บทที่ 800 สร้างเทวตำนาน – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 800 สร้างเทวตำนาน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 800 สร้างเทวตำนาน
“ข้าไม่ได้โอหังนะขอรับ ข้าต้องการใช้มหาเมตตากล่อมเกลาเขา!”
ฉู่ซื่อเหรินเอ่ยด้วยสีหน้าหนักแน่น ต้องกล่าวเลยว่า หลังจากบุกเบิกโลกพุทธะ ตัวเขาก็ยิ่งมีความเป็นบรรพชนพุทธมากขึ้นเรื่อยๆ ยามที่พูดจาชอบทำเช่นนี้ ตัวเขาจะส่องแสงเรืองรอง ทำให้คนอยากเชื่อถือเขาอย่างน่าประหลาด
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “เจ้าอย่าได้ทำเป็นเล่นไป”
ฉู่ซื่อเหรินเอ่ยว่า “วางใจเถิดขอรับ อาจารย์ปู่ รอจนสำนักซ่อนเร้นรวมฟ้าบุพกาลให้เป็นหนึ่งแล้ว โลกพุทธะของข้าจะนำพาสันติสุขมาสู่สำนักซ่อนเร้นเอง!”
“พูดอะไรมั่วซั่ว สำนักซ่อนเร้นต้องการร่วมฟ้าบุพกาลให้เป็นหนึ่งตั้งแต่เมื่อไร”
“กล่าวผิดไปเสียแล้ว มรรคาสวรรค์รวมฟ้าบุพกาลให้เป็นหนึ่งต่างหาก…”
“มรรคาสวรรค์ก็ไม่ได้คิดจะรวมฟ้าบุพกาลให้เป็นหนึ่งเช่นกัน เพียงคิดจะป้องกันตัวเท่านั้น เข้าใจหรือไม่”
หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างจริงจัง เขารู้สึกว่าความคิดของฉู่ซื่อเหรินออกนอกลู่นอกทางแล้ว
ฉู่ซื่อเหรินรีบขออภัย เอ่ยไปว่า “ถูกต้อง! ถูกต้องขอรับ! ป้องกันตัว!”
เขาทอดถอนใจอยู่ภายใน
อาจารย์ปู่ยังคงหน้าหนายิ่งนัก
มรรคาสวรรค์ในปัจจุบันนี้ไปไกลเกินกว่าจุดที่เรียกว่าป้องกันตัวแล้ว มีใจฝักใฝ่ทะเยอทะยานชัดๆ
อย่างไรก็ตามเช่นนี้สิถึงจะเป็นผู้ทำการใหญ่ให้สำเร็จได้
พูดโกหกได้โดยไม่กะพริบตา
หานเจวี๋ยพูดคุยกับฉู่ซื่อเหรินสักพักหนึ่ง จากนั้นสลายแดนความฝันลง
ภายในอารามเต๋า
หานเจวี๋ยมองความเจริญรุ่งเรืองภายในเขตเซียนร้อยคีรี จู่ๆ ก็รู้สึกห่างเหินยิ่งนัก
ดูเหมือนจะคึกคัก ทว่าเขากลับรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมาอีกครั้ง
ลูกศิษย์ลูกหาล้วนเติบใหญ่กันหมด ล้วนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขาแล้ว
ในอดีตหานเจวี๋ยเกรงว่าศิษย์จะชักนำปัญหามาให้เขา ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้ ทว่าเหล่าศิษย์กลับเกรงว่าจะสร้างปัญหาให้เขา ต่อให้สังขารดับสลาย ก็ล้วนกัดฟันทนไว้ทั้งสิ้น
“ไม่เข้าใจเลย ไม่ง่ายเลยกว่าอาจารย์ของพวกเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้ มีตบะอยู่กับตัวทั้งที ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเจ้าจะไม่เปิดโอกาสให้ข้าได้แสดงฝีมือ”
หานเจวี๋ยรำพัน จากนั้นก็ปรับอารมณ์ ฝึกบำเพ็ญต่อ
เขาแข็งแกร่งจริงๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ไร้พ่าย
ตอนนี้ขุนพลศักดิ์สิทธิ์หมื่นรายคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
อาณาเขตเต๋าอาจสามารถต้านทานขุนพลศักดิ์สิทธิ์หมื่นคนได้ เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั่วทั้งฟ้าบุพกาลจะต้องให้ความสนใจอาณาเขตเต๋าของเขาเป็นแน่ บรรดาศิษย์ที่ท่องอยู่ด้านนอกของเขาก็จะพลอยไม่ปลอดภัยไปด้วย
….
