บทที่ 578 บรรพชนของบรรพชน การโจมตีลึกลับ
หานเจวี๋ยไม่เห็นใจในสิ่งที่หานทั่วต้องเผชิญ และไม่นึกห่วงด้วย ขอแค่เด็กคนนี้ไม่ตายก็พอ
มนุษย์บนโลก มีใครบ้างที่ไม่ประสบอันตรายและความทุกข์ยากเลย
หานเจวี๋ยทำนายดูเล็กน้อย ไม่มีอริยะวางแผนปองร้ายหานทั่วอยู่เบื้องหลัง
ถึงอย่างไรหานทั่วก็ไม่อาจหนีรอดจากสถานที่คุมขังแห่งนี้ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ
หานเจวี๋ยกลับไปดูหนุ่มน้อยตระกูลหานที่กำลังร้องไห้คร่ำฟ้าครวญดินคนนั้น เดิมทีหานเจวี๋ยไม่สนใจเขาเลย ดังนั้นถึงได้ไปตรวจสอบสถานการณ์ที่หานทั่วเผชิญอยู่ แต่เด็กคนนี้หน้าตาเหมือนหานเจวี๋ยเหลือเกิน
ใช่แล้ว เหมือนเขา!
เด็กหนุ่มคนนี้อายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี หน้าตาหล่อเหลาอย่างยิ่ง หานเจวี๋ยเองก็เคยใช้วิชาเวทส่องดูใบหน้าของตนมาก่อน รู้จักรูปร่างหน้าตาของตนดี
หน้าตาของเด็กคนนี้ถอดแบบมาจากหานเจวี๋ยเลยทีเดียว เหมือนหานเจวี๋ยยิ่งกว่าหานทั่วเสียอีก
แน่นอน พอนำมาเทียบกับหานเจวี๋ยแล้วเขายังคงด้อยกว่าอยู่บ้าง
เนื่องจากมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน จึงทำให้หานเจวี๋ยถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก
นี่เรียกว่าอะไรกันนะ
สายใยข้ามรุ่นอย่างนั้นหรือ
นี่ห่างกันตั้งกี่รุ่นเล่า?
….
ณ ป่าเขารกร้าง เมฆอัสนีปกคลุม
หานอวี้คุกเข่าอยู่หน้าศพบิดามารดา เขาร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง
สาเหตุที่เขาร้องไห้มิใช่เพราะหวาดกลัว แต่เป็นเพราะโกรธเคือง โกรธเคืองที่บรรพชนไม่สอดมือเข้าช่วยเหลือ โกรธที่ตนไร้ความสามารถเกินไป โกรธที่สวรรค์ไม่ยุติธรรม
เมื่อความรู้สึกบรรเทาลง หานอวี้มองซากศพเกลื่อนพื้น ตกอยู่ในความเงียบงัน
มีลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากขอบฟ้าราวกับดอกไม้ไฟ นั่นคือสัญญาณวิชาเวทของศัตรู ยามนี้หวนกลับมาอีกรั้งก็เพื่อสังหารเขา
ต้องการล้างบางตระกูลหานให้สิ้นซาก!
ในใจของหานอวี้เต็มไปด้วยโทสะ ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว
“หากตระกูลหานของข้าถูกลิขิตชะตามาเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็จะตายไปพร้อมกับตระกูลหาน!”
