“ตอนนี้สามารถรักษาให้หายได้ไหม?”
“มันสามารถรักษาให้หายได้ แต่กระบวนการรักษานั้นจะช้ามากและ…” คุณหมอเซี่ยจงใจพูดเว้นช่องว่าง เมื่อพูดถึงจุดนี้
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วและถามคุณหมอเซี่ยว่า “และ ทำไมอย่างนั้นเหรอ?”
เสียงของคุณหมอเซี่ยค่อย ๆ ดังขึ้น “เพราะภาวะซึมเศร้าส่วนใหญ่ของคุณชูเหยา นั้นเกิดจากคุณ ดังนั้น หากคุณต้องการจัดการกับภาวะซึมเศร้าของคุณชูเหยาให้หายขาด จำเป็นที่คุณจะต้องให้ความร่วมมือ”
ในใจของจี้หลิงชวน เดิมทีเขาก็รู้สึกผิดต่อชูเหยามาโดยตลอด ตอนนี้พอเขาได้ยินสิ่งที่คุณหมอเซี่ยพูด เขาขมวดคิ้วอย่างไม่ต้องสงสัยและถามต่อไปว่า “แล้วผมต้องทำอย่างไร?”
หลังจากที่คุณหมอเซี่ยได้ยินคำถามของจี้หลิงชวน คุณหมอเซี่ยก็พูดต่ออย่างเป็นธรรมชาติว่า “คุณชายจี้ มันเป็นแบบนี้เพราะความหดหู่ใจของคุณชูเหยาส่วนใหญ่เกิดจากคุณ ดังนั้นในช่วงเวลาของการรักษาคุณชูเหยา ฉันหวังว่าคุณจะดีกับเธอให้มากที่สุด และทำตามความต้องการของคุณชูเหยา และอย่าทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ”
จี้หลิงชวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณหมอเซี่ย แต่เมื่อนึกถึงตอนที่ชูเหยาทานยานอนหลับกว่าสองร้อยเม็ดเพื่อฆ่าตัวตาย จี้หลิงชวนจึงรู้สึกกลัวขึ้นมา หากว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับชูเหยาล่ะก็ เกรงว่าจี้หลิงชวนคงจะไม่ให้อภัยตัวเองเป็นแน่
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว จี้หลิงชวนจึงพยักหน้าให้กับคุณหมอเซี่ย"ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะพยายามให้ความร่วมมือกับการรักษาของชูเหยาอย่างเต็มที่"
หลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอแล้ว จี้หลิงชวนก็เดินตามคุณหมอเซี่ยกลับไปที่หน้าห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล
เมื่อจี้หลิงชวนเดินเข้าไปห้อง ก็พบว่าชูเหยาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
ซูเหยานอนอยู่ในห้องพักของผู้ป่วยด้วยใบหน้าซีดเซียว เมื่อเห็นจี้หลิงชวนเดินเข้ามา น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเต็มหน้า เธอมองไปที่จี้หลิงชวนด้วยแววตาอันน่าสงสารและพูดออกมาเบา ๆ ว่า "หลิงชวน ฉันคิดว่าคุณกลับไปซะแล้ว... "
เมื่อจี้หลิงชวนมองไปที่ชูเหยาผู้น่าสงสาร เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงอาการของ ชูเหยาในตอนนี้ จี้หลิงชวนจึงเดินเข้าไปนั่งลงที่ด้านข้างชูเหยาและพูดขึ้นว่า"เช้านี้ผมจะอยู่กับคุณที่โรงพยาบาล แต่คุณต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการรักษา”
ภาวะซึมเศร้าของชูเหยานั้นรุนแรงมาก จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติตามแนวการรักษาอย่างเคร่งครัด และตอนนี้ชูเหยาจำเป็นต้องมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อน เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ
เมื่อชูเหยาได้ฟังคำพูดของจี้หลิงชวนเช่นนั้นแล้ว ชูเหยาก็แสร้งพูดและทำตัวน่าสงสาร"หลิงชวน ฉันต้องร่วมมือกับแพทย์ในการรักษาทุกวันหรือเปล่า? แต่ฉันไม่อยากกินยา...และไม่อยากฉีดยาด้วย..."
ชูเหยาพูดจบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็หันไปมองจี้หลิงชวนและพูดขึ้นอีกครั้งอย่างระมัดระวัง "หลิงชวน คุณจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวันได้ไหม? ถ้าหากว่าฉันเชื่อฟังคุณ และยอมทำตามการรักษาของแพทย์ คุณมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวันได้ใช่ไหม ?"
ชูเหยาพูดขึ้นพลางมองดูจี้หลิงชวนที่กำลังขมวดคิ้วและไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไรออกมา เธอกลัวว่าจี้หลิงชวนจะไม่เห็นด้วย จึงรีบอธิบายต่อไปว่า"คุณไม่จำเป็นต้องอยู่กับฉันเป็นเวลานานๆหรอก ต้องการแค่วันละหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น...แค่ชั่วโมงเดียว...หลิงชวน ได้ไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...