ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 681

บทที่ 681 เครื่องมือฝึกบำเพ็ญ

หลังจากระฆังทองแตกสลายไป โจวฝานถึงเชื่อว่าอริยะเจ็ดวิถีถูกหานเจวี๋ยจัดการแล้ว

ช้าก่อน!

อาจารย์บอกว่าอริยะเจ็ดวิถีวิบัติไปแล้ว…

วิบัติแล้ว…

ตายแล้วอย่างนั้นหรือ

โจวฝานหันไปมองหานเจวี๋ย สีหน้าราวกับไม่อยากเชื่อ

หานเจวี๋ยยกมือขึ้น เตรียมจะดูดโจวฝานเข้าแขนเสื้อ

“เดี๋ยวขอรับ! อาจารย์ ท่านกลับไปก่อนเถิดขอรับ ในเมื่ออริยะเจ็ดวิถีไม่อยู่แล้ว เช่นนั้นข้าจะยึดครองสมบัติของเขา!”

จู่ๆ โจวฝานก็เอ่ยขึ้นมา สีหน้าตื่นเต้น

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วก่อนถาม “มีความมั่นใจเพียงใด”

“มั่นใจเต็มที่ขอรับ”

“ตกลง!”

หานเจวี๋ยหันหลังกลับทันที เข้าสู่คลื่นวนสีดำ

เมื่อกลับถึงอารามเต๋า หานเจวี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อครู่จิตใจเขาตึงเครียดอยู่ตลอด เกรงว่าจะบังเอิญพบตัวตนที่เหนือกว่ามหามรรคเข้า

ถึงแม้ความเป็นไปได้นี้จะน้อยยิ่งกว่าน้อย แต่หานเจวี๋ยจำเป็นต้องระวังไว้

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา ลองสาปแช่งอริยะเจ็ดวิถีดู พลังคำสาปแช่งถูกดูดไปจริงๆ เขารามือทันที

เทพมารต้องสาป!

รนหาที่ตาย!

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เขาเริ่มใคร่ครวญแล้วว่าจะกำจัดเทพมารต้องสาปอย่างไร

หากไม่กำจัด ถ้าภายหน้าเขาสาปแช่งผู้ใด แล้วเทพมารต้องสาปไปปกป้องผู้นั้นอีก ไม่ช้าก็เร็วจะต้องก่อเกิดเป็นกลุ่มพันธมิตรผู้มีความแค้นต่อหานเจวี๋ยอย่างแน่นอน

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงจอมเทพข่งเซวี่ยขึ้นมา

ให้จอมเทพข่งเซวี่ยไปจัดการเทพมารต้องสาปจะได้หรือไม่

จะได้หลุดพ้นจากการพัวพันของเทพจักรพรรดิอัปมงคลพอดี!

หานเจวี๋ยเข้าฝันจอมเทพข่งเซวี่ยทันที

ในแดนความฝัน เมื่อจอมเทพข่งเซวี่ยเห็นหานเจวี๋ยที่อยู่ในรูปลักษณ์ของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ก็เผยสีหน้าคับข้องออกมาทันที เอ่ยถามว่า “ในเมื่อข้ายอมสยบต่อท่านแล้ว เหตุใดถึงยังให้เทพจักรพรรดิอัปมงคลมาไล่ล่าสังหารข้าอีก”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างเฉยชา “เทพจักรพรรดิอัปมงคลตามสังหารเจ้าจริงๆ น่ะหรือ”

จอมเทพข่งเซวี่ยแสร้งกระแอมไอ เอ่ยว่า “ข้าเสาะหาสถานที่ฝึกบำเพ็ญไม่ได้ หากอยู่ในอาณาเขตของเทพจักรพรรดิอัปมงคล ผู้บำเพ็ญคนอื่นย่อมไม่กล้ามารบกวน”

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็เข้าใจแล้ว สาเหตุที่คนผู้นี้ถูกทุบตีอยู่ตลอด เป็นเพราะสิงอยู่ในอาณาเขตของเทพจักรพรรดิอัปมงคลไม่ยอมจากไป

