บทที่ 760 ปณิธานอันยิ่งใหญ่
“จะว่าไป ผนึกแดนบรรพกาลพังทลายลงนานขนาดนี้ เหตุใดตัวตนยิ่งใหญ่ทรงพลังถึงไม่จากไปอีก แดนบรรพกาลมิใช่คุกคุมขังที่สร้างขึ้นโดยบรรพชนเต๋าหรอกหรือ”
หวงจุนเทียนลูบคางพลางถาม เป็นเพราะสื่อหยวนหงเหมิง เขาถึงเข้าใจความลับของฟ้าบุพกาลมากมาย
สื่อหยวนหงเหมิงตอบว่า “เมื่อก่อนบรรพชนเต๋าแข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงขั้นที่ถูกผู้ทรงพลังฟ้าบุพกาลมากมายสงสัยว่าจะเป็นผานกู่กลับชาติมาเกิด แดนบรรพกาลแปรสภาพมาจากแผ่นดินของมรรคาสวรรค์ในยุคแรกสุด ถึงแม้จะถูกสะบั้นดวงชะตามรรคาสวรรค์แล้วแต่รากฐานยังคงอยู่ ประกอบกับมีผู้อาวุโสทรงพลังมากมายถูกจองจำไว้ เมื่อเวลาผ่านนานไป แดนบรรพกาลกลายเป็นโลกขนาดใหญ่มีเอกเทศเสรีแห่งหนึ่ง ดำเนินตามมหามรรค หากตัดเรื่องตัวตนทรงพลังมหาศาลเหล่านั้นออกไป ก็นับว่าเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับฝึกบำเพ็ญ”
หวงจุนเทียนถามต่อ “ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนบรรพกาลคือสิ่งใด”
สื่อหยวนหงเหมิงเงียบงัน
หวงจุนเทียนรออยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยถามขึ้นว่า “เหตุใดท่านถึงไม่พูด”
“ไม่อาจเอ่ยนามเขาออกมาได้ เป็นเรื่องต้องห้าม ไอ้หนู จำไว้ ฟ้าบุพกาลมิได้เรียบง่ายอย่างที่เจ้าคาดคิด สรรพสิ่งล้วนอยู่ท่ามกลางความเวิ้งว้างเลื่อนลอย เรื่องบางอย่างไม่อาจถามได้และยิ่งไม่อาจจดจำ”
น้ำเสียงของสื่อหยวนหงเหมิงเต็มไปด้วยความสะท้อนใจ คล้ายจะจมจ่อมอยู่ในห้วงความทรงจำอันไร้ที่สิ้นสุด
หวงจุนเทียนอยากรู้ยิ่งกว่าเดิม แต่เขาไม่ได้เปิดปากถาม เกรงว่าจะชักนำความเดือดร้อนมา
ยิ่งอยู่กับสื่อหยวนหงเหมิงไปนานเท่าไร เขาก็ยิ่งอยากรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งในฟ้าบุพกาลเท่านั้น
ฟ้าบุพกาลกว้างใหญ่ไพศาลถึงเพียงนี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร
กก่อนหน้าฟ้าบุพกาลคือสิ่งใด
อริยะมหามรรคคือขีดสูงสุดของการบำเพ็ญจริงๆ น่ะหรือ
ถึงฝึกบำเพ็ญก็ไม่สามารถหนีออกจากฟ้าบุพกาลได้หรือ
หวงจุนเทียนรู้สึกว่าเส้นทางการบำเพ็ญนอกจากทำให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังมีความลับมากมายที่ควรค่าให้ตนไปค้นหาอีกด้วย
….
วันเดือนเคลื่อนคล้อยไป
แปดหมื่นปีผ่านไป
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า
แปดหมื่นปีที่ผ่านมา เขาฝึกบำเพ็ญมาตลอด ไม่มีคนมารบกวน ไม่เคยหยุดกลางคัน
ตื่นขึ้นมาครานี้ เมื่อมองย้อนกลับไป ตบะของตนก้าวหน้าขึ้นไม่น้อยเลย
หานเจวี๋ยเกิดความคิดใจกล้าอย่างหนึ่งขึ้น
เขาคิดจะปิดด่านต่อเนื่องไปรวดเดียวจนกว่าจะทะลวงขั้นได้!
แต่ทำเช่นนี้คงไม่ดี ระยะเวลายาวนานเกินไป เกรงว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้าสะเทือนดินขึ้นกับมรรคาสวรรค์ ถึงขึ้นที่หลุดพ้นจากการควบคุมของเขาไป
เขาอาจจะอาศัยพลังอันแกร่งกล้าสะกดควบคุมไว้ได้อีกครั้ง แต่ก็คงจะมีปัญหาวุ่นวายอยู่บ้าง
หานเจวี๋ยมาที่อาณาเขตเต๋าแห่งที่สองก่อน ปล่อยเทพมารฟ้ากระจ่างออกมา ก่อนให้มู่หรงฉี่มารับตัวไป
หลังจากสองเทพมารออกไปแล้ว หานเจวี๋ยมองไปที่ลี่เหยาและอู้เต้าเจี้ยน
สตรีทั้งสองนั่งสมาธิอยู่ข้างกัน บุคลิกแตกต่างกันไป งดงามล่มเมือง
หานเจวี๋ยสังเกตตบะของพวกนาง มหามรรคที่เขาผสานให้อู้เต้าเจี้ยนคือมหามรรคแห่งกระบี่ เขาสัมผัสได้ว่าอู้เต้าเจี้ยนกำลังบ่มเพาะปราณกระบี่สายหนึ่งอยู่ภายใน
ปราณกระบี่สายนี้แข็งแกร่งยิ่ง แม้ว่าจะยังไม่พิสูจน์มรรค แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าอริยะที่เพิ่งพิสูจน์มรรคสำเร็จเลย
ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังพินิจดูพวกนางอยู่นั้น พวกนางก็กำลังมองหานเจวี๋ยเช่นกัน
ยอดสมบัติฟ้าบุพกาลสี่ชิ้นประดับอยู่ทั่วร่าง บุคลิกรัศมีของเขาทำให้พวกนางตื่นตะลึง
พวกนางยังไม่เคยพบคนที่หล่อเหลาเลิศล้ำขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่พวกนางคุ้นเคยดียิ่ง แต่รัศมีนี้ยังคงทำให้พวกนางลุ่มหลงอยู่ดี
ลี่เหยาเปิดปากเอ่ย “ท่านอย่าเพิ่งไปเลยเจ้าค่ะ”
หานเจวี๋ยถาม “มีเรื่องใด”
ลี่เหยาเหลือบมองอู้เต้าเจี้ยนแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “พวกเราพบปัญหาในการบำเพ็ญ อยากสอบถามท่าน”
หานเจวี๋ยพยักหน้า จากนั้นก็นั่งลง
ทั้งสามเริ่มสนทนาธรรมกัน
….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...