เมื่อลู่เฉิงฮ่าวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนทั้งสองตระกูลได้มีความสนิทสนมกัน แน่นอนว่าลู่เฉิงฮ่าว ก็รู้ว่าจี้หลิงชวนยังมีคุณป้าอีกคนหนึ่ง แต่คุณป้าคนนี้มีปัญหากับคนในครอบครัวเพราะเรื่องผู้ชาย
ไม่กี่ปีต่อมา ได้ยินมาว่าเธอได้ให้กำเนิดลูกสาวหนึ่งคน แต่หลังจากได้ข่าวนี้ประมาณเดือนกว่าๆ เท่านั้น ครอบครัวตระกูลจี้ก็ได้รับข่าวมาว่าป้าคนนี้ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เนื่องด้วยเหตุการณ์นี้ ในตอนนั้นพ่อแม่ของลู่เฉิงฮ่าวจึงได้ช่วยคุณย่าของจี้หลิงชวนจัดการกับงานศพของคุณป้าจี้หลิงชวนและยังช่วยตามหาลูกน้อยที่หายตัวไปนานกว่าหนึ่งเดือนด้วย
แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับทารกคนนั้น ราวกับว่าเธอได้หายไปในอากาศ ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นหรือตาย
เรื่องก็ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไร้ข่าวคราว
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ลู่เฉิงฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่จี้หลิงชวนด้วยความประหลาดใจละถามขึ้นว่า "ไม่ จี้หลิงชวน... ความหมายของนายคือมู่ซีซีอาจเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายอย่างนั้นเหรอ?จะเป็นไปได้ยังไง? เธอไม่ใช่เป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลมู่อย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินคำพูดของลู่เฉิงฮ่าว เขาก็ยกมือขึ้นนวดๆบริเวณหว่างคิ้ว หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้น "คุณป้าของฉันมีสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกที่คุณย่ามอบให้ ตอนที่คุณป้าของฉันเสียชีวิตนั้น พวกเราไม่พบสร้อยคอที่ระลึกในตัวเธอ และมู่ซีซีก็พกสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกที่เหมือนกับของคุณป้าของฉันติดตัวเสมอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก!"
น้ำเสียงของจี้หลิงชวนหยุดไปชั่วขณะ จากนั้นก็พูดเสริมขึ้นอีกว่า “และถ้าหากลูกสาวของคุณป้ายังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ เธอก็อาจจะอายุเท่ามู่ซีซี แม้แต่วันเกิดของพวกเธอทั้งสองคนก็ดูไม่ห่างกันมาก!”
ลู่เฉิงฮ่าวขมวดคิ้วในทันทีเมื่อได้ยินคำอธิบายของจี้หลิงชวนตอนนี้จากการวิเคราะห์ มันมีความบังเอิญมากเกินไปจริงๆ
แต่เมื่อเห็นท่าทางอึดอัดใจของจี้หลิงชวนแล้ว คิดว่าถ้ามู่ซีซีเป็นลูกพี่ลูกน้องของจี้หลิงชวนจริงๆ จี้หลิงชวนจะต้องยอมรับมันได้ยากอย่างแน่นอน
ลู่เฉิงฮ่าวมองไปที่จี้หลิงชวนและพูดปลอบใจเขาว่า "แล้วตอนนี้มีหลักฐานอะไรที่รับรองว่ามู่ซีซี เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายไหม?"
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วและส่ายหัว "ฉันขอให้ฟางเซิ่งลองไปสืบดูแล้ว เมื่อปีนั้นมู่ซีซีเกิดจากคู่สามีภรรยาตระกูลมู่ที่อยู่อำเภอเล็ก ๆ ถัดจากเมืองหรง และดูเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณป้าของฉัน .. ."
“อย่างนั้นก็ไม่ใช่เป็นเรื่องดีหรอกเหรอ ตอนนี้ทุกอย่างได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว
มู่ซีซีกับคุณป้าของนายจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่เฉิงฮ่าว จี้หลิงชวนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แต่เรื่องสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกของมู่ซีซี ที่สวมใส่ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงตอนนี้ละจะอธิบายได้อย่างไร แม้ว่าจี้หลิงชวนจะถามครอบครัวตระกูลมู่ถึงเรื่องนี้แล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาพูดดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
และความบังเอิญนี้มันดูบังเอิญเกินไป ดังนั้นจี้หลิงชวนจึงรู้สึกอดสงสัยไม่ได้
“สร้อยคอรูปดาวห้าแฉกนั้นยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน และฉันก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะไม่ได้ง่ายอย่างนั้น” จี้หลิงชวนขมวดคิ้วและพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ขณะที่ลู่เฉิงฮ่าวกำลังฟังจี้หลิงชวนนิ้วชี้ของเขา ก็เคาะลงเคาน์เตอร์บาร์เป็นจังหวะและพูดกับจี้หลิงชวนขึ้นว่า "บางทีนายอาจคิดเรื่องนี้มากเกินไป"
ลู่เฉิงฮ่าว เป็นคนมองโลกในแง่ดี และเขามักจะคิดถึงด้านดีของทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...