อ่านสรุป บทที่ 991 ท้าทายสุดยอดผู้แข็งแกร่ง จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 991 ท้าทายสุดยอดผู้แข็งแกร่ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 991 ท้าทายสุดยอดผู้แข็งแกร่ง
“ในเมื่อเข้าร่วมทั้งทีย่อมต้องทุ่มสุดกำลัง”
ฉู่ซื่อเหรินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงสบายๆ
มู่หรงฉี่หัวเราะเสียงดังกล่าวไปว่า “หวังว่าจะไม่มาเจอกับข้าเร็วเกินไป มิเช่นนั้นเจ้าจะแพ้อย่างน่าเวทนายิ่ง”
ฉู่ซื่อเหรินก็หัวเราะเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันนี้
อีกด้านหนึ่งของคุกมารพยาบาท หวงจุนเทียนพาบุตรแห่งสวรรค์ของกลุ่มมิ่งจำนวนสิบกว่าคนมุ่งหน้าไป
บุตรแห่งสวรรค์คนหนึ่งเอ่ยถาม “เจ้าชะตา พวกเราต้องรอหรือไม่ ข้ารู้สึกว่าด่านนี้ค่อนข้างง่ายเกินไป คาดว่าด้านหน้าต้องมีอันตรายที่ยากจะคาดเดาได้รอพวกเราอยู่”
หวงจุนเทียนเอ่ยว่า “หากว่าเป็นแต่ก่อนย่อมต้องระมัดระวังเอาไว้ แต่ครั้งนี้ไม่จำเป็น พวกเจ้าติดตามอยู่ด้านหลังข้าก็พอ ข้าจะผ่านด่านเป็นคนแรกให้ได้!”
เสื้อคลุมเขาปลิวไสว เรือนผมยาวแผ่พลิ้ว พลังแกร่งกล้าทรงอำนาจแผ่กระจายออกมา
เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ของกลุ่มมิ่งตะลึงงัน ทว่าไม่กล้าทักท้วง ตอนอยู่ในกลุ่มมิ่ง หวงจุนเทียนพูดจามีน้ำหนักยิ่ง หากเขาสั่งการลงไปย่อมไม่มีผู้ใดทัดทานได้
กลุ่มหวงจุนเทียนมุ่งหน้าไปรวดเร็วปานใดกันเล่า ผ่านไปไม่เท่าไรก็พบกับมารพยาบาท
มารพยาบาทนับไม่ถ้วนรออยู่ที่สุดขอบฟ้า บ้างก็ลอยอยู่กลางอากาศ บ้างก็คุดคู้อยู่บนพื้น เรียงรายเนืองแน่น พอรวมตัวกันแล้วทำให้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันแกร่งกล้า
เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ของกลุ่มมิ่งเห็นแล้วหนังตากระตุกยิกๆ ขึ้นมา
มารพยาบาทเป็นสีแดงดำทั้งร่าง รูปร่างแปลกพิสดารเช่นใดล้วนมีทั้งสิ้น ขนาดแตกต่างกันไป ไอพยาบาทและเจตนาสังหารเหล่านั้นทำให้อุณหภูมิในโลกค่อยๆ ลดต่ำลงจนถึงจุดเยือกแข็ง ทำให้วิญญาณคนสั่นสะท้าน
ทว่าหวงจุนเทียนไม่ชะลอความเร็วเลย มุ่งตรงไปด้านหน้า อักขระสีดำแถวแล้วแถวเล่าผุดขึ้นมาบนใบหน้าเขา นั่นคือพลังแห่งผู้กำหนดชะตาเคราะห์ อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามรรค!
หวงจุนเทียนเปิดศึกแรกระหว่างบุตรแห่งสวรรค์และมารพยาบาทขึ้นแล้ว!
….
ภายในห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา
“เขาคือผู้ใด แข็งแกร่งนัก!”
“เจ้าชะตาหวงจุนเทียน เจ้าไม่รู้จักหรือ”
“เจ้าชะตาก็ยังอายุไม่ถึงร้อยล้านปีหรือ นี่…”
“ฮ่าๆๆ อริยะสวรรค์เกรียงไกรก็เพิ่งอายุสิบล้านปีเท่านั้น หากว่าเขาเข้าร่วมด้วย ตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุคก็ไร้ความหมายแล้ว”
“ก็จริง ขอเพียงแข็งแกร่งมากพอก็สามารถหลุดพ้นจากสมญาบุตรแห่งสวรรค์ได้ บุตรแห่งสวรรค์นับว่าอยู่ระหว่างเจริญเติบโตเท่านั้น”
“เช่นนั้นหานฮวงเล่า เขาก้าวข้ามอริยะมหามรรคไปแล้ว”
เหล่าผู้ทรงพลังพากันพูดคุยวิจารณ์ หวงจุนเทียนเปรียบเสมือนกระบี่คมเล่มหนึ่งที่ถูกชักออกมาฟาดฟันเหล่ามารพยาบาท พุ่งทะยานไปไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้
เทพมหาทัณฑ์มองหานเจวี๋ย เอ่ยขึ้นว่า “หวงจุนเทียนก็มาจากมรรคาสวรรค์เช่นกัน ภาพจำที่อริยะสวรรค์มีต่อเขาเป็นเช่นใดหรือ”
หานเจวี๋ยตอบว่า “หากว่ากันไปแล้ว ข้าเคยรู้จักเขาตั้งแต่สมัยยังอยู่ในโลกมนุษย์ ข้าสัมผัสได้ถึงความแน่วแน่ของเขา เขาต่างไปจากในกาลก่อนแล้ว คาดว่าครั้งนี้คงพุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุค”
เทพมหาทัณฑ์ตกอยู่ในห้วงความคิด
หานหลิงเอ่ยกระซิบ “ท่านพ่อ บนกายเขามีพลังบางอย่างเจ้าค่ะ”
หานเจวี๋ยตอบรับ เขาย่อมทราบดี
อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค
กฎเกณฑ์สูงสุดปกครองอยู่เหนือมหามรรค ต้องแข็งแกร่งแน่นอน
อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคแข็งแกร่งกว่าหรือว่ามหาโชคจะแข็งแกร่งกว่า ตอนนี้ยากจะบอกได้
มหาโชคแตกต่างหลากหลาย ไม่อาจสรุปยืนยันได้
ด้วยการนำของหวงจุนเทียน เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ของกลุ่มมิ่งรวดเร็วมากจนไม่อาจต้านทานได้ ไม่นานนักก็ก็ฝ่าวงล้อมหนาแน่นออกมาได้ มุ่งหน้าไปที่ใจกลางของคุกมารพยาบาทต่อ ด้านหลัง ยังมีมารพยาบาทรอคอยพวกเขาอยู่
ในเวลาเดียวกันนี้ มีบุตรแห่งสวรรค์เริ่มเข้าปะทะกับมารพยาบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนโดดเด่นฉายแสงขึ้นมา แสดงความแข็งแกร่งให้เห็น บางคนประมาทเลินเล่อ ล้มเหลวพลาดท่าลงด้วยเหตุนี้
ระยะเวลาหนึ่งเดือนยาวนานนัก บุตรแห่งสวรรค์ส่วนใหญ่ยังคงสังเกตการณ์อยู่ ไม่รีบร้อนลงมือ
ทว่าผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน
มีผู้ผ่านด่านคนแรกปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
เจ้าชะตา หวงจุนเทียน!
ไม่ใช่แค่ตัวเขาที่ผ่านด่าน บุตรแห่งสวรรค์ในสังกัดของเขาก็ผ่านด่านไปพร้อมกัน!
