"คุณปู่"
กนกอรเอ่ยเรียก และพูดว่า "ฉันไม่รีบ ถ้าถึงเวลา เดี๋ยวมันก็มีเข้ามาเองนั่นแหละ"
คุณปู่ชรัณถลึงตาใส่ แล้วพูดว่า "ไม่รีบอะไรล่ะ แกอายุยี่สิบสี่แล้วนะ ตอนพ่อแม่แกอายุเท่าแก พี่ชายแกออกมาเดินดูโลกแล้วด้วยซ้ำ"
“คุณปู่ อดีตต่างจากตอนนี้นะ ในอดีตผู้คนแต่งงานเร็ว แม้ว่าสมัยนี้คนเราจะมีอิสระในการแต่งงานมากขึ้น แต่จะแต่งงานได้ก็ต่อเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น”
“อีกอย่าง การอยู่คนเดียวมันไม่ดีหรือไง? มีอิสระจะตายไป อยากกินอะไรก็กินได้จนอิ่มไม่ต้องมาคอยกังวลว่าต้องแบ่งให้คนในครอบครัวไหม”
คุณปู่ชรัณหันไปพูดกับคุณปู่เร็นว่า “ เร็น ได้ยินไหม เพราะเธอคิดแบบนี้ไง ถึงไม่มีแฟนเลยจนอายุยี่สิบสี่ มีเพื่อนบ้านหลายคนอยากแนะนำลูกชายตัวเองให้เธอ เธอก็ไม่ต้องการ คนอื่นเลยพากันพูดว่าเพราะเธอหน้าตาสวยเลยทำตัวหยิ่ง แถมยังแช่งเธออีกด้วยว่าเลือกเยอะแบบนี้สักวันจะได้คนไม่เอาไหนมาเป็นแฟน ตอนผมได้ยินผมโมโหแทบบ้า”
หลานสาวใครใครก็รักทั้งนั้น
ตอนคุณปู่ชรัณได้ยินคนอื่นพูดเกี่ยวกับหลานสาวตัวเองแบบนี้ เขาโมโหแทบตาย จนต้องทะเลาะกับคนเหล่านั้น
พอทะเลาะกันบ่อยขึ้น ก็ไม่มีใครช่วยกนกอรหาคู่ดูตัวแล้ว แถมยังแอบนินทาลับหลังว่ากนกอรหยิ่งเลือกเยอะอีกด้วย
คุณปู่เร็นยิ้มและกล่าวว่า “แกควรรีบหน่อยนะ รู้ไหมว่าหลานชายคนโตของฉันอายุเท่าไหร่? เขาอายุยี่สิบเก้าปีแล้ว จะอายุสามสิบปีหน้า แต่เขาก็ครองโสดมาตลอด ฉันกลุ้มเรื่องแต่งงานของเขาจนผมหงอกหมดแล้ว”
“ฉันย้ายมาที่นี่เพื่ออาศัยอยู่ เพราะโมโหหลานชายตัวเองนี่แหละ เลยย้ายออกมา จะได้ไม่ขัดหูขัดตา”
“ชรัณ ไหนๆก็บังเอิญขนาดนี้ละ แล้วผมก็เอ็นดูหลานสาวคุณด้วย เราให้หลานทั้งสองคนของเราแต่งงานกันดีไหม?”
กนกอร "......"
คุณปู่ทั้งสองหยุดเล่นหมากรุก แต่หันมาขายเธอซะอย่างนั้น
คุณปู่ชรัณถามว่า “หลานชายของคุณอายุ 29 ปีแล้วแต่ยังไม่มีแฟน เพราะอะไรเหรอ?”
เขากังวลเรื่องการแต่งงานของหลานสาวก็จริง แต่จะจับหลานสาวแต่งงานกับใครมั่วซั่วไม่ได้ เพราะนั่นอาจจะเป็นการทำลายชีวิตของหลานสาว
ต้องเข้าใจอุปนิสัยของกันและกันให้ชัดเจน และต้องได้มองหน้ากันก่อนที่จะตกลงอยู่ด้วยกัน
"คุณปู่"
กนกอรเรียกเสียงเบา
"กนกอร แกไปดูทีวีของแกเถอะ อย่ารบกวนการเล่นหมากรุกของพวกฉัน"
“ไม่มีละครที่ฉันอยากดู แล้วฉันก็ขี้เกียจไปดูด้วย ฉันจะอยู่คุณปู่เล่นหมากรุกที่นี่ ฉันไม่สอดมือเข้าไปเล่นด้วยหรอก”
การดูหมากรุกไม่ได้มีแค่ผู้ชายที่ดูได้เสียหน่อย
เธอเองก็รู้วิธีเล่นเหมือนกัน
คุณปู่เร็นมองมาที่กนกอร เมื่อกนกอรถูกเขามองมาอย่างนี้ เธอก็เอ่ยพูดด้วยใบหน้าแดงๆ "คุณปู่เร็น หยุดแซวฉันได้แล้วค่ะ"
"กนกอร ฉันไม่ได้แซวนะ ฉันพูดจริงๆ ที่หลานชายของฉันยังโสดมาจนถึงตอนนี้ เพราะว่าเขาดีเกินไปและยุ่งกับงานมากเกินไป ครอบครัวของเราทำธุรกิจ หลานชายของฉันจึงไม่มีเวลาไปรักใคร แป็บเดียว ก็จะอายุสามสิบแล้ว”
“หลานชายของฉันโตมากับฉัน เลยค่อนข้างสนิทกับฉัน เรื่องแต่งงานก็มีแต่คนเป็นปู่อย่างฉันกังวลอยู่คนเดียว พ่อแม่ของเขาไม่สนใจด้วยซ้ำ กนกอร วางใจได้ ฉันกล้าแนะนำหลานชายตัวเองให้แกขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางหลอกแกอย่างแน่นอน”
“ฉันกับปู่แกเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานก็จริง แต่ไหนๆเราก็บังเอิญมารู้จักกันขนาดนี้แล้ว ปู่ของแกก็เหมือนเพื่อนของฉันคนหนึ่ง ฉันไม่มีทางหลอกแกหรอก”
คำโกหกของคุณปู่เร็นนั้นดูสมจริงมาก
แม้แต่ตัวเขาเองก็เกือบจะเชื่อในคำพูดของเขา
“ไหนๆก็ต้องเจอกันก่อน พวกแกสองคนค่อยไปทำความรู้จักกันอีกที แล้วตัดสินใจว่าจะคบหรือไม่คบก็ยังได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน