บทที่ 859 มรรคาสวรรค์โฉมใหม่
“ไม่มี แล้วเจ้ายังหักอายุขัยมากขนาดนี้อีกหรือ”
หานเจวี๋ยด่าออกมาด้วยความโมโห จนใจที่ระบบก็เป็นแค่ระบบ พูดคุยกับเขาไม่ได้
เมื่อใคร่ครวญดู หานเจวี๋ยก็เข้าใจได้
อาจเป็นเพราะในใจเขานึกถึงเจ้านวฟ้าบุพกาล คำถามนี้จึงเท่ากับถามถึงเจ้านวฟ้าบุพกาลว่าสังเกตเห็นเขาหรือไม่
อืม
ได้แต่ปลอบใจตนไปเช่นนี้
อาณาเขตเต๋าแห่งที่สามสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้พลังวิญญาณจะอยู่ระหว่างยกระดับขึ้น แต่ค่ายกลป้องกันของอาณาเขตเต๋าเทียบเท่าอาณาเขตเต๋าหลัก
หานเจวี๋ยเสาะหาภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่อาณาเขตเต๋า สร้างอารามเต๋าขึ้นบนยอดเขา เป็นเรื่องง่ายๆ แค่โบกมือก็สำเร็จแล้ว
อารามเต๋าหลังนี้เหมือนกับอารามเต๋าที่อยู่ในเขตเซียนร้อยคีรีแทบทุกอย่าง เพียงแต่ด้านในไม่มีโต๊ะเตียงเครื่องเรือนเท่านั้น เป็นห้องโล่งว่าง เขานั่งขัดสมาธิบนพื้น เริ่มทำความเข้าใจห้วงจักรวาลดาราแห่งนี้
เขาลองไขว่คว้าพลังแห่งการสรรค์สร้าง
เสียเวลาไปหลายชั่วยาม หานเจวี๋ยก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจพลังแห่งการสรรค์สร้างได้ แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อนเช่นกัน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา
เขาวางแผนว่านับจากนี้ไปฝึกบำเพ็ญอยู่ในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
จะใช้อาณาเขตเต๋าแห่งที่สามเป็นสถานที่บำเพ็ญของเขา ไม่ปล่อยคนอื่นเข้ามา
เมื่อเป็นเช่นนี้เวลาจึงผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
….
ห้วงอวกาศมืดมิด เงาร่างหนึ่งกำลังพุ่งทะยานไป
เป็นนักพรตเฟิงเต้าที่พลาดท่าให้หานเจวี๋ยก่อนหน้านี้
อาณาเขตเต๋าถูกทำลาย นักพรตเฟิงเต้าจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่บำเพ็ญ เขาเดินทางอยู่ในฟ้าบุพกาลมาหลายหมื่นปีแล้ว
ดวงตาทั้งสามของนักพรตเฟิงเต้ากวาดมองไปรอบทิศ
ด้านหน้าปรากฏแสงสว่าง เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ แท้จริงคือพฤกษาใหญ่มโหฬารต้นหนึ่ง กิ่งก้านซ้อนไขว้สลับซับซ้อน ทุกกิ่งก้านล้วนมีจักรวาลแห่งหนึ่งซ้อนอยู่ ธารดาราสุกสกาวดั่งวังน้ำวน เมื่อทอดสายตากวาดมอง บนต้นไม้มีจักรวาลอย่างน้อยสิบล้านแห่ง ทุกห้วงจักรวาลเต็มไปด้วยดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน
ต้นฝูซัง!
