บทที่ 523 ภารกิจลับ แฝงตัวเป็นบรรพชนพุทธ
หานเจวี๋ยไม่รับรู้ถึงความกระสับกระส่ายของหลี่มู่อีเลย หรือต่อให้รู้ เขาก็ไม่เก็บมาใส่ใจ
ตอนนี้เขาไม่หวั่นเกรงที่จะล่วงเกินอริยะ ต่อให้อริยะมรรคาสวรรค์บุกมาสังหารพร้อมกัน ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตเต๋าของเขาได้
แต่เขารังเกียจความยุ่งยาก ถึงได้เก็บตัวมาโดยตลอด
ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไม่เกรงกลัวอริยะมรรคาสวรรค์ แต่เบื้องบนของแดนเซียนยังมีปรมาจารย์ลัญจกรสรวงอยู่
แม้ว่าปรมาจารย์ลัญจกรสรวงจะมีความประทับใจต่อหานเจวี๋ย แต่ค่าความประทับใจไม่สูงเลย หากจู่ๆ ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเกิดกลับลำขึ้นมา ต้องการกำจัดเขาเล่า
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น หานเจวี๋ยจำเป็นต้องพยายามรักษาความมานะอุตสาหะในการบำเพ็ญเอาไว้
ที่เขามาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะเขาอาศัยแนวคิดพากเพียรบำเพ็ญทั้งนั้น
สามารถผ่อนคลายได้บ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่อาจผ่อนคลายไปตลอดได้
สามสิบปีต่อมา
หลี่เสวียนเอ้ามาขอเข้าพบหานเจวี๋ย
ทันทีที่เขามองเห็นจางเจี่ยว ตัวคนก็นิ่งทื่อไปหมด
รอจนเขาได้สติกลับมาอีกครั้ง ก็สังเกตเห็นความผิดปกติอย่างรวดเร็ว
อริยะจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ซ้ำยังมาเฝ้าประตูให้หานเจวี๋ยอีก
สำหรับความเป็นไปได้ที่ว่าหานเจวี๋ยจะถูกหลี่มู่อีสังหารไปแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มี เพียงแต่หลี่เสวียนเอ้ารู้สึกว่าหานเจวี๋ยแข็งแกร่งกว่าหลี่มู่อี
เสียงของหานเจวี๋ยแว่วลอยมา “มีเรื่องใด”
หลี่เสวียนเอ้าได้สติกลับมา อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “เจ้าสำนัก อาจารย์ข้า…อริยะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือขอรับ”
จางเจี่ยวลืมตาขึ้น มองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็หลับตาลงอย่างรวดเร็ว
“เป็นเพียงพลังวิเศษของข้าเท่านั้น เขาแค่มีรูปลักษณ์ภายนอกและตบะเช่นเดียวกับอาจารย์เจ้า แต่หาใช่อาจารย์เจ้าไม่ เขาชื่อจางเจี่ยว”
หลี่เสวียนเอ้าได้ฟังคำตอบของหานเจวี๋ยก็เบิกตากว้าง
แค่มีรูปลักษณ์ภายนอกและตบะเช่นเดียวกันหรือ
นี่มันพลังวิเศษอันใดกัน
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!
หลี่เสวียนเอ้ายังคงรู้สึกว่าตนประเมินหานเจวี๋ยต่ำเกินไปอยู่ดี แม้แต่ตบะของอริยะก็ยังคัดลอกมาได้…
“หากไม่มีธุระก็ไปเสียเถอะ”
คำพูดของหานเจวี๋ยขัดจังหวะความคิดของหลี่เสวียนเอ้า หลี่เสวียนเอ้ารีบเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าสำนัก ตอนนี้วานรแขนยักษ์ความสามารถแก่กล้าแล้ว ข้าคิดว่าสามารถปล่อยเขาออกไปชี้นำสอนสั่งเผ่าวานรแขนยักษ์ได้แล้วขอรับ เพื่อขยายกำลังหน่วยสอดแนมของสำนักซ่อนเร้น”
เรื่องโอกาสนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเอ่ยถึงแล้ว หานเจวี๋ยคิดดูเล็กน้อย จากนั้นจึงตอบไปว่า “ได้ ข้าจะส่งเขาออกไป”
“ขอบพระคุณเจ้าสำนัก เขาเตรียมตัวพร้อมแล้วขอรับ”
“อืม”
หานเจวี๋ยส่งตัววานรแขนยักษ์ออกไปนอกเขตเซียนร้อยคีรี
หลังจากร่อนลงบนพื้น วานรแขนยักษ์มิได้แตกตื่นเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่หักใจไม่ลงอยู่บ้าง
เขาชอบชีวิตในเขตเซียนร้อยคีรีมากจริงๆ เต่ในเมื่อหลี่เสวียนเอ้ามีคำสั่งมา เขาก็จำเป็นต้องทำตาม
“หากวันหน้าบังเอิญพบคนผู้นี้ จงยกย่องเขาเป็นเจ้านาย”
เสียงของหานเจวี๋ยแว่วเข้าสู่หูวานรแขนยักษ์ จากนั้นใบหน้าของหานทั่วพลันปรากฏขึ้นมาในสมองเขา
วานรแขนยักษ์ตะลึงงัน เขาคุ้นเคยกับเสียงของหานเจวี๋ยอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่เขาเลย ทั้งสำนักซ่อนเร้นต่างเป็นเช่นนี้ เพราะมีเสียงนี้คอยเทศนาธรรมอยู่เป็นประจำ ตบะของเขาถึงได้รุดหน้าไปอย่างราบรื่นดุจทะลวงลำไผ่
วานรแขนยักษ์อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “เขาคือ…”
“ไม่ต้องถามมาก ภารกิจนี้คือภารกิจที่ข้ามอบหมายให้เจ้าเป็นการส่วนตัว หากทำสำเร็จวันหน้าเจ้าย่อมไม่เสียเปรียบ และไม่จำเป็นต้องบอกให้ผู้พิทักษ์รองทราบ”
หานเจวี๋ยเอ่ยเสียงกร้าว ทำเอาวานรแขนยักษ์ตกใจจนขวัญกระเจิง
วานรแขนยักษ์ไม่กล้าถามมากอีก ได้แต่พยักหน้ารับด้วยความยำเกรง
“เจ้าไปได้แล้ว ข้าจะจับตามองเจ้า”
วานรแขนยักษ์สูดหายใจลึกๆ คราหนึ่ง ปรับสภาพอารมณ์ จากนั้นก็เหาะมุ่งไปยังทิศทางที่ห่างออกไป
ในวันเดียวกันนั้น
หลี่เต้าคงมาที่หน้าอารามเต๋าของหานเจวี๋ย เขามองสำรวจจางเจี่ยวด้วยความตกตะลึง เงียบงันไม่พูดจา
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้รบกวนหานเจวี๋ยเลย จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไม่มีผู้ใดทราบว่าการปรากฏตัวขึ้นของจางเจี่ยวสร้างผลกระทบต่อจิตใจของหลี่เต้าคงและหลี่เสวียนเอ้าขนาดไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...