บทที่ 520 ชะตากรรมเดียวกัน สาปแช่งอย่างบ้าคลั่ง
“ขับไล่เขาออกจากมรรคาสวรรค์หรือ คงเป็นไปได้ยาก”
อริยะจินอันขมวดคิ้วพลางกล่าว สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึม
เขาเองก็อยากจะกำจัดหานเจวี๋ยเช่นกัน ทว่าสัญชาตญาณบอกเขาว่า การจัดการหานเจวี๋ยนั้นไม่ง่ายเลย!
บางทีอาจจะยากกว่าการจัดการหลี่มู่อีเสียด้วยซ้ำ!
เงาในกระจกกล่าวว่า “แม้จะยากเย็นก็ต้องทำ มิฉะนั้นเจ้าก็อย่าได้หวังจะก้าวข้ามมรรคาสวรรค์ จงเป็นหุ่นเชิดของมรรคาสวรรค์ต่อไปตลอดกาลเถิด”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใบหน้าของอริยะจินอันก็พลันบิดเบี้ยว
เขาทำได้เพียงกัดฟันยอมรับ
…
หลังจากสิ้นสุดการแสดงธรรมหนึ่งร้อยปี หานเจวี๋ยก็ลุกขึ้นและจากไปอย่างเงียบเชียบ
ธรรมของอริยะ ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าที่ผ่านมา ศิษย์ส่วนใหญ่ต่างทะลวงระดับได้ในขณะสดับมรรค
หานเจวี๋ยนั่งอยู่บนบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เขาหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งฉิวซีไหล
เจ้าหมอนี่บังอาจขัดขวางการพิสูจน์มรรคของข้า ต้องสั่งสอนสักหน่อย!
หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง อ่านจดหมายไปพลาง
[จี้เซียนเสินสหายของท่านก้าวสู่แม่น้ำโชคชะตา]
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านวิญญาณข้ามสู่บรรพกาล ถูกเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณกำราบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x7829
[หานทั่วบุตรชายของท่านได้รับคำชี้แนะจากจั้งกูซิงสหายของท่าน พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านบรรลุพลังวิเศษขณะสดับมรรค พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[อริยะเจ็ดวิถีเข้าฝันโจวฝานลูกศิษย์ของท่าน ความสามารถในการเข้าใจเพิ่มพูน]
[จิ่งเทียนกงสหายของท่านก้าวสู่ระดับครึ่งอริยะ]
…
หานเจวี๋ยอ่านจดหมายด้วยความเพลิดเพลิน ฟางเหลียงเทียวไปเทียวมาที่กาลบรรพกาล สุดท้ายก็ถูกลงโทษจนได้ ทว่าขอแค่ไม่ตายก็พอแล้ว
เจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณที่ว่านี้เป็นใครกันแน่
หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าหลังสาปแช่งเสร็จจะลองคำนวณดูสักครั้ง
หานทั่วได้พบกับจั้งกูซิง เรื่องนี้ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง
เขาพลันนึกถึงอดีตขึ้นมา
คิดไม่ถึงว่าพ่อลูกจะมีชะตากรรมเดียวกัน
หานเจวี๋ยไม่กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับหานทั่ว ต่อให้มีเรื่องจริงๆ เขาก็สามารถคำนวณได้ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลเพียงใด เขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วยได้เสมอ
ตราบใดที่ไม่เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณ ต่อให้ตัวตาย หานเจวี๋ยก็จะไม่เข้าไปยุ่ง
อยากเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงก็ต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น!
หานเจวี๋ยไม่อยากให้หานทั่วเอาแต่คิดถึงเขาในยามที่เจอกับปัญหา
หานเจวี๋ยชื่นชอบหานทั่วมากทีเดียว หวังว่าเขาจะเติบโตขึ้นอย่างดี หากวันหน้าสามารถกลายเป็นผู้สืบทอดสำนักซ่อนเร้นได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าอริยะเจ็ดวิถีมาเข้าฝันโจวฝาน เรื่องนี้คงต้องจับตามองกันสักหน่อย
อริยะเจ็ดวิถีอยู่ในระดับเดียวกันกับปรมาจารย์ลัญจกรสรวง ไม่อาจประมาทได้
ห้าวันต่อมา หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง
เขาคำนวณหาตัวตนของเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณก่อนว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่
[จำเป็นต้องหักต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
สี่พันล้านปี?
นี่มันค่าตัวของหลี่มู่อีเลยนี่นา!
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว และเลือกดำเนินการต่ออย่างเงียบๆ
ในสมองของเขาปรากฏเงาร่างสายหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับคำบรรยายหนึ่งแถว
[จิ้นเสิน: ครึ่งอริยะระยะสมบูรณ์ เจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณ ครอบครองดวงชะตามรรคาสวรรค์ มีหน้าที่เปิดฉากมหาเคราะห์ ตบะของเขาเกินระดับครึ่งอริยะ แต่เนื่องจากตำแหน่งของอริยะมรรคาสวรรค์เต็มแล้ว จึงไม่อาจพิสูจน์มรรคเป็นอริยะได้ หลบซ่อนตัวอยู่แดนต้องห้ามอนธการมานานแรมปี เฝ้าสอดแนมแดนเซียน]
จิ้นเสิน?
เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
ที่แท้ก็เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เปิดฉากมหาเคราะห์นี่เอง เก่งกาจไม่ใช่ย่อยเลย
ทันใดนั้น หานเจวี๋ยก็เริ่มคำนวณถึงอริยะเจ็ดวิถี
‘เหตุใดอริยะเจ็ดวิถีถึงมุ่งเป้าไปที่โจวฝาน’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
สูงขนาดนั้นเชียว!
หนังตาของหานเจวี๋ยกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ทำได้เพียงเลือกดำเนินการต่อ
[อริยะเจ็ดวิถีกำลังเตรียมตัวฝ่าด่านเคราะห์ ไม่เพียงแต่มุ่งเป้าไปที่โจวฝาน เขายังไม่มีแผนการร้ายต่อท่านในขณะนี้]
ฝ่าด่านเคราะห์?
คนระดับนั้นยังต้องฝ่าเคราะห์อันใดอีก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...