เทพจักรพรรดิอัปมงคลยังไม่ได้เปิดโปงหานเจวี๋ยสินะ

“ออกจากที่นั่นซะ มีเรื่องหนึ่งให้เจ้าทำ ไปสังหารเทพมารต้องสาปเสีย” หานเจวี๋ยเอ่ยขึ้นมา

จอมเทพข่งเซวี่ยถามด้วยความแปลกใจ “สังหารเทพมารหรือ ท่านมิใช่เทพมารต้องสาปหรอกหรือ”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “คำสาปแช่งเป็นเพียงหนึ่งในมหามรรคที่ข้าครอบครองเท่านั้น เทพมารตนนี้เพิ่งถือกำเนิด ตบะยังไม่แก่กล้านัก เจ้าสามารถจัดการได้ นับว่าเป็นบททดสอบของเจ้าด้วย ส่วนจะตามหาเขาอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”

จอมเทพข่งเซวี่ยตอบรับทันที “ไม่มีปัญหา ถ้าอ่อนแอกว่าเทพจักรพรรดิอัปมงคล ข้ายังต้องกลัวเขาอีกหรือ”

มิใช่ครั้งแรกที่จอมเทพข่งเซวี่ยท้าสู้กับเทพมารฟ้าบุพกาล เขาไม่หวาดกลัวเลยสักนิด

หานเจวี๋ยสลายแดนความฝันทันที

เขาเกรงว่าจอมเทพข่งเซวี่ยจะมีข้อเรียกร้องที่ตนไม่สามารถเติมเต็มให้ได้ และเป็นการรักษามาดของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไว้ด้วย!

หานเจวี๋ยปรับสภาพอารมณ์

กำจัดอริยะเจ็ดวิถีไป ทำให้เขารู้สึกใจหายอย่างน่าประหลาด

ตัวตนที่เคยอยู่สูงส่งทรงอำนาจก็พลัดหล่นจากยอดเมฆได้

แต่เขาก็มิได้หลงลำพอง หากคิดจะสังหารอริยะมหามรรคอย่างแท้จริง อาศัยแค่คำสาปแช่งของเขาทำไม่ได้แน่

‘ข้าไม่คิดจะเดินหมากกับพวกเจ้า และข้าก็ไม่มีทางยอมเป็นตัวเบี้ยของพวกเจ้าด้วย ข้ากลัวปัญหา แต่หากต้องเผชิญหน้าจริงๆ ก็ไม่มีถอยเด็ดขาด’

ดวงตาหานเจวี๋ยฉายแววมุ่งมั่น ฝึกบำเพ็ญต่อ

สำเร็จมหามรรคให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!

จะเอาแต่พึ่งพาสมบัติวิเศษของตนไปตลอดไม่ได้ พลังของตนแข็งแกร่งมากพอหรือไม่ต่างหากที่เป็นจุดสำคัญ!

….

ภายในตำหนักมืดสลัวหลังหนึ่ง จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายนั่งเฉื่อยชาอยู่บนบัลลังก์ ทอดสายตามองเหล่าเทพเซียนในตำหนักที่กำลังถกเถียงกันอยู่

“ตอนนี้ยังมิใช่เวลาเหมาะสำหรับบุกแดนเทพหวนปัจฉิม!”

“เช่นนั้นต้องรออีกนานแค่ไหนเล่า”

“แดนเทพหวนปัจฉิมโกลาหลแล้ว ฉวยโอกาสเข้าไปรับสมัครเทพเซียน ถึงจะเป็นจุดประสงค์หลักในการพัฒนาวังสวรรค์”

“พวกเรายังไม่มีข้อมูลของแดนบรรพกาลเลยด้วยซ้ำ จะกล้าบุกไปได้อย่างไร”

“ได้ยินว่าบรรพชนมารหนีออกมาจากแดนบรรพกาลแล้ว หากเขาอยู่ในแดนเทพหวนปัจฉิม พวกเราบุกแดนเทพหวนปัจฉิมไม่เท่ากับไปกับหาที่ตายหรอกหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