ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 59

บทที่ 59 เตรียมตัวทะลวงระดับ ภารกิจลับของดาวโชคร้าย
เมื่อได้ฟังวาจาของหลี่ชิงจื่อ หานเจวี๋ยรู้สึกใคร่รู้เรื่องเล่าลือของศิษย์พี่น้องในยุคของพวกเขามาก

เหตุใดถึงรู้สึกว่าบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหมดล้วนชอบเซียนซีเสวียน

นักพรตเต๋าจิ้งซวีไม่หอมหวานหรือ

ก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้น

นักพรตเต๋าจิ้งซวีไม่นับว่าสวยจริงๆ

หลังจากหลี่ชิงจื่อกำชับสองสามประโยคก็จากไป

การปรากฏตัวของหลี่เฉียนหลงทำให้เขาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ตอนที่จากไปยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา

หานเจวี๋ยกลับเข้าไปในถ้ำเทวา หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา

นี่เป็นถึงสมบัติวิญญาณชั้นเลิศ!

หานเจวี๋ยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาเริ่มหยดโลหิตให้มันยอมรับเจ้าของ

ซูฉีลืมตาขึ้นมา มองไปทางหนังสือแห่งความโชคร้ายที่อยู่ในมือหานเจวี๋ย

หนังสือแห่งความโชคร้ายดูคล้ายกับภาพวาดสีดำม้วนหนึ่ง ไม่คล้ายหนังสือแต่อย่างใด

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด เมื่อซูฉีเห็นหนังสือแห่งความโชคร้าย ก็รู้สึกใกล้ชิดอย่างบอกไม่ถูก

เขาชอบสมบัติชิ้นนี้!

แต่ก็ทำได้เพียงชอบ ซูฉีไม่กล้าอยากได้มัน

เขาทำการฝึกฝนต่อ

เป็นเพราะคุณสมบัติเลิศล้ำ ก่อนหน้านั้นหานเจวี๋ยจึงได้ถ่ายทอดเคล็ดหยกพิสุทธิ์ให้ซูฉี

เคล็ดหยกพิสุทธิ์เป็นสุดยอดวิชาของสำนักหยกพิสุทธิ์ ด้วยสถานะของหานเจวี๋ยได้มาไม่ยาก

นับว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันในสถานะศิษย์อาจารย์จริงๆ แล้ว

ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ หานเจวี๋ยถึงทำให้หนังสือแห่งความโชคร้ายยอมรับเขาเป็นเจ้าของได้

เขาใส่พลังวิญญาณหกสายลงในหนังสือแห่งความโชคร้าย และเริ่มสาปแช่งหลี่เฉียนหลง

สมองของเขาจินตนาการภาพใบหน้าของหลี่เฉียนหลง

……

ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำ มีบ้านไม้อยู่หลังหนึ่ง

หลี่เฉียนหลงคุกเข่าคารวะอยู่หน้าประตูกระท่อมไม้ไผ่

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบขรึม “อาจารย์ ต้องทำอย่างไรกันแน่ท่านถึงจะยอมออกจากเขา”

น้ำเสียงแก่หง่อมดังออกมาจากกระท่อมไม้ไผ่อย่างเยือกเย็น “อาจารย์ถอนตัวออกจากแดนบำเพ็ญพรตมาพันปีแล้ว ไม่คิดอยากมีส่วนร่วมในการแย่งชิงในแดนบำเพ็ญพรตอีก หนี้แค้นของเจ้า เจ้าชำระเองเถิด อาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้เจ้าแล้ว อย่าคิดได้คืบจะเอาศอก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เฉียนหลงกลับไม่ยินยอม

เขากัดฟันเอ่ย “อาจารย์ เช่นนั้นท่านถ่ายทอดสูตรลับโอสถเทพพิษให้กับข้า ข้าจะพึ่งตนเอง!”

