บทที่ 506 อริยะวางแผน ดวงชะตาเกิดความเปลี่ยนแปลง – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 506 อริยะวางแผน ดวงชะตาเกิดความเปลี่ยนแปลง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 506 อริยะวางแผน ดวงชะตาเกิดความเปลี่ยนแปลง
หานเจวี๋ยได้ยินเสียงเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยแล้ว แทบอยากจะหัวเราะออกมา
ขอเพียงข้าไม่ออกไป ต่อให้สรรพสิ่งแห่แหนกันมาก็เปล่าประโยชน์!
ดียิ่งนัก!
ในเมื่อเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยกล้าฉีกหน้ากัน เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!
หานเจวี๋ยลอบคิดกับตัวเอง ตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายลงโทษเจ้านิกายเทียนเจวี๋ย
ไม่ถึงขั้นสาปให้ตาย แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นบ้า!
ในเวลาเดียวกันนี้
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเขตเซียนร้อยคีรีล้วนถกเถียงเรื่องนี้กันอยู่ พวกเขาไม่ตื่นตระหนกเลย เพียงสงสัยกันว่าเหตุใดเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยต้องใส่ไคล้กันด้วย
หานเจวี๋ยพากเพียรบำเพ็ญอยู่ทุกวัน จะไปขโมยปราณม่วงอนธการมาได้อย่างไร
พวกเขาล้วนคิดว่าอริยะจงใจสร้างปัญหาให้แก่สำนักซ่อนเร้น
สดับฟังธรรมมานานหลายปี เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นต่างเชื่อมั่นในตัวหานเจวี๋ยอย่างเต็มเปี่ยม ถึงฟ้าจะถล่มลงมา แต่หากหานเจวี๋ยไม่ตระหนก พวกเขาก็ไม่ตระหนกเช่นกัน
หานเจวี๋ยไม่ออกมาพูด เหล่าศิษย์ก็ไม่ผลีผลามไปหาเขาเช่นกัน
กลับเป็นเซวียนฉิงจวินที่มาหาหานเจวี๋ย นางมิใช่คนโง่ ทราบดีว่าตนถูกอริยะหลอกใช้
หานเจวี๋ยปลอบใจนางไปสองสามประโยค หลังจากรับประกันว่าไม่มีทางเกิดเรื่องกับเขตเซียนร้อยคีรี นางจึงสงบใจลงได้
….
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งพันปี
ช่วงนี้มีสิ่งมีชีวิตแปลงกายมาป้วนเปี้ยนในละแวกเขตเซียนร้อยคีรีบ่อยๆ แต่ในหนึ่งพันปีนี้ไม่มีผู้ใดกล้าบุกโจมตีเขตเซียนร้อยคีรีเลย
ความร้ายกาจของสำนักซ่อนเร้นเป็นที่เลื่องลือ ผนวกกับความแข็งแกร่งของหลี่เต้าคง ต่อให้เป็นคำสั่งจากอริยะ สรรพสิ่งก็ไม่กล้าฝืนกำลังไปหาเรื่องสำนักซ่อนเร้น
ส่วนเรื่องปราณม่วงอนธการ สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งปวงแล้ว นับว่ายังอยู่ห่างไกลเกินไปจริงๆ ห่างไกลจนพวกเขาล้วนไม่แน่ใจว่าปราณม่วงอนธการมีจริงหรือไม่
ในช่วงหนึ่งพันปีนี้ ผู้คนในสำนักซ่อนเร้นทยอยกันบรรลุระดับเทพ รวมถึงมู่หรงฉี่ ฉู่ซื่อเหรินและเผ่าเอกาด้วย
หานโยวเป็นหัวหน้าเผ่าเอกา คุณสมบัติของเขาย่อมแข็งแกร่งที่สุด
ตัวตนระดับเทพหมื่นคน นับแต่โบราณมา ต่อให้เป็นนิกายเจี๋ยในยุคที่เคยมีหมู่เซียนนับหมื่นก็ยังไม่แน่ว่าจะแข็งแกร่งปานนี้
หานเจวี๋ยพึงพอใจเผ่าเอกายิ่งขึ้น การรับเผ่าเอกามาเมื่อครานั้นเป็นความคิดที่ชาญฉลาดจริงๆ
ตูม! ครืน…
ภูเขาภายในเขตเซียนร้อยคีรีสั่นสะเทือน พลังอันน่าหวาดหวั่นระลอกหนึ่งระเบิดออก ปกคลุมฟ้าดิน
เหล่าศิษย์ไม่ได้ตื่นตระหนก เนื่องจากทราบว่าเป็นการทะลวงระดับของศิษย์สำนักซ่อนเร้น
จ้าวเซวียนหยวน!
พิสูจน์ต้าหลัว!
