บทที่ 924 สิ่งมีชีวิตแรกแห่งอนธการ
“พอเปิดประตูบานนี้ ข้าจะกลายเป็นอริยะมหามรรคแล้ว!”
ดวงตาเทพมารขุนพลสวรรค์ส่องประกายแวววาว กลิ่นอายดุดัน ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นมนุษย์ ทว่ากลับแผ่กลิ่นอายของสัตว์ร้ายยุคบรรพกาลออกมาจากร่าง
เขามาถึงหน้าประตูมหามรรค สองมือแตะลงบนประตู เริ่มทุ่มพลังดันเปิด
พลังขุนพลสวรรค์อันเผด็จการระเบิดออกมา สั่นสะเทือนประตูแห่งมหามรรคแล้ว
“หืม ไม่คิดเลยว่าในฟ้าบุพกาลยังซุกซ่อนเทพมารฟ้าบุพกาลก่อนกำเนิดฟ้าเอาไว้ด้วย!”
น้ำเสียงคลางแคลงแปลกใจเสียงหนึ่งแว่วขึ้นมา เทพมารขุนพลสวรรค์ได้ฟังก็ขมวดคิ้ว
เขานึกไม่ถึงเลยว่าในช่วงที่ตนกำลังฝ่าทะลวงจะถูกคนอื่นพบเห็นเข้า
หรือว่าที่นี่มิใช่ห้วงจิตรับรู้ของเขา
แต่เป็นมิติสำหรับฝ่าทะลวงที่คงอยู่อย่างเป็นเอกเทศ
“สหายเต๋า คนผู้นี้คือสหายของข้า ไว้หน้าสักครั้งเถอะ!”
มีอีกเสียงดังขึ้นมาจากหลังบานประตูมหามรรค เป็นหานฮวง
เมื่อได้ยินเสียงของหานฮวง เทพมารขุนพลสวรรค์มีสีหน้าแปลกใจ
เด็กคนนี้พิสูจน์มหามรรคได้ก่อนอย่างนั้นหรือ
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ข้าเพียงนึกสงสัยเท่านั้น รบกวนแล้ว”
เสียงลึกลับนั้นหัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็หายไป
เทพมารขุนพลสวรรค์ทุ่มพลังทั้งหมดผลักเปิดประตูมหามรรค เวลาผ่านไปหลายสิบลมหายใจ ประตูมหามรรคถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ พลังเวทของเขาพลันเพิ่มขึ้นฉับพลัน
เขารีบก้าวผ่านประตูเข้าไป มองเห็นหานฮวงกำลังรอคอยเขาอยู่ท่ามกลางความมืด สีหน้ายิ้มแย้ม
เทพมารขุนพลสวรรค์เอ่ยถาม “เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น”
หานฮวงเอ่ยยิ้มๆ “ไม่มีอะไร มีข้าอยู่ ไม่มีผู้ใดทำร้ายเจ้าได้”
เทพมารขุนพลสวรรค์ได้ฟังพลันกระจ่างขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะประสานหมัดกล่าวว่า “ขอบคุณ”
“พี่น้องร่วมสำนักกันทั้งนั้นจะมาขอบคุณอันใดเล่า เจ้าปรับตบะให้มั่นคงก่อนเถิด แล้วพวกเราค่อยคุยกันทีหลัง”
“ได้!”
เทพมารขุนพลสวรรค์หลับตาลง เริ่มรับรู้พลังแห่งอริยะมหามรรค
หานฮวงยิ้มหน้าบาน
ในที่สุดก็มีคู่ซ้อมแล้ว!
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะประลองกับเทพมารขุนพลสวรรค์ในแบบจำลองการทดสอบสักสามหมื่นรอบ!
….
ภายในอารามเต๋า
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ม่านตาสีแดงมีประกายแสงวาบขึ้นมา
ในที่สุดโลกอนธการของเขาก็มีเทพมารฟ้าบุพกาลถือกำเนิดขึ้นจากปราณเทพมารกลุ่มหนึ่งแล้ว เทพมารฟ้าบุพกาลที่เกิดจากผสานรวมกับศิลาก่อวิญญาณถูกเขาเคลื่อนย้ายออกจากโลกอนธการแล้ว นี่หมายความว่าเทพมารฟ้าบุพกาลตนใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นนี้เป็นสิ่งมีชีวิตก่อนกำเนิดฟ้าตนแรกในโลกอนธการ!
เทพมารถือกำเนิด!
เทพมารที่เป็นตัวแทนของชีวิต!
นี่คือกุญแจสำคัญอีกก้าวหนึ่งที่จะทำให้โลกอนธการกลายเป็นความจริง!
เทพมารชีวิตที่เพิ่งก่อกำเนิดขึ้นขดตัวอยู่ในมุมหนึ่ง กำลังดูดซับปราณอนธการไปตามสัญชาตญาณ ไม่ได้คิดจะสำรวจดูรอบข้างเลย
การถือกำเนิดของเทพมารชีวิต ทำให้โลกอนธการขยายตัวออกไปหลายเท่าอีกครั้ง จากนั้นหานเจวี๋ยรับรู้ได้ถึงมหามรรคแห่งชีวิตที่ปรากฏขึ้นในโลกอนธการ กลายเป็นกฎเกณฑ์แรกที่บัญญัติขึ้นในฟ้าบุพกาล
รอจนปราณเทพมารที่เหลือล้วนให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมา คาดว่าโลกอนธการคงสมบูรณ์แบบแล้ว ตบะของหานเจวี๋ยก็คงเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันไปพร้อมกัน
หานเจวี๋ยอารมณ์ดีอย่างยิ่ง
เขาค้นพบเส้นทางบำเพ็ญที่ถูกต้องแล้ว
รอจนโลกอนธการเติบโตไปถึงจุดเดียวกับฟ้าบุพกาล เขาก็สามารถอาศัยจุดนี้พิสูจน์ผู้สร้างมรรคาได้กระมัง
มีความเป็นไปได้สูง!
บางทีเจ้านวฟ้าบุพกาลก็อาจจะพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาด้วยวิธีนี้
อย่างไรก็ตามผู้สร้างมรรคาอีกสี่รายเล่า
หรือว่าต่างมีโลกของตนอยู่เช่นกัน
ช้าก่อน!
หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่สนใจฟ้าบุพกาลเลย
เช่นเดียวกับหานเจวี๋ย ต่อให้ฟ้าบุพกาลล่มสลายไปก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน
หานเจวี๋ยคิดว่ามีความเป็นไปได้จริงๆ ไอรีนโนเวล
เขาคาดเดาพลางจับตามองเทพมารชีวิตไปด้วย
เขาสามารถเร่งเวลาในโลกอนธการได้ แต่กลัวว่าเทพมารชีวิตจะแข็งแกร่งมากเกินไป ทำให้ปราณอนธการของเขาตอบสนองไม่ทัน ดังนั้นจึงตัดสินใจทำให้เวลาโลกอนธการเท่ากับฟ้าบุพกาล
สามารถปรับเวลาให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ แต่พลังกลับยังคงที่
ความเร็วของปราณอนธการที่เกิดขึ้นในโลกอนธการไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา
หลายวันต่อมา หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เริ่มตรวจดูกล่องจดหมาย
[จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสหายของท่านได้รับการชี้ทางเบิกปัญญาจากผู้ทรงพลังลึกลับ ตบะเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...