“ไม่ได้ นั่นเป็นสมบัติประจำตระกูลของอาจารย์ หากถ่ายทอดให้เจ้าแล้ว เจ้าวางพิษอาจารย์จนตาย ก็ไม่เท่ากับว่าไม่ยุติธรรมต่ออาจารย์หรอกหรือ”

หลี่เฉียนหลงแทบกระอักเลือดออกมา

เขาลอบก่นด่าอยู่ในใจ

ที่เขาเข้าร่วมสำนักราชาพิษได้นั้น ก็ไม่ใช่เพราะโชคช่วย

เขาเป็นร่างโอสถของราชาพิษมานานถึงหนึ่งร้อยปี ลองโอสถพิษมาแล้วทุกรูปแบบ ช่วงเวลาเหล่านั้นพอจะพูดได้ว่ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย

พูดเสียดิบดีว่านับแต่นี้ไปจะได้เป็นผู้สืบทอดหนึ่งเดียวของราชาพิษ สุดท้ายเจ้าสุนัขอย่างราชาพิษกลับเก็บกลเม็ดเด็ดพรายเอาไว้ ไม่ยอมถ่ายทอดให้กับเขา

น้ำเสียงของราชาพิษลอยออกมาอีกครั้ง “ก่อนหน้านี้นักพรตเต๋าจิ่วติ่งได้รับรู้การมีอยู่ของเจ้าแล้ว อาจารย์ไม่อาจล่วงเกินเขาได้ ตอนนี้สำนักหยกพิสุทธิ์ก็นับว่ารุ่งเรืองอย่างถึงขีดสุด เปรียบเสมือนดวงตะวันที่อยู่กลางนภา มีไม่กี่สำนักที่กล้าล่วงเกินพวกเขา แต่หากเจ้ายืนกรานในความคิดของตน เช่นนั้นก็สามารถไปหาตระกูลเว่ย แม้ตระกูลเว่ยจะไม่ได้อยู่ระดับแนวหน้าในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยน แต่พวกเขามักจะท่องไปในแดนบำเพ็ญพรตต่างๆ มีสายสัมพันธ์กว้างขวางยิ่งนัก”

หลี่เฉียนหลงตาเป็นประกาย ในใจกลับครุ่นคิดขึ้นมา

ชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปหลังจากนั้น

หลี่เฉียนหลงก็จากไป

เพิ่งเดินไปได้ไม่ถึงสิบลี้ ก็มีสายฟ้าฟาดใส่เขาท่ามกลางอากาศอันปลอดโปร่ง

เหตุเกิดอย่างฉับพลันโดยไม่ทันได้เตรียมตัว!

โชคดีที่ตบะของหลี่เฉียนหลงสูงส่ง เขาจึงไม่รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ลอบด่าขึ้นว่า “ชั่วช้า!”

……

ช่วงเวลาที่หานเจวี๋ยสาปแช่งหลี่เฉียนหลงนั้น เขาก็ไม่อาจตรวจสอบผลลัพธ์ได้ จึงทำได้เพียงล้มเลิก และตั้งใจฝึกฝนต่อ

หนึ่งเดือนต่อมา

หยางเทียนตงกลับมาแล้ว

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาพบกับซูฉี หานเจวี๋ยจึงเดินออกไปนอกถ้ำเทวา

ตอนนี้หยางเทียนตงได้พัฒนาพรสวรรค์อย่างสมบูรณ์ หลังจากบรรลุระดับรวมแก่นปราณ ก็ถูกเลื่อนขั้นเป็นศิษย์อัจฉริยะ จากนั้นก็เลื่อนขั้นเป็นศิษย์แกนหลักของสำนักหยกพิสุทธิ์ เป็นหนึ่งในแนวหน้าของคนรุ่นใหม่ของสำนักหยกพิสุทธิ์

“อาจารย์ ข้าวางแผนจะไปงานประชุมใหญ่การบำเพ็ญเซียน พอถึงตอนนั้นแต่ละสำนักจะประลองเวทศึกษา ท่านสามารถ…” หานเทียนตงถามอย่างตื่นเต้น

หลังจากเรียนรู้วิชากระบี่บินไร้หัวใจแล้ว พลังของหยางเทียนตงก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เขามักจะรู้สึกว่ามันยังไม่พอ

หานเจวี๋ยพยักหน้ากล่าว “ถ้าเช่นนั้นอาจารย์จะถ่ายทอดสุดยอดวิชาให้เจ้า เพื่อช่วงชิงเกียรติยศให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์ สุดยอดวิชานี้คือวิชาเทพวายุ”

หยางเทียนตงรีบคารวะขอบคุณด้วยความกระตือรือร้น

สามวันต่อมา

หยางเทียนตงจากไปแล้ว

หานเจวี๋ยมักจะรู้สึกว่าตัวเองลืมอะไรบางอน่าง

อ้อ! ลืมสร้างหุ่นเชิดแห่งสวรรค์ให้เขา!

ไม่เป็นไร!

ดวงเขาแข็ง คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก

……

ห้าปีต่อมา

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ทะลวงถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นเก้า!

ต่อไปก็จะเป็นระดับสุญตาแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