บทที่ 785 วุ่นวายใหญ่หลวงย่อมขัดแย้งใหญ่โต
“ข้ามีสายสัมพันธ์กับสำนักซ่อนเร้นจริงๆ นั่นแหละ ทั้งยังมีสัมพันธ์ใกล้ชิดด้วย”
หยางเทียนตงเอ่ยยังไม่อนาทรร้อนใจ ท่าทางสบายๆ ยิ่ง
ฉินหลิงถูกกระตุ้นความอยากรู้ สอบถามต่อว่า “ท่านพญายมสนิทสนมคุ้นเคยกับศิษย์คนใดของสำนักซ่อนเร้นหรือ”
เขาเคารพเลื่อมใสสำนักซ่อนเร้นยิ่งนัก อย่ามองว่าเขาออกไปใช้ชีวิตโลดโผนในฟ้าบุพกาลเท่านั้น ถึงแม้จะสร้างชื่อสะเทือนแดนเซียน แต่เขาทราบดีว่าตนไม่ติดลำดับชั้นในสำนักซ่อนเร้นเลย
สำนักซ่อนเร้นชุบเลี้ยงอริยะขึ้นมากน้อยเพียงใดแล้วเล่า
ส่วนบุตรแห่งสวรรค์ นั่นยิ่งมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน!
ภายในเขตเซียนร้อยคีรีมีศิษย์นับล้านเพียรบำเพ็ญอยู่ หากปล่อยออกมาสักคน ต้องสั่นสะเทือนโลกาได้แน่นอน
หยางเทียนตงกระแอมเล็กน้อย เตรียมจะวางท่าแล้ว พลันมีเสียงหนึ่งแว่วขึ้นในหูเขา
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองฉินหลิงด้วยสายตาซับซ้อน
‘ผู้ฝ่าเคราะห์อย่างนั้นหรือ น่าสนใจ ไม่คิดเลยว่ามหาเคราะห์มรรคาสวรรค์จะมาถึงเร็วเช่นนี้’
จู่ๆ หยางเทียนตรงก็รู้สึกสงสารฉินหลิงยิ่งนัก บุตรแห่งสวรรค์เลื่องชื่อสะท้านสะเทือนแดนเซียนเป็นเพียงตัวหมาก
เหตุใดสำนักซ่อนเร้นถึงไม่ปกป้องเขา
หยางเทียนตงนึกถึงหานเจวี๋ย ตระหนักได้ว่าฉินหลิงที่แข็งแกร่งยิ่งนักในสายตาเขาอาจจะไม่เข้าตาหานเจวี๋ยเลย
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเฉื่อยชาหมดอารมณ์ ไม่มีอารมณ์จะวางท่าแล้ว
เขาโบกมือเล็กน้อย เอ่ยว่า “ไปเกิดใหม่เถอะ ชาติหน้าคงมีโอกาสได้คุยกับเจ้าอีก”
ถึงแม้ฉินหลิงจะงุนงง ทว่าก็ไม่ได้พูดมากเช่นกัน ไปเกิดใหม่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ยมทูตดำขาวคุมวิญญาณฉินหลิงออกไป
หยางเทียนตงจมอยู่ในห้วงความทรงจำอันไร้ที่สิ้นสุด
หากปีนั้นเขาเชื่อฟังคำสั่งอาจารย์ ตอนนี้เขาจะรุ่งโรจน์เพียงใดกัน
น่าเสียดาย คุณสมบัติของเขาไม่ได้เรื่อง
ซูฉีเองก็ไม่เชื่อฟังเช่นกัน ถึงขั้นที่ก่อหายนะใหญ่หลวง ทำให้มรรคาสวรรค์เริ่มต้นวงจรใหม่ ตอนนี้ก็ยังกลายเป็นอริยะได้มิใช่หรือ
สรุปคือเขาดวงไม่ดี ไม่มีดวงชะตายิ่งใหญ่
หยางเทียนตงถอนหายใจ
เขามองตำหนักพญายมหลังนี้ของตน ความหดหู่และหม่นหมองในทรวงเลือนหายไป
อันที่จริงเป็นเช่นตอนนี้ก็ดียิ่งนักเช่นกัน
ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดการตาย อยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน นั่งมองสรรพสิ่งรุ่งเรืองโรยรา
นี่คือตำแหน่งและอำนาจที่ตัวเขาในอดีตไม่กล้าจินตนาการถึง
หยางเทียนตงยิ้มออกมา อารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง
….
ภายในห้วงมิติลึกลับที่มีแต่แสงสว่างจ้าแห่งหนึ่ง เงาดำหลายสิบร่างรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทั้งหมดล้วนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง พวกเขาต่างหันหน้าไปทางเงาร่างที่ใหญ่มหึมาอย่างยิ่งร่างหนึ่ง
“จอมเทพซิ่นอวี่ตายแล้ว สิ้นชีพเร็วยิ่ง ไม่มีกำลังโต้กลับเลย ก่อนตายเขาได้ส่งภาพใบหน้าของอีกฝ่ายมาให้ข้า”
เงาดำใหญ่มโหฬารเอ่ยเสียงขรึม พอเอ่ยจบ มีแสงสีแดงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาเขา เชื่อมรวมกันเป็นหนึ่ง รวมตัวกันเป็นภาพของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการดูคล้ายคลึงกับเงาดำที่อยู่รอบข้างยิ่งนัก แต่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีเพลิงทมิฬลุกท่วมร่าง จุดสำคัญที่สุดคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถือขวานเล่มหนึ่งไว้ในมือ
“คนผู้นี้เป็นใคร”
“เขาถูกมิ่งด้วยกันทำร้ายหรือ”
“ช้าก่อน ขวานเล่มนี้มิใช่ขวานเบิกฟ้าหรอกหรือ”
“ก่อนหน้านี้ผานซินเคยตามราวีข้า บอกว่ามิ่งขโมยขวานเบิกฟ้าของเขาไป หรือว่า…”
“จะเป็นไปได้อย่างไร ยอดสมบัติเช่นนี้จะถูกขโมยได้หรือ เกรงว่าเขาคงเล่นละครเอาเองแล้ว!”
“แต่ผานซินเป็นเพียงอริยะเสรี ไหนเลยจะสามารถสังหารอริยะมหามรรคได้ง่ายๆ”
เงาดำหลายสิบร่างเริ่มถกเถียงกัน
สือตู๋เต้า ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงและหลี่เต้าคงก็รวมอยู่ในบรรดานั้นด้วย
สือตู๋เต้าฉงนอยู่ในใจ เหตุใดเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถึงสังหารมิ่ง
มิ่งมิใช่กลุ่มอิทธิพลที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการก่อตั้งขึ้นหรอกหรือ
เขารู้สึกว่าตนมองไม่กระจ่างอีกแล้ว
เงาดำร่างมหึมาเปิดปากเอ่ย “พวกเจ้าว่า เขาจะใช่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการหรือไม่”
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...