ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 520

บทที่ 520 ชะตากรรมเดียวกัน สาปแช่งอย่างบ้าคลั่ง

“ขับไล่เขาออกจากมรรคาสวรรค์หรือ คงเป็นไปได้ยาก”

อริยะจินอันขมวดคิ้วพลางกล่าว สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึม

เขาเองก็อยากจะกำจัดหานเจวี๋ยเช่นกัน ทว่าสัญชาตญาณบอกเขาว่า การจัดการหานเจวี๋ยนั้นไม่ง่ายเลย!

บางทีอาจจะยากกว่าการจัดการหลี่มู่อีเสียด้วยซ้ำ!

เงาในกระจกกล่าวว่า “แม้จะยากเย็นก็ต้องทำ มิฉะนั้นเจ้าก็อย่าได้หวังจะก้าวข้ามมรรคาสวรรค์ จงเป็นหุ่นเชิดของมรรคาสวรรค์ต่อไปตลอดกาลเถิด”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใบหน้าของอริยะจินอันก็พลันบิดเบี้ยว

เขาทำได้เพียงกัดฟันยอมรับ

หลังจากสิ้นสุดการแสดงธรรมหนึ่งร้อยปี หานเจวี๋ยก็ลุกขึ้นและจากไปอย่างเงียบเชียบ

ธรรมของอริยะ ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าที่ผ่านมา ศิษย์ส่วนใหญ่ต่างทะลวงระดับได้ในขณะสดับมรรค

หานเจวี๋ยนั่งอยู่บนบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เขาหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งฉิวซีไหล

เจ้าหมอนี่บังอาจขัดขวางการพิสูจน์มรรคของข้า ต้องสั่งสอนสักหน่อย!

หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง อ่านจดหมายไปพลาง

[จี้เซียนเสินสหายของท่านก้าวสู่แม่น้ำโชคชะตา]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านวิญญาณข้ามสู่บรรพกาล ถูกเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณกำราบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x7829

[หานทั่วบุตรชายของท่านได้รับคำชี้แนะจากจั้งกูซิงสหายของท่าน พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[หลี่เต้าคงสหายของท่านบรรลุพลังวิเศษขณะสดับมรรค พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[อริยะเจ็ดวิถีเข้าฝันโจวฝานลูกศิษย์ของท่าน ความสามารถในการเข้าใจเพิ่มพูน]

[จิ่งเทียนกงสหายของท่านก้าวสู่ระดับครึ่งอริยะ]

หานเจวี๋ยอ่านจดหมายด้วยความเพลิดเพลิน ฟางเหลียงเทียวไปเทียวมาที่กาลบรรพกาล สุดท้ายก็ถูกลงโทษจนได้ ทว่าขอแค่ไม่ตายก็พอแล้ว

เจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณที่ว่านี้เป็นใครกันแน่

หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าหลังสาปแช่งเสร็จจะลองคำนวณดูสักครั้ง

หานทั่วได้พบกับจั้งกูซิง เรื่องนี้ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง

เขาพลันนึกถึงอดีตขึ้นมา

คิดไม่ถึงว่าพ่อลูกจะมีชะตากรรมเดียวกัน

หานเจวี๋ยไม่กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับหานทั่ว ต่อให้มีเรื่องจริงๆ เขาก็สามารถคำนวณได้ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลเพียงใด เขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วยได้เสมอ

ตราบใดที่ไม่เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณ ต่อให้ตัวตาย หานเจวี๋ยก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

อยากเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงก็ต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น!

หานเจวี๋ยไม่อยากให้หานทั่วเอาแต่คิดถึงเขาในยามที่เจอกับปัญหา

หานเจวี๋ยชื่นชอบหานทั่วมากทีเดียว หวังว่าเขาจะเติบโตขึ้นอย่างดี หากวันหน้าสามารถกลายเป็นผู้สืบทอดสำนักซ่อนเร้นได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าอริยะเจ็ดวิถีมาเข้าฝันโจวฝาน เรื่องนี้คงต้องจับตามองกันสักหน่อย

อริยะเจ็ดวิถีอยู่ในระดับเดียวกันกับปรมาจารย์ลัญจกรสรวง ไม่อาจประมาทได้

ห้าวันต่อมา หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง

เขาคำนวณหาตัวตนของเจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณก่อนว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่

[จำเป็นต้องหักต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

สี่พันล้านปี?

นี่มันค่าตัวของหลี่มู่อีเลยนี่นา!

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว และเลือกดำเนินการต่ออย่างเงียบๆ

ในสมองของเขาปรากฏเงาร่างสายหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับคำบรรยายหนึ่งแถว

[จิ้นเสิน: ครึ่งอริยะระยะสมบูรณ์ เจ้าแห่งมหาเคราะห์โบราณ ครอบครองดวงชะตามรรคาสวรรค์ มีหน้าที่เปิดฉากมหาเคราะห์ ตบะของเขาเกินระดับครึ่งอริยะ แต่เนื่องจากตำแหน่งของอริยะมรรคาสวรรค์เต็มแล้ว จึงไม่อาจพิสูจน์มรรคเป็นอริยะได้ หลบซ่อนตัวอยู่แดนต้องห้ามอนธการมานานแรมปี เฝ้าสอดแนมแดนเซียน]

จิ้นเสิน?

เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

ที่แท้ก็เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เปิดฉากมหาเคราะห์นี่เอง เก่งกาจไม่ใช่ย่อยเลย

ทันใดนั้น หานเจวี๋ยก็เริ่มคำนวณถึงอริยะเจ็ดวิถี

‘เหตุใดอริยะเจ็ดวิถีถึงมุ่งเป้าไปที่โจวฝาน’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

สูงขนาดนั้นเชียว!

หนังตาของหานเจวี๋ยกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ทำได้เพียงเลือกดำเนินการต่อ

[อริยะเจ็ดวิถีกำลังเตรียมตัวฝ่าด่านเคราะห์ ไม่เพียงแต่มุ่งเป้าไปที่โจวฝาน เขายังไม่มีแผนการร้ายต่อท่านในขณะนี้]

ฝ่าด่านเคราะห์?

คนระดับนั้นยังต้องฝ่าเคราะห์อันใดอีก?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