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม ตำหนักเอกภพ อริยชนมารวมตัวกัน
ผานซินเรียกรวมตัวเหล่าอริยะรอบข้าง เขากำลังคุยโม้ยกยอหานเจวี๋ยอยู่
“ลงมือจากมรรคาสวรรค์ โจมตีศัตรูที่เจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ข้ามห้วงอวกาศไป เป็นไปได้จริงๆ น่ะหรือ”
หยางเช่ออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม เขาก็เคยไปเยือนเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่เช่นกัน ตอนนั้นเขายังเป็นครึ่งอริยะ เดินทางไปกลับใช้เวลากว่าสองหมื่นปี
เพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่ามรรคาสวรรค์และเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ห่างกันมากแค่ไหน
มรรคาสวรรค์กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก ผสานรวมนับพันล้านจักรวาลไว้ มีห้วงมิติมากมายนับไม่ถ้วน โลกมนุษย์ธรรมดาทุกแห่งล้วนสามารถวิวัฒนาการจนกลายเป็นมหาจักรวาล มีทางช้างเผือกถือกำเนิดขึ้นนับไม่ถ้วน เพียงหนึ่ง ความคิดของอริยะก็ครอบคลุมทั่วทั้งมรรคาสวรรค์ได้ ในมุมมองของสรรพสิ่งเรื่องเช่นนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
แต่ในฟ้าบุพกาล กว้างไกลไร้ขอบเขต ต่อให้เป็นอริยะก็สอดส่องได้เพียงพื้นที่เล็กๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้น
การกระทำของหานเจวี๋ยทำให้อริยะหน้าใหม่ยากจะเชื่อได้
“ที่เรียกทุกคนมาในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง นักพรตเต๋าเสินเผาแจ้งต่อข้า บอกว่ามีโอกาสวาสนาอย่างหนึ่งที่อยากกำนัลให้แก่มรรคาสวรรค์ เป็นทะเลเพลิงฟ้าบุพกาลผืนหนึ่ง ทะเลเพลิงนี้มีความพิเศษ ผสานปราณแห่งโชคไว้ ใช้หลอมสร้างยอดสมบัติได้ หากได้ครอบครองเพลิงนี้ มรรคาสวรรค์จะดึงดูดผู้บำเพ็ญฟ้าบุพกาลมากมายให้เข้ามาเพื่อหลอมสร้างสมบัติวิเศษได้” จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยขึ้นช้าๆ
สวีตู้เต้าปรบมือพลางกล่าวขึ้นว่า “นี่เป็นเรื่องดี! แต่จะไว้ใจนักพรตเต๋าเสินเผาได้หรือ ไยเขาไม่เก็บโอกาสวาสนานี้ไว้เองเล่า”
จอมอริยะเสวียนตูกล่าวว่า “นักพรตเต๋าเสินเผาไม่สามารถควบคุมโชคนี้โดยตรงได้ หาไม่จะถือเป็นการข้ามขั้น แต่หากให้มรรคาสวรรค์ครอบครอง ก็ต้องอำนวยประโยชน์ให้เขาด้วย นับว่าเป็นของเขาทางอ้อมเช่นกัน”
เหล่าอริยชนตกอยู่ในห้วงความคิด
เทพสูงสุดอู๋ฝ่าเอ่ยว่า “ตอบรับไปเถอะ ถึงแม้มรรคาสวรรค์จะยินดีรับสิ่งมีชีวิตฟ้าบุพกาลเข้ามา แต่สิ่งที่ได้รับมามีเพียงคนไร้สังกัดสำนัก หากอยากดึงดูดผู้ทรงพลังหรือบุตรแห่งสวรรค์เข้ามา จะต้องมีสิ่งที่ล่อใจพวกเขาได้ไม่ใช่แค่คุณสมบัติในการอยู่ในมรรคาสวรรค์”
อริยะรายอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ยังคงไม่ไว้ใจนักพรตเต๋าเสินเผาอยู่ดี ถึงอย่างไรนักพรตเต๋าเสินเผาก็เคยเป็นศัตรูมาก่อน
“เรื่องนี้ยกให้ข้าไปจัดการเถอะ ต่อให้นักพรตเต๋าเสินเผามีแผนการร้าย ข้าก็มีโอกาสเอาตัวรอดได้มากกว่าทุกท่าน!” ผานซินเอ่ยขึ้นมา
ช่างประจบเอาหน้าเก่งเสียจริง!
เหล่าอริยชนแอบบ่นในใจ แต่ก็ไม่กล้าแย่งชิงโอกาสนี้ เพราะอันตรายเกินไปจริงๆ
อริยะมรรคาสวรรค์เป็นอมตะแค่ในมรรคาสวรรค์เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรออกจากมรรคาสวรรค์
จอมอริยะเสวียนตูกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้”
เมื่อเห็นว่าเทพสูงสุดอู๋ฝ่าไม่ได้พูดอะไร จอมอริยะเสวียนตูก็สบายใจแล้ว
ในเมื่อล้วนมาจากสังกัดเดียวกัน ไหนเลยจะต้องมานั่งระแวงกันเองเล่า
แน่นอนว่าในส่วนนี้เขาไม่กล้าพูดออกไป
เนื่องจากเขาไม่ทราบแน่ชัดว่าที่แท้แล้วหานเจวี๋ยใช้วิธีการใดกันแน่ถึงทำให้ศัตรูยอมสยบเป็นทาส วิธีการนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน หากเปิดเผยออกไป จะเป็นการล่วงเกินหานเจวี๋ยเข้า
จอมอริยะเสวียนตูปฏิบัติต่อหานเจวี๋ยอย่างระมัดระวังเสมอมา ดูเหมือนทั้งสองจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่จอมอริยะเสวียนตูก็ไม่กล้าเผอเรอเลยสักนิด
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...