หานอวี้พึมพำกับตัวเอง ค่อยๆ ปิดตาลง
ฟิ้ว…
เกิดเสียงฝ่าอากาศแว่วมา กระบี่คมกริบแทงทะลุทรวงอกของหานอวี้ เลือดสดๆ สาดกระเซ็นลงบนศพที่อยู่ด้านข้าง
ผู้บำเพ็ญหลายคนเหยียบกระบี่เหาะเข้ามา ดูราวกับสายรุ้ง เข้าปิดล้อมหานอวี้อย่างรวดเร็ว
ชายชุดฟ้าที่เป็นผู้นำกลุ่มก้มมองหานอวี้ เอ่ยว่า “เจ้าคงเป็นหานอวี้ทายาทผู้เปี่ยมพรสวรรค์ของตระกูลหานกระมัง หน้าตาดูมีความสามารถอยู่จริงๆ น่าเสียดาย หากเจ้ามิใช่ทายาทตระกูลหาน ข้าคงอยากได้เจ้าเป็นเขย แต่วันนี้เจ้าจำเป็นต้องตาย ความแค้นระหว่างสองตระกูลของพวกเราสมควรสิ้นสุดลงตรงนี้”
ชิ้ง…
ชายชุดฟ้าชักกระบี่อ่อนเล่มหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ คมกระบี่ลุกเป็นไฟอย่างรวดเร็ว ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางโลกที่มืดสลัวดั่งยามราตรี
หานอวี้ใช้มือเปล่าจับคมกระบี่ กัดฟันดึงกระบี่ออก
ครืน…
เมฆทะมึนซัดตลบรุนแรงยิ่งขึ้น เสียงฟ้าร้องดังสะเทือนแก้วหู
“เจ้ายังคิดจะขัดขืนอีกหรือ”
“จิ๊ๆ ตระกูลหานประกาศปาวๆ อยู่ตลอดว่ามีปฐมบรรพชนเป็นเทพเซียน แต่ยังสู้บรรพชนตระกูลหวังของข้าไม่ได้เลย อย่างน้อยบรรพชนตระกูลหวังของข้าก็ยังสำแดงเดช ถ่ายทอดมรรควิถีให้ทายาท”
“ตระกูลหานกลายเป็นเช่นวันนี้ นับว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง ปีนั้นยามที่ตระกูลหานกล้าแกร่ง ก็เคยล้างสังหารพวกเราเช่นกัน”
“รีบฆ่าเขาเถอะ!”
“กลัวอันใดเล่า จนป่านนี้แล้วยังจะมีใครมาช่วยเขาได้อีก”
เหล่าผู้บำเพ็ญพากันพูดคุย บ้างเร่งรัด บ้างด่าทอ บ้างเยาะหยัน
ชายชุดฟ้าตวัดกระบี่ คมกระบี่กลายร่างเป็นวิหคเพลิงสยายปีกกว้างไกลหลายจั้งตัวแล้วตัวเล่า พุ่งโฉบเข้าใส่หานอวี้ ท่าทางเช่นนี้ราวกับต้องการแผดเผาซากศพในบริเวณนี้ให้วอดวาย
หานอวี้เงยหน้ามองวิหคเพลิงทั่วนภาอย่างสงบนิ่ง เขายอมรับจุดจบที่ตระกูลหานต้องล่มสลายแล้ว
ทันใดนั้นวิหคเพลิงหลายสิบตัวพลันสลายหายไปต่อหน้าต่อตาเขา จากนั้นเมฆอัสนีบนฟ้าก็แยกสลายคลายตัว แสงตะวันสายแล้วสายเล่าสาดส่องลงมา ตกกระทบร่างของหานอวี้
พริบตานั้น หานอวี้รู้สึกราวกับหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง
“ฮึ่ม ผู้ใดบอกว่าบรรพชนตระกูลหานสู้ตระกูลหวังของพวกเจ้าไม่ได้”
เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งแว่วดังขึ้น เหล่าผู้บำเพ็ญตระกูลหวังประหนึ่งถูกสายฟ้าฟาด สั่นสะท้านกันถ้วนหน้า ดวงตาหม่นแสงลง
ม่านตาหานอวี้ค่อยๆ เบิกขยาย ผู้บำเพ็ญตระกูลหวังสลายเป็นเถ้าธุลีปลิดปลิวต่อหน้าต่อตาเขา
หานเจวี๋ยลงมือแล้ว
ทำลายล้างคนพวกนี้ แค่เขาคิดแวบเดียวก็จัดการได้เรียบร้อย
แต่เขายังลงมืออย่างปรานีอยู่ ปล่อยให้วิญญาณของผู้บำเพ็ญเหล่านี้กลับสู่สังสารวัฏได้ ไม่ได้ทำให้วิญญาณแตกสลาย
หานเจวี๋ยพิสูจน์มรรคแล้ว สิ่งที่จะทำให้เขาพะวงได้มีเพียงตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเขาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...