บทที่ 684 ชักจูงอริยะเข้าพวก
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ตำหนักผานกู่
ผานซินนั่งอยู่ตรงข้ามจิ้นเสิน ผานซินขมวดคิ้วแน่น สีหน้าท่าทางดูไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ผ่านมาหลายพันปีแล้ว บุตรแห่งสวรรค์ที่เจ้าจัดแจงส่งไปยังไม่ส่งข่าวมาอีกหรือ”
ผานซินถามเสียงเข้ม น้ำเสียงเจือความคับข้อง
จิ้นเสินเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ข้าไม่มีลูกศิษย์ เก็บตัวบำเพ็ญในมรรคาสวรรค์มาตลอด เจ็ดคนนั้นที่ส่งไปเพียงเคยได้รับการชี้แนะจากข้าเท่านั้น ไม่นับว่าสนิทชิดเชื้อกัน”
ผานซินเอ่ยด้วยความโมโห “เช่นนั้นเจ้าจะส่งพวกเขาไปทำไม”
“ท่านมอบหมายให้ข้าจัดการ แล้วข้าจะทำอย่างไรได้”
“เจ้าควรบอกมาแต่แรก!”
ผานซินแทบระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว
พอเวลาผ่านไป ดูเหมือนคนผู้นี้จะมิได้มีใจภักดีเลย
จิ้นเสินนิ่งเงียบ
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ผานซินรู้สึกอยู่เสมอว่าคนผู้นี้กำลังเย้ยหยันตนอยู่
ก็ถูกแล้ว หลังจากจิ้นเสินสำเร็จเป็นอริยะก็ไม่หวาดกลัวเขาอีก
เขาแข็งแกร่งกว่าจิ้นเสิน แต่ภายในมรรคาสวรรค์ อริยะมรรคาสวรรค์เป็นอมตะฆ่าไม่ตาย เว้นแต่จะเป็นอริยะคลั่ง สูญเสียสติสัมปชัญญะไป ถึงสามารถอาศัยวิธีการอื่นเพื่อสะบั้นดวงชะตามรรคาสวรรค์ได้
ผานซินตระหนักได้ว่านอกจากความแข็งแกร่งแล้วเขายังจำเป็นต้องมีอย่างอื่นเพื่อใช้ดึงดูดใจคน
มิน่าเล่าอริยะเหล่านั้นถึงได้เจ้าเล่ห์กันทั้งสิ้น ชมชอบวางแผนสารพัดอย่าง
บางครั้ง แผนการก็มีประโยชน์กว่าพลัง มีอานุภาพทำลายล้างยิ่งกว่า
ผานซินถอนหายใจคราหนึ่ง “ช่างเถิด ปล่อยเรื่องสำนักซ่อนเร้นไปก่อน มหาจักรพรรดิเซียวพบดินแดนฟ้าบุพกาลที่เหมาะสมแล้ว อย่างมากก็ต้องใช้เวลาอีกหมื่นปี ข้าถึงจะบุกเบิกเส้นทางฟ้าบุพกาลได้ เมื่อถึงเวลาย่อมมิใช่ว่าผู้ใดอยากข้าก็ล้วนเข้าร่วมได้ จำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานเอาไว้ล่วงหน้า เจ้าก็ถือโอกาสก่อตั้งชุบเลี้ยงกลุ่มอิทธิพลของตนขึ้นเสียเถอะ ข้าจะให้ศิษย์ของเจ้าได้เข้าสู่เส้นทางนี้ก่อน มุ่งหน้าสู่ฟ้าบุพกาล เสาะหาโชควาสนา”
เมื่อจิ้นเสินได้ฟังก็มีสีหน้าตื่นตะลึง นึกซาบซึ้งในตัวผานซินขึ้นมาทันที
ผานซินไม่พูดไร้สาระอีก โบกมือสื่อให้เขาไปได้แล้ว
จิ้นเสินลุกขึ้นจากไป
ผานซินมองเงาหลังของเขาที่เดินห่างออกไป แววตาวูบไหว
‘เห็นทีว่าต้องหาทางดึงตัวอริยะรายอื่นมาเข้าพวกแล้ว พอมีอำนาจถึงจะเรียกความภักดีของคนผู้นี้กลับมาได้’
….
