บทที่ 878 เทวทัณฑ์หวนถิ่น
หลังออกจากชั้นฟ้าที่สามสิบสาม พวกหานเจวี๋ยอยู่ในอาณาเขตเต๋าหลักได้ไม่นานก็เคลื่อนย้ายไปยังอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
“ไม่ได้กลับมาเสียนาน ข้าเกือบจะลืมที่นี่ไปเสียแล้ว บ้านตัวเองยังคงดีที่สุด” หานชิงเอ๋อร์เดินออกจากอารมเต๋า บิดขี้เกียจคราหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าถวิลหา
ชิงหลวนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างป้องปากยิ้ม “แล้วเจ้าจะเสียใจที่เอ่ยประโยคนี้”
หานชิงเอ๋อร์ “เพราะเหตุใดเจ้าคะ”
ชิงหลวนเอ๋อร์กล่าวอย่างสะท้อนใจ “จากนี้ท่านพ่อของเจ้าจะปิดด่านแล้ว”
“ปิดด่านก็ปิดไปสิเจ้าคะ”
“หมายความว่าเจ้าจะไม่ได้ออกไปไหนอีก”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ รอท่านพ่อสิ้นสุดการปิดด่านค่อยพาข้าออกไปก็ได้”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาปิดด่านนานแค่ไหน”
“จะนานสักแค่ไหนกันเจ้าคะ ช้าก่อน! ท่านแม่ ความหมายของท่านคือท่านพ่อจะปิดด่านนานมากหรือเจ้าคะ นานแค่ไหนกัน ร้อยปี พันปี เป็นไปไม่ได้กระมัง”
หานชิงเอ๋อร์หน้าซีดทันที
ตอนอยู่ในแดนเซียนนางพบพานผู้บำเพ็ญมากมาย เมื่อผู้บำเพ็ญเอ่ยถึงผู้ทรงพลัง ล้วนกล่าวกันว่าผู้ทรงพลังปิดด่านหนึ่งครั้ง กินเวลาเป็นพันปี
ถึงแม้หานชิงเอ๋อร์จะเพิ่งกลับมา แต่นางยังคงคาดหวังตั้งตาไปแดนเซียนอีกยิ่งนัก ตอนแรกนางคิดอยู่ว่า หลังจากฝึกบำเพ็ญอยู่ในบ้านไปสักระยะค่อยออกไปท่องแดนเซียนเพียงลำพังก็ได้
ไม่มีบิดามารดาไปด้วย นางก็ยิ่งมีอิสระ และยิ่งน่าตื่นเต้น
ชิงหลวนเอ๋อร์ส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา รอยยิ้มลึกลับ
หานชิงเอ๋อร์ตกใจแล้ว
หรือจะไม่ใช่แค่พันปี
“เอาล่ะ เจ้าไปหาเหล่าศิษย์ในอาณาเขตเต๋าเถอะ อีกไม่กี่วัน เจ้าก็ต้องเริ่มฝึกบำเพ็ญได้แล้ว เมื่อถึงเวลาข้าจะมาสอนเจ้าฝึกบำเพ็ญ” ชิงหลวนเอ๋อร์ลูบศีรษะนาง ยิ้มอย่างรักใคร่เอ็นดู จากนั้นก็เดินไปหาสิ่งมีชีวิตนับร้อยที่อยู่ใต้ต้นไม้ไกลออกไป
สิบปีผ่านไป สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังคงอยู่ในร่างเด็กชายเด็กหญิงอยู่
หานชิงเอ๋อร์ถูกพวกเขาดึงดูดความสนใจแล้ว ไม่คิดเลยว่าผ่านไปนานขนาดนี้ พวกเขาจะยังเป็นเด็กน้อยเช่นนั้นอยู่
นางวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหาทันที
อีกด้านหนึ่ง
ภายในอารามเต๋า หานเจวี๋ยเริ่มฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสิบปี เขารู้สึกว่านานยิ่งกว่าปิดด่านหลายแสนปีนัก เมื่ออยู่ระหว่างปิดด่าน จิตรับรู้ของเขาจะจมดิ่ง เวลาผันผ่านไปเร็วยิ่ง แต่ในช่วงสิบปีมานี้ เขาพาลูกเมียท่องเที่ยวอยู่ตลอด พบปะพูดคุยกันอยู่ทุกวัน ย่อมรู้สึกว่ายาวนานเชื่องช้า
หากหยุดฝึกบำเพ็ญนานเกินไป หานเจวี๋ยจะรู้สึกอึดอัด
เขากลัวว่าตัวเองจะหย่อนยาน
เขารักษามาตรฐานการฝึกบำเพ็ญมาตลอด มิเช่นนั้นต่อให้บรรลุถึงระดับยอดผู้แข็งแกร่งแล้ว ก็อาจจะพลาดท่าได้
นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตำแหน่งยอดผู้แข็งแกร่งไม่ทราบว่าผลัดเปลี่ยนคนครอบครองไปมากเพียงใด เมื่อยอดผู้แข็งแกร่งชะล่าใจ มักมีชนรุ่นหลังผงาดขึ้นมาเสมอ
เหมือนหานเจวี๋ยในปัจจุบันนี้ ปิดด่านไปส่งๆ หนึ่งแสนปี หากเปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญที่มีคุณสมบัติแกร่งกล้าสักคน ผ่านไปหนึ่งแสนปีจะผงาดขึ้นมา เมื่อผ่านไปทุกๆ หนึ่งแสนปี อาจจะมีบุคคลที่เป็นเช่นเดียวกับผานกู่ปรากฏตัวขึ้น
หลังจากหานเจวี๋ยคิดได้เช่นนี้ มรรคจิตก็สงบมั่นคง
ในส่วนลึกของวิญญาณ ความเร็วในการขยายตัวของโลกอนธการเร็วยิ่งขึ้น
….
ภายในตำหนักหลังหนึ่ง นักพรตเต๋าเสินเผามองเงาร่างคนห้าคนที่อยู่ห้องโถง สีหน้ามืดครึ้มปนเป
ห้าเทวทัณฑ์!
หานทั่วที่สวมชุดเกราะสีเงินจ้องมองนักพรตเต๋าเสินเผา เอ่ยถาม “เมื่อพวกเรามา เจ้าน่าจะทราบแล้ว”
อี๋เทียนมีสีหน้าเยาะหยันยิ่ง
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งห้าเทวทัณฑ์ ท่าทีของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ไม่มีดวงจิตมหามรรคกล้าต่อปากต่อคำกับพวกเขา หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ล้วนเหลิงกันได้ทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอี๋เทียนที่นิสัยพื้นฐานก็จองหองอยู่แล้วด้วยเลย
“ทราบแล้ว ข้าไม่คิดจะขัดขวางทุกท่าน” นักพรตเต๋าเสินเผาเอ่ยขึ้น
เขาได้แต่สะท้อนใจอยู่ภายในใจ นายท่านเลิศล้ำโดยแท้
แม้แต่บุตรชายก็กลายเป็นเทวทัณฑ์แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...