ตอน บทที่ 489 อริยะคลั่ง เผ่ามนุษย์ปรากฏตัว จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 489 อริยะคลั่ง เผ่ามนุษย์ปรากฏตัว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 489 อริยะคลั่ง เผ่ามนุษย์ปรากฏตัว
‘หืม? อริยะมิ่งจีขอความช่วยเหลือจากอริยะผู้อื่นหรือ’
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เขาไม่ได้หยุดยั้ง แต่กลับสาปแช่งต่อ
อายุขัยลดลงอย่างรวดเร็ว!
ยี่สิบห้าล้านล้านปี!
สามสิบล้านล้านปี!
สี่สิบล้านล้านปี!
หานเจวี๋ยแทบจะทนไม่ไหวกับอายุขัยที่ลดลงอย่างรวดเร็วนี้
การรวมตัวของสองอริยะช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ราวกับกำแพงเหล็กหนาที่คอยป้องกันพลังคำสาปแช่ง!
ขณะนั้นเอง!
[อริยะมิ่งจีศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ธาตุไฟเข้าแทรก กลายร่างเป็นอริยะคลั่ง เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]
อริยะคลั่ง!
หานเจวี๋ยหยุดสาปแช่งทันที
เขาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ร่างกายเขาเบาสบาย รู้สึกถึงความสุขหลังจากผ่านความทุกข์ยากมา
ผลลัพธ์ของการสาปแช่งนับว่าไม่เลว หานเจวี๋ยไม่คิดว่าตนเองจะสามารถสาปแช่งอริยะจนถึงแก่ความตายได้ภายในครั้งเดียว แต่การที่อริยะมิ่งจีกลายเป็นบ้าไปได้ แสดงว่าคราวตายของเขาก็อยู่ไม่ไกลแล้ว!
หานเจวี๋ยเก็บหนังสือแห่งความโชคร้าย ลุกขึ้นยืนเตรียมออกไปแสดงธรรมให้แก่สำนักซ่อนเร้น
…
ชั้นฟ้าที่สิบสาม พระราชวังเผ่าสวรรค์
ฟางเหลียงมาคารวะจี้เซียนเสิน
จี้เซียนเสินกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ชั้นฟ้าที่สามสิบสามเกิดเรื่องวุ่นวายแล้ว”
ฟางเหลียงผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม “หมายความว่าอย่างไร”
“เห็นว่ามีอริยะคลั่งกระมัง”
“หา?”
“เห็นลือกันว่าถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งจนเป็นบ้า”
ดวงตาของฟางเหลียงเบิกกว้างขึ้น เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
แต่ไม่คิดว่าหลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะยังมีชีวิตอยู่!
ไม่เพียงแค่นั้นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังสาปแช่งอริยะอีกด้วย!
มันชักจะโอหังเกินไปแล้ว!
ที่สำคัญที่สุดคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการทำสำเร็จ!
ฟางเหลียงขมวดคิ้วและถามว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพวกเราหรือขอรับ”
จี้เซียนเสินกล่าว “อริยะจิตฟุ้งซ่าน ความสนใจย่อมถูกเบี่ยงเบน นอกจากนี้ เจ้าคิดเห็นอย่างไรกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ว่ากันว่าในระหว่างมหาเคราะห์ครั้งก่อน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการให้การช่วยเหลือวังสวรรค์”
ฟางเหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “แค่ข่าวลือเท่านั้น สุดท้ายแล้ววังสวรรค์มีจุดจบเช่นไร ท่านก็รู้ดีไม่ใช่หรือขอรับ”
จี้เซียนเสินขมวดคิ้ว การปรากฏตัวของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา กลุ่มอิทธิพลฝ่ายใดที่แข็งแกร่งที่สุด เจ้าแดนต้องห้ามอันธการก็มักจะพุ่งเป้าไปยังฝ่ายนั้น บัดนี้เผ่าสวรรค์เป็นเผ่าที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในแดนเซียนแล้วไม่ใช่หรือ
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกขอรับ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการคงไม่ปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว ต่อให้เขาจะหมายหัวพวกเราจริงๆ ขนาดอริยะยังทำอะไรไม่ได้ พวกเราไม่ต้องรอความตายกันเลยหรือ” ฟางเหลียงกล่าวพร้อมกับแบมือออก
เขาเพิ่งได้เป็นชาวพุทธเมื่อไม่นานมานี้ จึงไม่ต่อสู้ ไม่ดิ้นรน อยู่ไปอย่างสบายใจ
ปัจจุบันเทพเซียนในวังสวรรค์ต่างเป็นเพียงของประดับตกแต่ง ทว่าเทพเซียนของเผ่าสวรรค์กลับเที่ยวแสดงธรรมไปทั่วทุกที่ เพื่อเผยแพร่คำสอน ด้วยจิตใจทะเยอทะยาน
