ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 513

สรุปบท บทที่ 513 ขีดจำกัดของพลังเวท เป้าหมายพิสูจน์มรรค: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปตอน บทที่ 513 ขีดจำกัดของพลังเวท เป้าหมายพิสูจน์มรรค – จากเรื่อง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

ตอน บทที่ 513 ขีดจำกัดของพลังเวท เป้าหมายพิสูจน์มรรค ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 513 ขีดจำกัดของพลังเวท เป้าหมายพิสูจน์มรรค

วานรแขนยักษ์?

หวงจี๋เฮ่าขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินชื่อดังกล่าว แต่ไม่ได้รู้สึกประทับใจมากมายนัก

หรือว่าในสำนักซ่อนเร้นจะมีวานรแขนยักษ์ซ่อนตัวอยู่?

หลี่เสวียนเอ้ากล่าว “เมื่อมาถึงสำนักซ่อนเร้นแล้ว ก็อย่าได้คิดก่อเรื่องสร้างปัญหา ในยามปกติก็จงตั้งใจฝึกบำเพ็ญไว้ เจ้าน่าจะรู้สึกได้ว่าไอเซียนของที่นี่เข้มข้นกว่าไอเซียนในแดนเซียน ที่นี่เป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญที่สมบูรณ์แบบที่สุด”

หวงจี๋เฮ่าลองสัมผัสอย่างถ้วนถี่ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ช่างเป็นไอเซียนและปราณฟ้าประทานที่เข้มข้นยิ่งนัก!

ที่นี่น่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าสวรรค์ หรืออาณาเขตเต๋าของอริยะเสียอีก!

หากได้ฝึกบำเพ็ญที่นี่ละก็…

หัวใจของหวงจี๋เฮ่าเต้นระรัว รู้สึกดีใจที่ตนเองมาถึงที่นี่ได้

เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “อาจารย์ เจ้าสำนักซ่อนเร้นคือ…”

หลี่เสวียนเอ้าจ้องหน้าเขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เรื่องอะไรที่ไม่ควรถาม ก็อย่าถาม!”

หานเจวี๋ยมักจะใช้หยินหยางพิทักษ์ตะวันจันทราตลอดเวลา ทำให้ศิษย์ในนามส่วนมากล้วนแต่ไม่เคยมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา หลี่เสวียนเอ้าเดาออกว่าหานเจวี๋ยต้องการจะปิดบังตัวตน จึงไม่สามารถบอกกับหวงจี๋เฮ่าได้

หลังจากที่หวงจี๋เฮ่าถูกข่มขู่ เขาก็ยิ่งสงสัยกว่าเดิม

ใครกันแน่ที่มาแทนที่หานเจวี๋ย

การเข้าร่วมของหวงจี๋เฮ่าไม่ได้เป็นที่ฮือฮาในสำนักซ่อนเร้นแต่อย่างใด อย่าว่าแต่ศิษย์รุ่นใหม่เลย แม้แต่ศิษย์รุ่นเก่าต่างก็ลืมเลือนเขาไปแล้ว

บุญคุณความแค้นเมื่อสามหมื่นกว่าปีก่อน ใครจะไปจำได้อย่างชัดเจน

ที่หานเจวี๋ยจดจำหวงจี๋เฮ่าได้ ก็เป็นเพราะหวงจี๋เฮ่ามีความเคลื่อนไหวในจดหมายบ่อยๆ

หลายปีผ่านไป

หลังจากที่หานเจวี๋ยตั้งใจพิสูจน์มรรคแล้ว เวลาก็เริ่มดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ภายในชั่วพริบตา

ก็ผ่านไปอีกแปดร้อยปี

หานเจวี๋ยเดินออกมาจากอารามเต๋า ไปเดินเล่นในเขตเซียนร้อยคีรี

เขามีความเข้าใจในมหามรรคต้นกำเนิดอย่างลึกซึ้ง ตบะไม่มีทางเติบโตขึ้นได้อีกแล้ว ทว่าเส้นทางสู่การพิสูจน์มรรคยังเหลืออีกเพียงแค่ก้าวเดียว

แล้วก้าวที่ว่าคือก้าวไหนกันแน่

หานเจวี๋ยคิดไม่ตก

เขารู้สึกว่าการหยุดการฝึกบำเพ็ญและปล่อยวางตนเองเป็นสิ่งจำเป็น

แสงศักดิ์สิทธิ์จากหยินหยางพิทักษ์ตะวันจันทราบดบังใบหน้าของหานเจวี๋ย ศิษย์ทั้งหลายที่พบกับหานเจวี๋ยระหว่างทาง ต่างคุกเข่าลงทำความเคารพ หานเจวี๋ยไม่ได้หยุดพูดคุยกับพวกเขา แต่กลับเดินไปเรื่อยๆ ตามทางของตนเอง

เมื่อมองดูเบื้องหลังของเขา เหล่าศิษย์ในนามทุกคนต่างเผยสีหน้าที่แสดงถึงความเคารพบูชา และห่วงหาออกมา

เพราะหานเจวี๋ย พวกเขาจึงมีสถานที่ที่พวกเขาสามารถฝึกบำเพ็ญได้อย่างสงบ แม้แต่เหล่าอริยะก็ไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้

หลังจากเดินรอบเขตเซียนร้อยคีรีหนึ่งรอบ หานเจวี๋ยก็ราวกับจะเกิดการตระหนักรู้

ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้

อริยะคืออะไร

เป็นเพียงคนที่มีพลังเวทสูงส่งเท่านั้นหรือ

ไม่ใช่เพียงเท่านั้น

นอกจากตบะจะอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว สภาพจิตใจยังต้องเพียบพร้อม

หานเจวี๋ยมีประสบการณ์ในชีวิตนี้น้อยเกินไป น้อยจนถึงขั้นที่อาจจะสู้มนุษย์ปุถุชนไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

‘บางทีเราควรจะออกไปข้างนอกสักครั้ง’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดเงียบๆ สายตาพลันเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมา

‘หากข้าจะออกจากอาณาเขตเต๋า ไปท่องแดนเซียนในตอนนี้ จะมีอันตรายหรือไม่’

หานเจวี๋ยถามอย่างระมัดระวัง

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการ!

