อ่านสรุป บทที่ 751 คำพยากรณ์มหาเคราะห์ อายุห้าแสนปี จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 751 คำพยากรณ์มหาเคราะห์ อายุห้าแสนปี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 751 คำพยากรณ์มหาเคราะห์ อายุห้าแสนปี
ศึกปกป้องมรรคาสวรรค์ครั้งนี้มาเร็วไปเร็วอย่างยิ่ง
ฝั่งมรรคาสวรรค์ไม่ได้รับความเสียหายมากมายนัก แต่สรรพสิ่งยังคงตื่นเต้นยิ่ง
เนื่องจากในที่สุดพวกเขาก็ได้ประจักษ์ในความแข็งแกร่งของอริยะสวรรค์เกรียงไกรแล้ว!
ผู้บำเพ็ญทั้งหมดในเมืองฟ้าบุพกาลรวมถึงเซียนทองต้าหลัวและครึ่งอริยะ ล้วนสอดส่องการลงมือของหานเจวี๋ย หลังจบเรื่อง ผู้บำเพ็ญที่ไปยังเส้นทางฟ้าบุพกาลก็มองเห็นห้วงมิติปริร้าวพังทลายที่หลงเหลือจากการต่อสู้ ทั้งยังมีโพรงใหญ่ที่กว้างขวางยืดยาวกว่าเส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาลอีกด้วย เขย่าขวัญผู้คนนัก
“สวรรค์ นี่ต้องมีตบะระดับใดกันถึงสร้างความเสียหายที่น่าหวาดหวั่นขนาดนี้ได้!”
“ดวงจิตมหามรรคก็แค่นี้เองสินะ”
“เร็วเกินไปแล้ว นี่น่ะหรืออริยะสวรรค์เกรียงไกร ข้ากำลังจัดของเตรียมตัวอยู่เลย”
“มรรคาสวรรค์เกรียงไกร!”
“คนยุคเก่าไม่ได้หลอกลวงข้า อริยะสวรรค์เกรียงไกรร้ายกาจจริงๆ ตำนานเล่าขานล้วนเป็นความจริง”
“เผ่าชิงชังล่ะ ตายไปหมดแล้วหรือ”
….
จุดจบของเผ่าชิงชังก็เป็นคำเตือนให้สรรพสิ่งมรรคาสวรรค์ด้วยเช่นกัน
นี่คือสงครามใหญ่ หากมรรคาสวรรค์พ่ายแพ้ เกรงว่าพวกเขาคงต้องตาย
ในอนาคตเมื่ออริยชนเทศนาธรรมจะหยิบยกการต่อสู้ครั้งนี้ออกมาเล่าอยู่บ่อยครั้ง ตักเตือนชนรุ่นหลัง อย่าได้หลงระเริงไปกับความสงบสุขชั่วขณะ
หานเจวี๋ยไม่สนใจความเห็นของสรรพสิ่ง ว่ากันตามจริงแล้ว เขาไม่ได้ตื่นเต้นเลย
ถึงจะสังหารนักพรตเต๋าเสินเผาและอริยะเทพอวี๋เจี้ยนได้ แต่ก็ไม่ใช่การสังหารในเสี้ยววินาที
ในใจหานเจวี๋ยยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย
เขาต้องฝึกบำเพ็ญแข่งกับเวลา ในอนาคตเมื่อลงมืออีกครั้ง ต้องสังหารศัตรูให้ได้ในเสี้ยววินาที!
อย่างที่อริยะเทพอวี๋เจี้ยนกล่าวไว้ หลังสิ้นศึกครั้งนี้ ไม่มีผู้ทรงพลังกล้ามารุกรานมรรคาสวรรค์อีกแล้ว
พันปีต่อมา มรรคาสวรรค์ฟื้นฟูสำเร็จ ชั้นฟ้าที่สามสิบสามหวนคืนสู่ความเงียบสงบเช่นในวันวาน เหล่าอริยะล้วนได้รับแรงกระตุ้น เริ่มตั้งใจฝึกบำเพ็ญขึ้นมา
หลังจากได้เห็นพลังของหานเจวี๋ย พวกเขาล้วนรู้สึกว่าตนช่างเล็กจ้อยนัก
รวมถึงมหาอริยะสวีหุนด้วย
หานเจวี๋ยเคลื่อนย้ายมหาอริยะสวีหุนกลับมาที่เขตเซียนร้อยคีรี หลังมรรคาสวรรค์ฟื้นฟูเป็นปกติ เขาก็ถูกมรรคาสวรรค์ต่อต้าน ช่างน่าหดหู่ยิ่งนัก โชคดีที่หานเจวี๋ยยอมเจียดเวลาเคลื่อนย้ายเขากลับมา
การทำลายล้างเผ่าชิงชังทำให้มหาอริยะสวีหุนได้รับแรงกุศลมรรคาสวรรค์ไม่น้อยเลย แต่ไม่เพียงพอให้เขาแทรกซึมอยู่ในมรรคาสวรรค์ได้ เนื่องจากเขาแข็งแกร่งเกินไป
ส่วนหานเจวี๋ยนั้นเป็นข้อยกเว้น เดิมทีหานเจวี๋ยเป็นสิ่งมีชีวิตมรรคาสวรรค์อยู่แล้ว ดังนั้นมรรคาสวรรค์เคยชินกับตัวตนของเขา อีกทั้งปกติแล้วเขาอยู่ในอาณาเขตเต๋าตลอด ปกปิดตบะจากมรรคาสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเป็นเช่นนี้ วันเวลาแห่งความสงบสุขก็หวนคืนมาอีกครั้ง
ห้าพันปีต่อมา
ขณะที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญอยู่ จู่ๆ ข้อความแถวหนึ่งก็เด้งขึ้นมาตรงหน้า
[จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
หานเจวี๋ยใจเต้นแวบหนึ่ง คงมิใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้วกระมัง
เขาถูกรบกวนจนเกิดเงามืดขึ้นในใจแล้ว แต่อีกฝ่ายคือจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย เขาไม่อาจปฏิเสธได้
เขาตอบรับการขอเข้าฝันทันที
แดนความฝันยังคงเป็นป่าเล็กนอกสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์เมื่อครั้งอดีต