เมื่อเห็นจี้เซียนเสินหมั่นเพียรถึงเพียงนี้ ก็อดนึกถึงตนเองในอดีตขึ้นมาไม่ได้
ไม่ว่าใครก็หลงอยู่ในวังวนม่านหมอกแห่งเวรกรรม
จี้เซียนเสินส่ายหน้าและหลุดหัวเราะออกมา “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ที่ข้าเรียกเจ้ามาพบเป็นเพราะเรื่องอื่นต่างหาก เผ่ามนุษย์ปรากฏตัวขึ้นอีกแล้ว รีบไปดึงมาเป็นพวกวังสวรรค์เถอะ ภายหน้าจะได้ยืมมือเผ่ามนุษย์มาใช้งาน”
ฟางเหลียงขมวดคิ้วถาม “เผ่ามนุษย์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งได้อย่างไร”
“เป็นฝีมือหลี่เต้าคง ก่อนที่มหาเคราะห์จะสิ้นสุดลง เผ่ามนุษย์ส่วนหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายออกไป ตอนนี้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วสองพันปี จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เผ่าบรรพกาลจะไม่สามารถควบคุมเผ่ามนุษย์ได้อีกต่อไป วังสวรรค์ควรฉวยโอกาสตอนที่เผ่ามนุษย์ยังอ่อนแอ เป็นมังกรไร้หัว เข้ายึดครองอย่างสบายๆ เถิด”
“แล้วหลี่เต้าคงล่ะขอรับ”
“เขาหรือ? เจ้าคิดว่าเขาจะเป็นผู้นำเผ่ามนุษย์จริงๆ น่ะหรือ”
จี้เซียนเสินถามด้วยความสงสัย รู้สึกว่าฟางเหลียงระแวงมากจนเกินไป
ฟางเหลียงพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง อันที่จริงหลี่เต้าคงก็ไม่ใช่คนแบบนั้น เดิมทีหลี่เต้าคงออกจะชิงชังเผ่ามนุษย์เสียด้วยซ้ำ ที่เขาปกป้องเปลวธูปของเผ่ามนุษย์ คาดว่าเป็นเพราะพื้นฐานการอบรมของนิกายเหริน
“ได้ ข้าจะพยายาม”
ฟางเหลียงตอบรับ แต่ในใจกลับรู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
…
ดวงจิตประหลาดเป็นหนึ่งในมือสังหารของหานเจวี๋ย ต่อไปจะสามารถฆ่าศัตรูโดยที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นได้
ผ่านไปไม่นาน
มีคนมาขอพบหานเจวี๋ย
ศิษย์คนอื่นๆ ยังตกอยู่ในภาวะตระหนักรู้มรรค ยังไม่ฟื้นคืนสติขึ้นมา ทว่าคนผู้นี้กลับฟื้นคืนสติได้เร็วกว่าใคร คงตั้งใจจะมาคารวะหานเจวี๋ย
“เข้ามาสิ”
ประตูอารามเต๋าเปิดออก โจวฝานเดินเข้ามา
เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้าของหานเจวี๋ย กล่าวพร้อมกับประสานหมัด “อาจารย์ ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้อง”
หานเจวี๋ยถาม “เรื่องอะไร”
โจวฝานอธิบายความตั้งใจของเขา
สองพันปีที่ผ่านมาเขารู้สึกได้ว่าเผ่ามนุษย์ลงมาเกิดอีกครั้ง ตอนแรกเขาก็ไม่สนใจ แต่ช่วงหลังมานี้เผ่ามนุษย์ดูเหมือนจะเผชิญภัยพิบัติ กำลังเรียกร้องหาเขาอยู่
เขาต้องการช่วยเผ่ามนุษย์
เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
หานเจวี๋ยนับนิ้วคำนวณโดยอาศัยผลกรรม ทำให้เขาคำนวณพบว่าในแดนเซียนมีเผ่ามนุษย์อยู่จริง แต่จำนวนเกินสองล้านคน ไม่ใช่กลุ่มก้อนเล็กๆ
เผ่ามนุษย์อยู่ห่างออกไปจากเขตเซียนร้อยคีรีไกลลิบ
หานเจวี๋ยคำนวณต่อไป
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง
เผ่ามนุษย์กำลังถูกเผ่าบรรพกาลข่มเหง เผ่าบรรพกาลจับเผ่ามนุษย์กินเป็นอาหาร หมายจะกลืนกินดวงชะตามรรคาสวรรค์ของเผ่ามนุษย์ ทำให้เผ่ามนุษย์รู้สึกสิ้นหวัง จำต้องพึ่งพาวิชาลับอัญเชิญผู้แข็งแกร่งที่มีสายเลือดเผ่ามนุษย์มาช่วยเหลือ
หานเจวี๋ยเองก็เป็นเผ่ามนุษย์ เพราะกู่จั๋วอิน ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเผ่าบรรพกาลยิ่งนัก
เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้
“เจ้าไปเถิด” หานเจวี๋ยกล่าวด้วยท่าทีสงบ
โจวฝานดีใจมาก รีบคำนับขอบคุณและจากไปทันที
หลังจากที่โจวฝานจากไปแล้ว หานเจวี๋ยก็นำดวงจิตประหลาดไปซ่อนไว้ในบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร จากนั้นหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เตรียมตัวสาปแช่งกู่จั๋วอิน
ได้เวลาคิดบัญชีแล้ว!
………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...