถึงขั้นที่ต้องการจะพิสูจน์มรรคกลายเป็นอริยะด้วย!
วังสวรรค์และเผ่ามนุษย์ยุติสงครามแล้ว แต่กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ที่สนับสนุนพวกเขากลับเริ่มเข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง ที่มีแค้นก็ทำไปเพื่อชำระแค้น ที่ไม่มีแค้นก็ทำไปเพื่อแย่งชิงทรัพยากร แดนเซียนพลันโกลาหลวุ่นวายยิ่งขึ้นในชั่วขณะ
ในชั่วขณะนั้น มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่โผล่ออกมาเรื่อยๆ และมีผู้ทรงพลังที่สร้างชื่อเสียงดังก้องไปทั่วหล้าเพิ่มมากขึ้น
ส่วนเผ่าสวรรค์ ขณะนี้กลับเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แดนต้องห้ามอันธการก็เริ่มไม่สงบสุขขึ้นมาแล้วเช่นกัน
เวลาผ่านไปสี่สิบห้าปี เกาะสำนักซ่อนเร้นเผชิญกับการโจมตีจากดวงจิตอัปมงคลอีกครั้ง
หานเจวี๋ยปล่อยดวงจิตอัปมงคลเข้ามาตรงๆ จากนั้นก็ให้จ้าวอวิ๋นต่อสู้กับดวงจิตอัปมงคลดวงนี้
จ้าวอวิ๋นคือองครักษ์คนใหม่ ผลงานที่จำลองขึ้นจากสือตู๋เต้า!
นี่คือศึกแรกของจ้าวอวิ๋น เขายกมือขึ้นมา บดอัดดวงจิตอัปมงคลลงบนหาดทรายตรงๆ จนไม่อาจขยับเขยื้อนได้ เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นที่แอบมองอยู่ล้วนตกตะลึงจนตาค้าง
องครักษ์ใหม่รายนี้เก่งกาจกว่าหลี่ว์ปู้และหม่าเชาเสียอีก!
หลังจากปราบดวงจิตอัปมงคลลงได้ ดวงจิตประหลาดก็ลอยเข้าไปกลืนกินทันที เสริมพลังให้กับตัวมันเองอีกครั้ง
เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นมองไม่เห็นดวงจิตประหลาด หลงนึกไปว่าเป็นพลังเวทบางอย่างของจ้าวอวิ๋นที่ทำให้ดวงจิตอัปมงคลมลายหายไป
หลังจัดการดวงจิตอัปมงคลแล้ว จ้าวอวิ๋นก็กลับขึ้นไปบนต้นฝูซังด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ปักหลักเฝ้าอยู่หน้าวังวนมิติ
รูปโฉมของสือตู๋เต้าไม่น่าเกรงขามเท่าจู่ถู ถึงขั้นที่ดูอ่อนแอเสียด้วยซ้ำ ทว่าแววตาของเขาเยียบเย็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้คนไม่กล้าสบสายตา
อีกด้านหนึ่ง
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยมีสีหน้าเป็นกังวล
ดวงจิตอัปมงคลในครานี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมากนัก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พื้นที่ของแดนต้องห้ามอันธการคงเต็มไปด้วยดวงจิตอัปมงคลจริงๆ
หากวันใดมีดวงจิตอัปมงคลที่อยู่เหนือกว่าอริยะมรรคาสวรรค์โผล่มา แบบนั้นคงไม่ดีแน่
หานเจวี๋ยขับเคลื่อนเกาะสำนักซ่อนเร้นอีกครั้ง หากมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับดวงจิตอัปมงคลเข้า เช่นนั้นคงจะแย่
หลายวันผ่านไป เกาะสำนักซ่อนเร้นหยุดลงแล้ว
หานเจวี๋ยบำเพ็ญต่อไป มุ่งสู่ระดับเซียนทองต้าหลัวระยะสมบูรณ์
….
แดนเซียน ริมฝั่งทะเลไร้ขอบเขต มีชะง่อนผากั้นอยู่ริมทะเล ราวกับจะปิดกั้นท้องทะเลไว้ที่นี่
บนชะง่อนผามีเงาร่างยืนอยู่สองร่าง
เป็นโจวฝานและซูฉี
โจวฝานสวมชุดสีดำ สวมกวานหยกมังกรดำไว้บนศีรษะ ถือกระถางสำริดใบหนึ่งด้วยมือข้างเดียว ไอสังหารคละคลุ้ง
ซูฉีก็สวมชุดสีดำเช่นเดียวกัน เพียงแต่เขาปล่อยผมแผ่สยาย สองตามืดดำ บนหน้าผากมีอักขระแปลกประหลาดเคลื่อนไหวคืบคลานอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...