[ไม่มี]

หานเจวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะกลับเข้าไปในอารามเต๋า และเริ่มต้นสร้างหุ่นเชิดสวรรค์ขึ้น

เขาต้องทิ้งร่างแยกไว้ในอารามเต๋าสักร่าง ถึงจะออกไปเผชิญโลกกว้างได้อย่างสบายใจ

ไม่กี่วันต่อมา หานเจวี๋ยก็จากไปอย่างเงียบเชียบ ไม่บอกใครทั้งสิ้น

เขาปกปิดตบะของตนเองไปสู่ระดับสุญตา ยอดสมบัติทั้งตัวก็ใช้พลังเวทซ่อนเอาไว้ แสดงตัวเป็นชายหนุ่มในอาภรณ์สีขาวธรรมดา ทว่าใบหน้ายังคงเป็นใบหน้าที่แท้จริงซึ่งงดงามเป็นหนึ่งไม่มีสองของตน

ผ่านมาสามหมื่นกว่าปีแล้ว หานเจวี๋ยเพิ่งจะเคยออกไปผจญแดนเซียนเป็นครั้งแรก แม้จะรู้ดีว่าไม่มีอันตรายใด แต่ก็ยังอดรู้สึกกังวลไม่ได้

หานเจวี๋ยไม่ได้ไล่สุนัขจิ้งจอกขนแดงไป เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าเด็กนี่ตั้งใจจะทำอะไร

หลายปีต่อมา พวกเขาได้เผชิญกับภยันตรายต่างๆ นานา ได้เห็นสิ่งอัศจรรย์อันงดงามหลากหลาย บางครั้งก็ต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานจากสิ่งมีชีวิตแปลงกาย

หานเจวี๋ยไม่เคยเป็นฝ่ายยั่วยุสิ่งมีชีวิตอื่นก่อน ดังนั้นจึงไม่ค่อยเผชิญกับเหตุการณ์ถูกปล้นสักเท่าไร

ท่าทางของเขาดูไม่เหมือนคนที่มียอดสมบัติติดตัว

สองร้อยปีต่อมา

หานเจวี๋ยมาถึงเมืองของเผ่ามนุษย์เมืองหนึ่ง เมื่อมองจากระยะไกล เห็นเพียงพายุทรายคละคลุ้มเต็มท้องฟ้า แทบจะกลืนกินเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้ไปทั้งเมือง

เขาหันหน้าไปมองสุนัขจิ้งจอกขนแดงที่ตามมาข้างหลัง และกล่าวว่า “แยกกันตรงนี้เถิด”

ทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็เดินหน้าต่อ และหายเข้าไปท่ามกลางพายุทราย

สุนัขจิ้งจอกขนแดงนิ่งเงียบ มันไม่ได้ตามไป เพราะหากตามไปต้องตายอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่จากไปไหนเช่นกัน เพียงเดินไปมาบนเนินทราย จ้องมองเมืองขนาดยักษ์ที่อยู่ไกลออกไปด้วยสายตาว่างเปล่า

หานเจวี๋ยมาถึงประตูเมือง ที่มีทหารคอยอารักขา ต้องจ่ายหินวิญญาณเป็นค่าเข้าเมือง เขายื่นมือออกไป ส่งหินวิญญาณให้ และเข้าเมืองไปอย่างราบรื่น

เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว ใบหน้าของหานเจวี๋ยก็ดึงดูดความสนใจจากหลายๆ คน

หานเจวี๋ยไม่ได้จงใจซ่อนรูปร่างหน้าตาของเขาเพราะไม่มีความจำเป็น อีกทั้งเขาเองก็ไม่กลัวปัญหาที่จะตามมา

เขาพ่นลมหายใจเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้เมืองทั้งเมืองสลายกลายเป็นฝุ่นผงได้

เมืองนี้ไม่ได้รกร้างอย่างที่เห็นจากภายนอก บรรยากาศดั่งฤดูใบไม้ผลิ เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สามารถมองเห็นต้นไม้ทั้งสองข้างทางเป็นครั้งคราว เป็นทัศนียภาพอันงดงามของตอนใต้

หานเจวี๋ยมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง และขึ้นไปหาที่นั่งที่มุมหนึ่งบนชั้นสอง

หลังจากสั่งอาหารและสุรากับเสี่ยวเอ้อร์แล้ว เขาก็หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง เฝ้ามองผู้คนที่ขวักไขว่ไปมา ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เขาก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้

“ดูเหมือนเจ้าจะมีเรื่องว้าวุ่นใจนะ”

เสียงหัวเราะลอยมา เห็นเพียงนักพรตเฒ่าผู้หนึ่ง

หานเจวี๋ยชำเลืองมองเขา

หืม?

เซียนทองไท่อี่!

นักพรตเฒ่านั่งฝั่งตรงข้ามกับหานเจวี๋ย ขณะเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “โชคชะตานำพาให้พานพบ หากเจ้ามีเรื่องว้าวุ่นใจ สามารถคุยกับข้าได้ บางทีคนที่รับฟังอาจจะมอบคำตอบให้แก่เจ้าได้ง่ายกว่า”

………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