สำนักซ่อนเร้นจะมีต้าหลัวเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในเขตเซียนร้อยคีรีมีเรื่องน่ายินดีอยู่ไม่ขาด ต้าหลัวเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ยิ่งสำนักซ่อนเร้นแข็งแกร่งเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น ศิษย์ทุกคนล้วนมีความสุขยิ่ง
โดยเฉพาะเหล่าศิษย์ในนาม สำนักซ่อนเร้นมีศิษย์ในนามจำนวนหลายแสน มีน้อยนิดยิ่งที่ถูกศิษย์อย่างเป็นทางการของสำนักซ่อนเร้นรับเป็นศิษย์ ถึงแม้ต่างอาศัยอยู่ในเขตเซียนร้อยคีรี แต่ในความเป็นจริงกลับอยู่ห่างกันคนละโลก ศิษย์ในนามล้วนมุ่งหวังจะได้กลายเป็นศิษย์สำนักซ่อนเร้นอย่างแท้จริง
หลังจากจ้าวเซวียนหยวนสำเร็จเป็นเซียนทองต้าหลัว ก็ได้เริ่มท้าสู้หลี่เสวียนเอ้าและเต้าจื้อจุนในแบบจำลองการทดสอบอย่างบ้าคลั่ง
ในงานประลองใหญ่ประจำศตวรรษครั้งก่อน เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของสองคนนี้แทบตาย ส่วนหลี่เต้าคง ตบะระดับครึ่งอริยะ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานประลองใหญ่ประจำศตวรรษ
ขณะที่ภายในสำนักซ่อนเร้นมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้ากันอยู่นั้น เหล่าอริยะกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม อาณาเขตเต๋าอริยะ
หลี่มู่อี เทพสูงสุดหนานจี๋ อริยะจินอันและเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่
“สิ่งมีชีวิตสามัญต่างกริ่งเกรงสำนักซ่อนเร้น เช่นนี้จะทำอย่างไรดี” เทพสูงสุดหนานจี๋เอ่ยด้วยความกังวล
เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยขมวดคิ้ว คำสั่งกวาดล้างสำนักซ่อนเร้นเป็นตัวเขาที่ประกาศออกไป ยามนี้สรรพสิ่งไม่เชื่อฟัง ทำให้เขาเสียหน้าเป็นที่สุด
อริยะจินอันส่ายหน้ากล่าวว่า “ข้าว่านะ เหตุใดพวกเจ้าต้องไปหาเรื่องเขาด้วย เด็กคนนี้นิสัยขี้ขลาด ซ่อนตัวหลบมุมไม่ออกไปไหน ยามนี้แดนเซียนคือแหล่งพึ่งพิงที่ดีที่สุดของเขา หากเขาไม่ออกจากแดนเซียน พวกเราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ศิษย์ของพวกเราก็ไม่สามารถบุกทำลายค่ายกลอาณาเขตเต๋าของเขาได้ กล่าวได้ว่าพวกเรายกหินทับเท้าตนเองเสียแล้ว”
เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยแค่นเสียงเย็นชา อารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง
เทพสูงสุดหนานจี๋เอ่ยเสียดสี “เช่นนั้นไยเจ้าไม่พูดแต่แรกเล่า”
อริยะจินอันกลอกตาพลางกล่าว “ข้ากล่อมพวกเจ้าได้ด้วยหรือ”
อยู่มาวันหนึ่ง หลี่เต้าคงมาขอเข้าพบหานเจวี๋ยอย่างกะทันหัน
หานเจวี๋ยให้เขาเข้ามาในอารามเต๋า
“เจ้าสำนัก ระยะนี้ดวงชะตามรรคาสวรรค์เกิดความเปลี่ยนแปลง เกรงว่าจะไม่ดีแล้ว” หลี่เต้าคงเอ่ยเสียงขรึม
หานเจวี๋ยจำได้ว่าในอดีตเขาเคยกระโจนเข้ามรรคาสวรรค์ไปตรงๆ อาจจะมีวิธีสอดส่องดวงชะตามรรคาสวรรค์จริงๆ
“ไม่ดีอย่างไร”
“ข้าสงสัยว่าจะมีอริยะคิดตบตากลไกสวรรค์ ซื้อเวลาให้ตนเข้าสู่โลกีย์วิสัยได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ สำหรับอริยะ ต่อให้ระยะเวลาสั้นแค่ไหน ก็เพียงพอให้สังหารศัตรูที่เขาอยากให้ตายได้”
สีหน้าของหลี่เต้าคงไม่น่ามองยิ่งนัก ความหมายในวาจาคืออริยะจะมาจัดการสำนักซ่อนเร้นด้วยตัวเอง
หานเจวี๋ยตกใจ เขาสอบถามในใจด้วยความหวาดระแวง ‘อริยะมรรคาสวรรค์ในปัจจุบันสามารถพังค่ายกลอาณาเขตเต๋าเข้ามาได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ขณะนี้ไม่สามารถทำได้]
‘เช่นนั้นหากอริยะทั้งหมดลงมือพร้อมกันเล่า’
[ทำได้ แต่ต้องใช้เวลา แดนเซียนทนรับพลังเวทของอริยะตั้งแต่สี่คนขึ้นไปไม่ไหว]
กล่าวอีกอย่างคือ หานเจวี๋ยยังปลอดภัยอยู่
หานเจวี๋ยสบถในใจ อริยะกลุ่มนี้บ้าไปแล้วหรือ
หลี่เต้าคงถาม “เจ้าสำนัก พวกเราควรทำอย่างไรดี”
หานเจวี๋ยตอบอย่างสงบ “สงบใจบำเพ็ญเถอะ เรื่องอริยะให้เป็นหน้าที่ของข้า”
หลี่เต้าคงฟังแล้วเหม่อลอยทันที
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหานเจวี๋ยแข็งแกร่งกว่าอริยะมรรคาสวรรค์ แต่น้ำเสียงอันหนักแน่นของหานเจวี๋ยทำให้เขาเกิดความเลื่อมใส
ตัวตนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้กลับไม่แก่งแย่งชิงดี เช่นนี้ต้องมีความองอาจและมีเจตจำนงระดับใดกัน
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...