“ชเนนทร์บอกว่าเพื่อนสมัยเด็กคนนั้นกลับมาแล้ว”
คุณปู่กวินท์เอ่ย
“แล้วยังไง? ตอนนี้พัฒน์เป็นสามีของเทวิกา ถ้าเพื่อนสมัยเด็กคนนั้นเก่งจริง ก็ไม่ถึงคราวเทวิกาได้แต่งงานกับพัฒน์หรอก”
“พัฒน์เองก็ไม่น่าจะชอบหล่อน ไม่งั้นก็ไม่มีทางแต่งงานกับเทวิกาแล้วยังไม่ยอมหย่าหรอก”
ตอนนี้ คนบ้านตระกูลวาชัยยุงต่างรู้ดีว่าตอนนั้นเทวิกาจ้างยศพัฒน์กลับมารับมือกับแม่ที่เร่งให้แต่งงาน
คุณปู่กวินท์ไม่พูดอะไรอีก
“นอนเถอะ อย่าคิดมากขนาดนั้นเลย ฉันเชื่อว่าพัฒน์สามารถทำให้เทวิกามีความสุขได้ หลานสาวเราเป็นคนมีวาสนา”
คุณปู่กวินท์นึกถึงตอนที่เก็บหลานสาวมาเลี้ยง เสื้อผ้าบนตัวหลานสาวและกุญแจอายุยืนที่ทำมาจากทองคำก็ไม่ใช่ราคาเบาๆ จึงเอ่ยว่า “เราก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก วิกามีความคิดเป็นของตัวเอง เรื่องที่เธอตัดสินใจแล้ว เราก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก”
“พ่อแม่แท้ๆของงวิกาถ้าไม่ร่ำรวยก็น่าจะสูงศักดิ์ ขอแค่หาพ่อแม่แท้ๆของเธอเจอ ฐานะของเธอก็จะเหมาะสมกับพัฒน์”
เมื่อพูดถึงเรื่องพ่อแม่แท้ๆ คุณย่าโบว์ก็ยิ่งยิ้มไม่ออก
พวกเขานอนลงบนเตียงแล้วถอนหายใจ
แม้ปากจะบอกว่าเข้าใจ แม้จะใจกว้างขนาดไหน ในใจก็ยังคงรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่ดี
เด็กที่พวกเขาเลี้ยงดูมายี่สิบกว่าปี เป็นของคนอื่น อาจจะถูกพ่อแม่แท้ๆรับกลับไปได้ทุกเมื่อ
“พิชญ์สินีสารภาพความจริงเร็วขนาดนี้ ถ้าเกิด......”
“พัฒน์เป็นใคร เขาสืบเจอนานแล้ว แม้เราจะไม่สารภาพความจริง วิกาก็จะรู้อยู่ดี สู้สารภาพไปเลยจะดีกว่า ให้เธอรู้ว่าเราจะไม่ห้ามเธอไปตามหาพ่อแม่แท้ๆของตัวเอง ทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งใจกับเราได้”
“อีกอย่าง เด็กที่ตัวเองเลี้ยงดูจนโตมีนิสัยยังไง เรายังไม่รู้กันหรือไง? วางใจเถอะ หลานสาวก็ยังคงเป็นหลานสาวของพวกเรา”
คุณปู่กวินท์ไม่รู้สึกห่วงอะไร
สองสามีภรรยาคุยกันต่ออีกสักพัก จนกระทั่งสองสามีภรรยานอกห้องขึ้นบันไดไป พวกเขาจึงจะค่อยๆผล็อยหลับไป
เช้าวันที่สอง
เทวิกาตื่นนอน ก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อน เมื่อเห็นว่าจะเจ็ดโมงแล้ว เธอรีบลุกขึ้นนั่ง แล้วปลุกยศพัฒน์ที่นอนอยู่ข้างกาย
“พัฒน์ จะเจ็ดโมงแล้ว นายรีบตื่นเร็ว ไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อ ฉันลงไปทำอาหารเช้าให้นาย กินอาหารเช้าเสร็จก็รีบกลับไปทำงานซะ”
ยศพัฒน์ไม่แม้แต่จะลืมตา กลับยื่นแขนดดึงเธอกลับมาล้มทับบนตัวเขา
เขาโอบกอดเธอเอาไว้ ก่อนจะพลิกตัวแล้วลุกขึ้นมาคร่อมเธอ
จากนั้นก็ก้มจูบเธอ
เทวิกาหลบหลีกไม่หยุด หลบยังไงก็หนีริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาไปไม่ได้
สุดท้ายก็หนีไม่พ้นและถูกจูบอย่างดื่มด่ำ
สักพัก ยศพัฒน์ก็จึงจะละริมฝีปากออกอย่างพอใจ พลางลืมตาขึ้น เผยดวงตาดำขลับเป็นประกาย ก้มมองหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง
“ฉันเปลี่ยนตารางงานในวันนี้หมดแล้ว วันนี้ฉันหยุดลา พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่ต้องไปทำงาน ฉันได้หยุดงานทีเดียวสามวัน”
เทวิกา “......”
“คุณภรรยา ฉันไม่ไว้ใจให้เธอกลับบ้านแม่คนเดียว คราวหลังถ้ากลับบ้านแม่ก็ต้องพาฉันไปด้วย”
คุณชายพัฒน์เอ่ยเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า
ความหมายก็คือ เขาหยุดทีเดียวสามวัน ต้นเหตุเป็นเพราะเทวิกากลับบ้านแม่ไม่บอกเขา แล้วทิ้งเขาไว้คนเดียว
เขาจึงทำได้เพียงทิ้งงานไปไล่ตามภรรยา
“ฉัน สำคัญกว่าบริษัทนายเหรอ? นายยกเลิกงานไปหนึ่งวัน ต้องเสียหายมากขนาดไหนกัน”
ยศพัฒน์ก้มศีรษะลงอีกครั้ง แล้วแตะริมฝีปากเธอเบาๆ เอ่ยอย่างรักใคร่ว่า “สำหรับฉันแล้ว เธอสำคัญกว่าบริษัทฉัน สำคัญกว่าชีวิตฉันเสียอีก”
“วิกา ฉันรักเธอ ตกหลุมรักเธอมานานแล้ว”
นี่คือครั้งแรกที่ยศพัฒน์สารภาพรักต่อหน้าเธอ
เทวิกาสบตากับเขา
เห็นความรักใคร่ในแววตาของเขาอย่างชัดเจน
พลันซาบซึ้งใจ และอดคล้องคอเขาไม่ได้ ก่อนจะมอบริมฝีปากหวานให้เขา
ภรรยาเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน ยศพัฒน์ย่อมคว้าโอกาสนี้ไว้ทันที
ปรากฏว่า สองสามีภรรยาทำเรื่องบ้าคลั่งกันไปหนึ่งรอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน