อ่านสรุป บทที่ 87 ประมุขมาร การท้าสู้ของเซียวเหยา จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 87 ประมุขมาร การท้าสู้ของเซียวเหยา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บุตรแห่งสวรรค์คนแรกของจวนเซียนสวรรค์เมื่อห้าพันปีก่อน!
ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของสำนักเมฆาบรรพกาล!
ดวงตาทั้งคู่มืดบอดเพราะถูกสวรรค์ลงโทษ!
อักขระเพียงแค่แถวเดียวก็ทำให้หานเจวี๋ยได้กลิ่นของคำว่าสุดยอดแล้ว
ประสบการณ์ชีวิตระดับนี้ กลับไม่ใช่ผู้ที่มีดวงชะตาแต่กำเนิด
หานเจวี๋ยเอ่ยปากถามว่า “ท่านเคยได้ยินชื่อสำนักเมฆาวิญญาณหรือไม่”
หลี่ชิงจื่อเอ่ยตอบ “เคยได้ยิน ว่ากันว่าเป็นสำนักใหญ่เมื่อห้าฟันปีก่อน แต่ว่าได้ล่วงเกินเทพเซียนเข้า สวรรค์จึงประทานเคราะห์ร้าย พินาศย่อยยับทั้งสำนัก ผู้อาวุโสหาน ท่านถามถึงสำนักเมฆาวิญญาณด้วยเหตุใดกัน หรือซากบรรพกาลที่เราค้นพบก็คือสำนักเมฆาวิญญาณ?”
หานเจวี๋ยพยักหน้ากล่าว “ข้าพอจะเข้าใจการคำนวณอยู่บ้าง คนผู้นี้มีนามว่าเซียวเหยา มาจากสำนักเมฆาวิญญาณ”
พอได้ยินเช่นนี้หลี่ชิงจื่อก็เบิกตาโต สูดหายใจเย็นยะเยือก
เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเซียวเหยามาก่อน แต่สำนักเมฆาวิญญาณเคยได้ยินมาบ้าง
“เช่นนั้นตอนนี้ควรทำอย่างไร สละซากบรรพกาลแห่งนั้นหรือ” หลี่ชิงจื่อถามอย่างระแวดระวัง
ตอนนี้เขากลัวว่าจะสร้างบ่อเกิดแห่งภัยพิบัติอย่างไม่มีเค้ามูล หวังเพียงสำนักหยกพิสุทธิ์สามารถดำเนินไปได้อย่างสงบสุข เพียงแค่ให้เวลาสำนักหยกพิสุทธิ์ ไม่ว่าช้าหรือเร็วก็สามารถยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ และกลายเป็นสำนักใหญ่อย่างสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตและสำนักไร้ลักษณ์
หานเจวี๋ยตอบกลับ “แล้วแต่ท่านเถิด หากประสบกับการประณามของสวรรค์ได้ง่ายเพียงนั้น ภัยพิบัติคงมาเยือนนานแล้วข้าคิดว่า เพียงแค่ไม่ให้สำนักเมฆาวิญญาณปรากฏตัวในโลกมนุษย์อีกครั้งก็พอ สมบัติไม่มีความผิด”
หลี่ชิงจื่อพยักหน้า ให้เขาคายทรัพยากรเหล่านั้นออกมาก็ยาก อย่างไรเสียระดับผู้อาวุโสก็แบ่งกันไปไม่น้อยแล้ว
“ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจเซียวเหยา ปฏิบัติให้เขาอยู่ดีกินดี แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน” หานเจวี๋ยกล่าว
หลี่ชิงจื่อไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ตอนที่ได้ยินว่าเซียวเหยามาจากสำนักเมฆาวิญญาณ ปฏิกิริยาแรกของเขาคือขับไล่เซียวเหยา
ทว่าพอนึกดูอีกที เขาก็สู้เซียวเหยาไม่ได้ แล้วจะขับไล่อย่างไร
ไม่นานหลี่ชิงจื่อก็จากไป
หานเจวี๋ยเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบต่อสู้กับเซียวเหยา
สิบวินาทีต่อมา
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เจ้านี่มีของอยู่บ้างนี่ พลังวิเศษต่ำทรามเกินไปแล้ว” หานเจวี๋ยกล่าวพึมพำ
คิดไม่ถึงว่าเซียวเหยาจะเป็นพลังวิเศษแยกร่าง ครู่เดียวก็สามารถแยกได้หลายหมื่นร่าง ทำให้หานเจวี๋ยไม่สามารถสังหารเขาได้ภายในหนึ่งวินาที
สามารถรับมือหานเจวี๋ยได้นานเกินสิบวินาที นับว่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่งมาก
หานเจวี๋ยจำลองการทดสอบต่อไป
เขาต้องหาวิธีการสังหารเซียวเหยาให้ได้ภายในหนึ่งวินาที
ให้ความรู้สึกหมือนกับการสังหารสัตว์ประหลาดเพื่อหากลยุทธ์ หานเจวี๋ยรู้สึกมีความสุขมาก
ชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็หาวิธีสังหารเซียวเหยาได้ภายในหนึ่งวินาที เพียงแค่ต้องเร็วกว่าเจ้าหมอนี่ก็พอแล้ว
แต่ว่าพอเซียวเหยาปล่อยพลังวิเศษแยกร่างออกมา มันช่างน่าขยะแขยงเสียจริง
หลังจากหานเจวี๋ยเข้าใจพลังที่แท้จริงของเซียวเหยา เขาก็รู้สึกสนใจเซียวเหยามากขึ้นกว่าเดิม
หากผู้แข็งแกร่งระดับนี้เข้าร่วมสำนักหยกพิสุทธิ์ เช่นนั้นเขาก็สามารถฝึกฝนได้อย่างสบายใจ
ไม่นาน หานเจวี๋ยก็เปิดดูจดหมายในค่าความสัมพันธ์
[ซูฉีศิษย์ของท่านถูกประมุขมารจับเป็นเชลย]
[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของประมุขมารและลูกหลานของเขาตกต่ำ]
[หยางเทียนตงศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีของสัตว์ปีศาจ] x3872
[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของสัตว์ร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีหลุดรอดมาได้]
[โจวฝานสหายของท่านรู้แจ้งพลังวิเศษในชาติก่อน พลังเพิ่มพูน]
[กวนโยวกังสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x2
[ไก่คุกรัตติกาลสัตว์เลี้ยงเทพของท่านกลืนกินสัตว์เทพจูโต้ว สายเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง ได้รับดวงชะตาภัยพิบัติ]
[นักพรตเต๋าชิงเสียนสหายของท่านเผชิญกับการของโจมตีของผู้บำเพ็ญสายหลัก] 5823
……
นักพรตเต๋าชิงเสียนมาจากสำนักสวรรค์เพลิงโลหิต เผชิญกับการโจมตีจากคนจำนวนมากเช่นนี้ ดูท่าสำนักสวรรค์เพลิงโลหิตคงจะเปิดศึกกับสำนักไร้ลักษณ์แล้ว
ซูฉีกับหยางเทียนตงเองก็ประสบกับปัญหา
สำหรับซูฉี หานเจวี๋ยไม่กังวลใจเลยแม้แต่น้อย
ส่วนหยางเทียนตง ชัดเจนว่าเจ้าหมอนี่ไปจากต้าเยี่ยนแล้ว ไหนเลยจะมีสัตว์ปีศาจในต้าเยี่ยนกล้าโจมตีบุตรบุญธรรมของราชาปีศาจได้
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเองก็นับว่ากรรรมตามสนอง ช่วงนี้ไม่ถูกโจมตี คาดว่าคงจะหลบรักษาตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ไม่ว่าอย่างไร อาจารย์จะต้องแอบปกป้องคุ้มครองข้าจากที่ลับ ข้าก็ไม่อาจทำให้เขาผิดหวัง
……
เวลาล่วงเลยผ่านไปรวดเร็ว
เพียงพริบตา เวลาสิบปีก็ผ่านพ้น
หานเจวี๋ยยังห่างจากระดับรวมกายาขั้นสามเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดจะทะลวงระดับรวมกายาขั้นสามรวดเดียวแล้วค่อยพัก แต่ต้นฝูซังเริ่มสั่นไหวขึ้นมา
การสั่นไหวในครั้งก่อนดึงดูดสัตว์เทพจูโต้ว ครั้งนี้จะดึงดูดอะไรเข้ามาอีก
หานเจวี๋ยอดกังวลไม่ได้
เป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่ใช่วิธีการที่ดี
ควรทำอย่างไรดี
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงไก่คุกรัตติกาลขึ้นมา
หากให้ไก่คุกรัตติกาลครอบครองต้นฝูซัง วิหคปีศาจและสัตว์เทพอื่นๆ ก็คงจะไม่มาอีก?
หานเจวี๋ยรีบสั่งให้ไก่คุกรัตติกาลย้ายไปบนต้นฝูซัง
หลังจากกินจูโต้วไปแล้ว ตบะของไก่คุกรัตติกาลก็เพิ่มพูนไปจนถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นเก้า ห่างจากระดับสุญตาแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น
นี่มันสูตรโกงชัดๆ!
แต่พอคิดดูอย่างละเอียดมันก็ถูก จูโต้วอาจจะเป็นสัตว์เทพ ร่างเดิมของไก่คุกรัตติกาลเองก็เป็นเทพปีศาจบนสวรรค์ที่กลับชาติมาเกิด
หลังจากไก่คุกรัตติกาลได้รับคำสั่งแล้วก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด กระทั่งยังรู้สึกตื่นเต้นมากเสียด้วยซ้ำ มันบินไปบนต้นฝูซังอย่างรวดเร็ว และนั่งอยู่บนกิ่งไม้ราวกับไก่ตัวผู้ฟักไข่
หลายวันต่อมา ต้นฝูซังไม่สั่นไหวอีก หานเจวี๋ยถึงรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังจะฝึกฝนต่อ เขาพลันจับกลิ่นอายพลังได้สายหนึ่ง ซึ่งนั่งคอยอยู่ตรงหน้าแผ่นศิลาตรงตีนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน
ตาบอดเซียวเหยา!
หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่งกระแสเสียงเอ่ยถาม ‘สหายเต๋ามีเรื่องอันใดหรือ’
ผมของเซียวเหยาเป็นสีดอกเลา แต่ใบหน้ากลับอ่อนเยาว์ ราวกับมีอายุประมาณสามสิบปี หนังตาดำเกรียม แห้งเหี่ยวเว้าลึกลงไป เขาสวมชุดนักพรตเต๋าเก่าๆ และพิงร่างเข้ากับแผ่นศิลาราวกับกำลังงีบหลับ
พอได้ยินกระแสเสียงของหานเจวี๋ย เขาก็บิดกายขี้เกียจ ค่อยๆ ลุกขึ้นมากล่าว “เจ้าสำนักของพวกท่านเชิญข้าเข้าร่วมสำนักมาโดยตลอด ข้าอยู่ในสำนักหยกพิสุทธิ์มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ท่านคงเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพที่แข็งแกร่งที่สุดกระมัง อยากให้ข้าเข้าร่วมสำนักหยกพิสุทธิ์ย่อมได้ หากท่านสามารถช่วยสำนักหยกพิสุทธิ์รับฝ่ามือข้าได้หนึ่งมือ ข้าจะเข้าร่วมสำนักหยกพิสุทธิ์”
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...