เมื่อจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเห็นหานเจวี๋ย ก็เอ่ยชมเชยว่า “เจ้าร้ายกาจจริงๆ แม้แต่นักพรตเต๋าเสินเผาก็ยังสังหารได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าในศึกนั้นจะมีเฮิ่นจีหัวหน้าเผ่าชิงชังและอริยะเทพอวี๋เจี้ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เจ้าเลื่องชื่อด้วยสงครามแล้ว ตอนนี้ชื่อเสียงของอริยะสวรรค์เกรียงไกรอย่างเจ้าแพร่กระจายไปทั่วฟ้าบุพกาล”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วถามว่า “ชื่อเสียงโด่งดังมากหรือ”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะบอกว่าดังก็ไม่ดัง จะบอกว่าไม่ดังเลยก็ไม่ใช่ ถึงอย่างไรฟ้าบุพกาลก็กว้างใหญ่ไพศาล มักจะมีสถานที่ที่ไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้าอยู่เสมอ”
หานเจวี๋ยเผยสีหน้ากังวลออกมา ต่อหน้าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นสุขุม
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายยิ้มอย่างจนปัญญาก่อนเอ่ยไปว่า “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่กัน เจ้าในตอนนี้ นับเป็นผู้ทรงพลังชั้นแนวหน้าของฟ้าบุพกาลแล้ว สร้างชื่อด้วยศึกเดียว สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงพลังสะเทือนขวัญ มิใช่ปัญหาไร้ที่สิ้นสุด อิทธิพลของมรรคาสวรรค์ผงาดขึ้นมาจนฉุดไว้ไม่อยู่แล้ว ประกอบกับมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่กำลังจะมาเยือน เหล่าดวงจิตมหามรรคล้วนต้องรีบหาทางเลี่ยงเคราะห์ น่าจะไม่มาสร้างความวุ่นวายให้เจ้าอีก
มิน่าเล่าถึงต้องใช้เวลาหลายหมื่นล้านปี!
หานเจวี๋ยไม่มีตัวตนที่เหนือกว่าเทพมารอนธการ ยิ่งไม่อาจหักใจให้บุตรชายละทิ้งพรสวรรค์ได้ เช่นนั้นคงทำได้เพียงให้เขาอยู่ในครรภ์มารดาแล้ว
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว คาดว่าผู้ทรงพลังรายอื่นก็คงทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ฟ้าบุพกาลเกิดกระแสตามหาเทพมารอนธการขึ้น บุตรแห่งสวรรค์ที่ถือกำเนิดในอนาคตคงต้องลำบากเสียแล้ว”
เขาเอ่ยอย่างสงบเฉยเมย ทว่าฟังแล้วหานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง
บุตรแห่งสวรรค์นับไม่ถ้วนจะต้องตายเพียงเพราะคำพยากรณ์เดียว
หานเจวี๋ยไม่มีทางรู้สึกละอายใจ ตัวเขามิใช่คนที่ให้ความสำคัญกับสรรพสิ่งมากกว่าคนของตัวเองอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นคือต่อให้ไม่มีบุตรชายของเขา ด้วยฐานะเทพมารอนธการ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องกลายเป็นศัตรูกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในฟ้าบุพกาลอยู่ดี
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เขาจะฝึกบำเพ็ญไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งทั่วฟ้าบุพกาลล้วนทำอันใดเขาไม่ได้!
ทั้งสองสนทนากันต่อไป
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม แดนความฝันถึงได้สิ้นสุดลง
หานเจวี๋ยสอดส่องมรรคาสวรรค์เล็กน้อย เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีภัยอันตรายก็เรียกดูจอค่าความสัมพันธ์ สหายที่ใส่ใจยังคงอยู่ดีทั้งหมด เขาจึงฝึกบำเพ็ญต่อ
เวลาดำเนินต่อไป
ผ่านไปปีแล้วปีเล่า
หลายพันปีต่อมา
ขณะที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญอยู่ก็มีข้อความสามแถวเด้งขึ้นมาตรงหน้า
[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบห้าแสนปีบริบูรณ์ ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง เผยตัวสู่โลกทันที ประกาศศักดาแห่งเทพมารอนธการ กระตุ้นให้เกิดมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง โอกาสเพิ่มความสามารถใหม่ของระบบหนึ่งครั้ง]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ หลีกห่างข้อพิพาท จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน หินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...