หลังจากผ่านด่าน พวกเขาเคลื่อนย้ายกลับมาที่เมืองทศพิธ มีดวงจิตมหามรรคมารออยู่หน้าค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้ว รับผิดชอบบันทึกลำดับ
การผ่านด่านของหวงจุนเทียนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้ทรงพลัง มีผู้ทรงพลังที่ถ่ายทอดคำสั่งในทันใด สั่งให้คนมุ่งหน้าไปชักจูงพวกหวงจุนเทียนมาเข้าพวก
ส่วนเหล่าผู้ทรงพลังรวมตัวกันอยู่ในโถงพระราชวัง ดูคล้ายจะสงบเรียบร้อยดี ทว่ากลับเกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นแล้ว
หากว่านำพฤติกรรมการติดต่อสื่อสารเป็นการส่วนตัวของพวกเขามาเปิดเผย จะคึกคักยิ่งกว่าในเมืองทศพิธเสียอีก
ทว่าหานเจวี๋ยได้ยินทั้งหมด อริยะบางส่วนสีหน้าเคร่งขรึม แต่ในบทสนทนาส่วนตัวกลับโหวกเหวกบ้าคลั่ง ทำให้เขาอยากหัวเราะออกมา
ถึงขั้นที่มีคนไม่น้อยหมายตาลูกศิษย์หลานศิษย์ของเขาด้วย
สำหรับเรื่องนี้ หานเจวี๋ยไม่ได้หงุดหงิดเลย เขาทราบดีว่าตนดูแลเหล่าศิษย์ไม่มากพอ ถึงขั้นที่ไม่สามารถใช้อำนาจอำนวยความสะดวกให้ได้ ดังนั้นปล่อยให้พวกเขาได้พัฒนาสายสัมพันธ์ของตนไปเถิด
แน่นอน ทุกอย่างนี้ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานของระดับความประทับใจ
หากว่าระดับความประทับของศิษย์คนใดคนหนึ่งลดน้อยลงจนถึงจุดที่ทำให้เขาไม่พอใจ ก็จำเป็นต้องจัดการหรือไม่ก็ค่อยใส่ใจให้มากขึ้น
เพียงแต่โชคดีที่ขณะนี้ยังไม่มีปรากฏขึ้น เหล่าศิษย์สืบทอดล้วนไม่ทำให้เขาผิดหวัง
ระยะเวลาหนึ่งเดือนของด่านแรก เส้นทางผจญมารผ่านไปรวดเร็วยิ่ง
มาถึงด่านที่สองแล้ว
ทั่วทั้งเมืองทศพิธล้วนตั้งตารอด่านที่สอง
หมื่นผู้กล้า พันองอาจ ร้อยศักดาและสิบยอดฟ้า ยิ่งไต่ระดับขึ้นไปเท่าไรก็ยิ่งร้อนแรงขึ้นเท่านั้น
“เส้นทางผจญมารในด่านแรกสิ้นสุดลงแล้ว มีบุตรแห่งสวรรค์ผ่านด่านทั้งหมดสองหมื่นเจ็ดพันสี่สิบสองคน!
“ด้านที่สองจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งปีให้หลัง บุตรแห่งสวรรค์ทั้งหมดจงเตรียมตัวให้ดี
“ด้านที่สองคือการท้าทายสุดยอดผู้แข็งแกร่ง ให้บุตรแห่งสวรรค์ทั้งหมดร่วมมือกันโจมตีอริยะสวรรค์เกรียงไกร!”
เสียงของเทพมหาทัณฑ์ดังก้องไปทั่วเมือง วินาทีต่อมาทั่วทั้งเมืองพลันเงียบสงัด
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างคิดว่าตัวเองฟังผิดไป
ท้าทายอริยะสวรรค์เกรียงไกรอย่างนั้นหรือ
ล้อเล่นอะไรอยู่
ผู้ทรงพลังทั้งหมดที่อยู่ในห้องโถงก็ตะลึงงันไปเช่นกัน จากนั้นก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา
ยอดมหามรรครายหนึ่งผุดลุกขึ้นมาด้วยความร้อนใจ เอ่ยถามว่า “ท้าทายอริยะสวรรค์เกรียงไกรเช่นนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร แล้วเช่นนี้จะจัดลำดับรายชื่ออย่างไรเล่า”
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...