บทที่ 818 เทพมารสิบเก้าตน
เมื่อเผชิญหน้ากับจอมเทพข่งเซวี่ยที่หยิ่งผยองจองหองเช่นนี้ พุทธสัจจะยุทธแค่นเสียงคราหนึ่ง ไม่พูดไร้สาระอีก ออกจากโลกพุทธะทันที
จอมเทพข่งเซวี่ยแสยะยิ้ม เลือนหายไปจากในโถงตำหนักเช่นกัน
จากนั้น แรงกดดันจากการต่อสู้อันน่าหวาดผวาปกคลุมไปทั่วโลกพุทธะ ทำให้สรรพสิ่งในโลกพุทธะรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง
ฉู่ซื่อเหรินขมวดคิ้ว
เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของจอมเทพข่งเซวี่ยมาบ้าง มีสมญาว่ายอดคนอันดับหนึ่งรองลงมาจากระดับมหามรรค
ศัตรูแข็งแกร่งเช่นนี้ เขานึกกังวลแทนพุทธสัจจะยุทธอยู่บ้าง
ที่สำคัญคือจอมเทพข่งเซวี่ยเป็นตัวแทนของผู้อยู่เบื้องหลังอย่างเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ!
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นผู้ใดเล่า
ตัวตนชั่วร้ายที่ลึกลับและน่ากลัวที่สุดในฟ้าบุพกาล!
ต่อให้พุทธสัจจะยุทธเอาชนะได้ แต่พวกเขาจะต่อต้านเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้หรือ
ไม่ใช่แค่เขาที่คิดเช่นนี้ เหล่าพุทธองค์ที่อยู่กันเต็มห้องโถงก็กังวลเช่นเดียวกัน
“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมาแล้ว เช่นนี้จะทำอย่างไรดีเล่า”
“ได้ยินว่าแม้แต่มิ่งก็ยังถอยหลบเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถึงสามส่วน”
“ทำอย่างไรดี”
“เฮ้อ จนใจที่โลกพุทธะของพวกเราไร้ขุนเขาใหญ่ให้พึ่งพา”
“ความจริงแล้วพุทธสัจจะยุทธก็แข็งแกร่งมาก แต่จนปัญญาว่าเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเหล่าพุทธองค์ ฉู่ซื่อเหรินขมวดคิ้วนิดๆ
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยังคงเลือกเข้าฝันหานเจวี๋ย
….
หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ถูกแจ้งเตือนตรงหน้าดึงดูดความสนใจ
เขาเพิ่งปิดด่านได้สองหมื่นเจ็ดพันสามสิบสองปี หากหยุดกลางคันตอนนี้ น่าจะหงุดหงิดนัก
[ฉู่ซื่อเหรินต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
[ฉู่ซื่อเหรินต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
….
ฉู่ซื่อเหรินเริ่มรัวมาไม่หยุด หานเจวี๋ยจำเป็นต้องหยุดกลางคัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่ซื่อเหรินรีบร้อนขนาดนี้ คาดว่าคงเจอเรื่องเข้าจริงๆ
หานเจวี๋ยนิ่วหน้า
หรือจะแสร้งทำ
เพ่ย!
จะได้แสดงอำนาจต่อหน้าผู้คนแล้ว!
หานเจวี๋ยเลือกยอมรับการเข้าฝัน
ในแดนความฝัน ฉู่ซื่อเหรินบอกเล่าสถานการณ์ปัจจุบันทันที
“อาจารย์ปู่! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการหมายตาศิษย์แล้วขอรับ!”
สีหน้าหานเจวี๋ยสงบราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้สึกพูดไม่ออกยิ่งนัก
จอมเทพข่งเซวี่ยมีปัญหาทางจิตหรืออย่างไร
ผู้เฒ่าสั่งให้เจ้าเสาะหาสถานที่ปิดด่านไม่ใช่หรือ ไม่น่าเชื่อว่าจะอ้างชื่อข้าเที่ยวระรานคนอื่นไปทั่ว!
หานเจวี๋ยเริ่มลังเล
หากลงมือกับจอมเทพข่งเซวี่ยตรงๆ จะไม่แปลว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการหรอกหรือ
“ข้าจะหาวิธีจัดการ”
หานเจวี๋ยเอ่ยประโยคนี้ทิ้งไว้ แล้วสิ้นสุดแดนความฝัน
เขาลืมตาขึ้นมองออกไปในฟ้าบุพกาล ในไม่ช้าก็จับพิกัดเงาร่างของจอมเทพข่งเซวี่ยและพุทธสัจจะยุทธได้
พวกเขาต่อสู้กันอีกแล้ว!
หานเจวี๋ยจำได้ว่าตอนจอมเทพข่งเซวี่ยมายังมรรคาสวรรค์ สองคนนี้ก็เคยสู้กัน
เขาไม่ได้ลงมือทันที แต่ชมการต่อสู้ไปเงียบๆ รอให้จอมเทพข่งเซวี่ยชนะแล้วค่อยเข้าฝัน
เพียงแต่ในครั้งแรกที่เห็น ยากจะแยกแยะได้ว่าใครเหนือกว่าใคร
นี่น่ะหรืออริยะเสรีที่ฉู่ซื่อเหรินชักจูงเข้ามา
มีความสามารถจริงๆ
หานเจวี๋ยเริ่มรับชมละคร
เมื่อเผชิญกับแสงเทพเบญจธาตุที่ตัดได้ทุกสิ่ง พุทธสัจจะยุทธไม่ได้ใช้สมบัติวิเศษหรือพลังวิเศษเลย แต่ใช้วิญญาณโจมตีจอมเทพข่งเซวี่ยอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การใช้วิญญาณของเขาโผล่มาไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้จอมเทพข่งเซวี่ยตกที่นั่งลำบากยิ่ง
มองจากการต่อสู้นี้ ยังไม่แน่ว่าจอมเทพข่งเซวี่ยจะเอาชนะได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...