ณ แดนต้องห้ามอันธการ เจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ล่องลอยอย่างสงบ วิหคปีศาจนับไม่ถ้วนบินวนห้อมล้อม ซ้ำยังมีแม่ทัพและทหารสวรรค์ด้วย ระหว่างกองกำลังทั้งสองกลุ่มมีศาลาหินหลังหนึ่งลอยอยู่ โจวฝานและจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
หานทั่วและอี๋เทียนยืนอยู่ด้านหลังจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย ร่างเหยียดตรงดั่งขุนเขา
โจวฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้แล้วกัน นับจากนี้ไปแดนต้องห้ามอันธการจะอยู่ในการปกครองของสำนักซ่อนเร้นและวังสวรรค์อย่างเท่าเทียม”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายพยักหน้ารับพลางแย้มยิ้ม
เตรียมการมาหลายพันปี เขาถึงได้คิดวางแผนการใหญ่อย่างหนึ่งขึ้น ทำให้โจวฝานพึงพอใจได้
หากแผนนี้สำเร็จลุล่วง วังสวรรค์ต้องรุ่งโรจน์ดุจโบยบินเป็นแน่!
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายถามยิ้มๆ “ช่วงนี้อาจารย์ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อริยะเจ็ดวิถีถูกสังหาร เขามีท่าทีเช่นใด”
โจวฝานกล่าวตอบ “เขาปิดด่านบำเพ็ญอยู่ตลอด ไม่ยินดียินร้ายอันใด ส่วนเรื่องอริยะเจ็ดวิถี เขาจะรู้จักได้อย่างไร”
เขามิใช่คนโง่ ไม่มีทางบอกว่าหานเจวี๋ยคือฆาตกรตัวจริงที่สังหารอริยะเจ็ดวิถี
อริยะเจ็ดวิถีคืออริยะมหามรรค!
หานเจวี๋ยเพิ่งอายุเท่าไรกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพลังพอสังหารอริยะมหามรรคได้!
พรสวรรค์เช่นนี้หากข่าวรั่วไหลออกไป เช่นนั้นคงวุ่นวายใหญ่โต!
เขาเคยได้ยินมาว่า อริยะเจ็ดวิถีมีสัมพันธ์อันดีกับผู้ทรงพลังมากมาย มหันตภัยที่เข้าโจมตีมรรคาสวรรค์ก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นผู้ทรงพลังเหล่านี้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเผยสีหน้าคะนึงหาออกมา
หลังจากประสบเรื่องราวมากมาย เขามักจะหวนนึกถึงอดีต
ตัวเขาในกาลก่อน สง่างามทรงอำนาจในมรรคาสวรรค์อย่างไร้ที่สิ้นสุด มีลูกหลานมากมายนับไม่ถ้วน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ลูกน้องที่ติดตามเขาไม่มีเลยสักคนที่เป็นเชื้อสายของเขา
ส่วนหานเจวี๋ย เห็นอยู่ชัดๆ ว่าบุตรชายยังมีชีวิตอยู่ดี ซ้ำยังรู้ความยิ่ง แต่เขากลับเลี้ยงแบบปล่อยมาตลอด
พอพูดขึ้นมาแล้ว เขากับหานเจวี๋ยเดินบนเส้นทางสองสายที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นปลายทาง หรือว่าระหว่างทาง ล้วนไม่เหมือนกันเลย
อี๋เทียนข่มความสงสัยไม่อยู่ถามไปว่า “ก่อนหน้านี้หานทั่วปรากฏการเพรียกหาผ่านสายเลือด เป็นเพราะน้องชายหรือน้องสาวของเขาใช่หรือไม่ พรสวรรค์เป็นอย่างไร”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ หานทั่วก็มีสีหน้าสนใจใคร่รู้เช่นกัน
โจวฝานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ในเมื่อพวกเจ้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปิดบัง บุตรชายของอาจารย์เลิศล้ำนัก จนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างผดุงครรภ์ ข้ายังไม่เคยได้ยินเลยว่ามีเผ่ามนุษย์คนใดตั้งครรภ์นานเช่นนี้มาก่อน วันหน้าต้องกลายเป็นตัวตนที่สะท้านฟ้าสะเทือนปฐพีแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะสืบทอดพรสวรรค์ของท่านอาจารย์มาด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...