หนีออกจากมรรคาสวรรค์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ต้นฝูซังหาได้เป็นเช่นในอดีตไม่ รอบกายแผ่กลิ่นอายแห่งกาลเวลาอันเก่าแก่ออกมา ใต้ต้นมีอุกกาบาตมากมายรวมตัวกันอยู่ มีเค้าว่าจะก่อตัวเป็นผืนแผ่นดินรางๆ แล้ว
นักพรตเฟิงเต้าเหาะเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่อนลงเบื้องหน้าต้นฝูซัง
เขาพิจารณาดูต้นฝูซัง ท่าทางใช้ความคิดไอรีนโนเวล
ลำต้นของต้นฝูซังสั่นไหวนิดๆ กระวนกระวายอย่างคาดไม่ถึง
“ต้นไม้น้อย ไม่ต้องกังวล ข้าจะฝึกบำเพ็ญอยู่ใกล้ๆ เจ้า ทำความเข้าใจกฎแห่งห้วงมิติและกาลเวลาของเจ้า หากมีผู้รุกราน ข้าจะช่วยเจ้าเอง”
นักพรตเฟิงเต้าเปิดปากเอ่ย เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่สนใจต้นฝูซังอีก ร่อนลงบนอุกกาบาตมหึมาลูกหนึ่งที่อยู่ใต้ต้น ก่อนเริ่มนั่งสมาธิฝึกบำเพ็ญ
ต้นฝูซังสงบลง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ต้นฝูซังไม่เคยพูดออกมาเลย
….
เวลาผันผ่านไป ระยะเวลาสองแสนปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มรรคาสวรรค์ปรับโฉมใหม่แล้ว เส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาลสายที่สามอยู่ระหว่างก่อสร้าง บุตรแห่งสวรรค์นับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้นในแดนเซียน แม้แต่โลกมนุษย์ธรรมดาก็เริ่มผงาดขึ้นมาเช่นกัน โลกแยกนภาที่อยู่ในลำดับแรกก็ไม่ด้อยไปกว่าแดนเซียนในช่วงที่มรรคาสวรรค์เริ่มต้นใหม่เลย
ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม หน้าอาณาเขตเต๋าทุกแห่งของอริยะล้วนมีเงาร่างของผู้แสวงมรรค คึกคักอย่างยิ่ง และไม่ต้องกลัวจะไปรบกวนอริยะเลย เนื่องจากเหล่าอริยะล้วนบรรลุรู้แจ้งยิ่ง หากต้องการปิดกั้นเสียงจากภายนอกแค่คิดก็ทำได้แล้ว
ภายในวังปู้โจว หานอวี้ หลงเฮ่าและฉินหลิงกำลังนั่งสนทนากันอยู่
หลงเฮ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ระยะนี้มรรคาสวรรค์มีบุตรแห่งสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นไม่น้อยเลย ดูเหมือนจอมอริยะเตรียมการจะผลักดันสิบยอดปราชญ์บรรพกาลออกมาแล้ว พวกเจ้าไม่ไปรับศิษย์กันหรือ”
หานอวี้เอ่ยว่า “ไม่จำเป็น ข้าชอบความสงบ”ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
ฉินหลิงฉีกยิ้มพลางกล่าวว่า “อาจารย์ปู่มีข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ส่วนตัวข้า ชนรุ่นหลังเหล่านั้นล้วนไม่เข้าตา เป้าหมายของข้าสูงส่งกว่านั้น ไม่ต้องการเป็นแค่อริยะ ข้าต้องการเจริญรอยตามอริยะสวรรค์เกรียงไกร!”
หลังจากสำเร็จอริยะ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ในช่วงที่เขาฝ่าเคราะห์ผู้ทรงศักดิ์ที่เขาพบในวังเทพก็คืออริยะสวรรค์เกรียงไกร ทุกครั้งที่เขานึกถึงขึ้นมา ในใจล้วนอบอุ่นยิ่ง
อริยะสวรรค์เกรียงไกรมีฐานะระดับใดเล่า อยู่ในตำแหน่งไหนแล้ว ยังปลีกตัวจากภาระอันยุ่งเหยิงมาดูแลเขาอีก เช่นนี้คือการให้ความสำคัญไม่ใช่หรือ
ฉากที่หานเจวี๋ยพิฆาตสองหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ในกระบี่เดียวยังคงส่งผลต่อเขามาจนถึงปัจจุบันนี้ กระตุ้นให้เขามานะฝึกบำเพ็ญ พยายามไล่ตามรอย
“อาศัยแค่ตัวเจ้า คิดจะไล่ตามท่านอาจารย์ของข้าอย่างนั้นหรือ” หลงเฮ่าส่ายหน้าหลุดหัวเราะออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...