หลังจากเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมดแล้ว สายตาของเทวิกาที่มองเพื่อนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และขอโทษ
“วิกา เธอไม่ต้องรู้สึกแบบนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันเอง และฉันเป็นคนรับปากเอง ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอไม่ได้เป็นคนทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้ จะบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อย ฉันก็ได้รับค่าตอบแทนจากเขามาไม่น้อย ใช่ไหม?”
“ขอแค่ฉันรักษาหัวใจของตัวเองไว้ให้ดี เล่นบทบาทของฉันให้ดี ฉันก็ไม่มีอะไรที่ต้องสูญเสีย”
เทวิกาเดินเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักไว้แน่นๆ
ทำให้คำพูดของกนกอรหยุดลงทันที
ไม่ว่ายังไง เทวิกาเป็นต้นเหตุของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างเธอกับนฤเบศวร์ ถึงแม้เธอจะแสดงออกมาอย่างสบายๆ เหมือนไม่แคร์อะไรเลย แต่เทวิกาก็รู้สึกเสียใจ และโทษตัวเองอยู่ดี
นอกเสียจากเธอกับนฤเบศวร์จะรักกันอย่างมีความสุขเหมือนเทวิกาและคุณทศพัฒน์แบบนั้น
แต่ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
เส้นทางที่เธอกับเทวิกาเดิน ข้างหน้าเหมือนกัน แต่มันก็มีทางสี่แยก
ที่สำคัญคือ นฤเบศวร์ยึดติดมุ่งมั่นกับเปรมามากเกินไป และหลงรักเธอมาก
“คราวหลังถ้ามีอะไรต้องการให้ฉันช่วย ต้องบอกฉันนะ”
กนกอรพูดขึ้นว่า: “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่เกรงใจเธออยู่แล้ว พอละ อย่าทำท่าทางเหมือนฉันจะไปตกนรกแบบนั้นสิ ก็แค่แต่งงานเท่านั้นเอง แต่งเร็วหรือช้าก็ต้องแต่งอยู่ดี แต่งกับใครก็เหมือนกัน ยังไงก็ต้องจดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว”
“กนกอร……”
เทวิกาไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนรักให้เลิกกับนฤเบศวร์ เธอรู้ดีว่านี่เป็นสัญญาระหว่างเพื่อนรักกับนฤเบศวร์ ถึงแม้จะเป็นเพราะเธอ เธอก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้กนกอรล้มเลิกสัญญาที่รับปากไว้กับนฤเบศวร์ได้
ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอเป็นใคร แต่เธอก็ถือว่าโชคดีมาก ที่มีพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงที่รักเธอเหมือนลูกแท้ๆ มายี่สิบกว่าปี เธอรู้สึกมีความสุขมาก เมื่ออยู่ในสังคมที่มีแต่คนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ยังสามารถมีเพื่อนที่จริงใจแบบกนกอรได้
……
โอเอ กรุ๊ป。
ในออฟฟิศทำงานของรองประธาน โต๊ะทำงานของประยสย์เต็มไปด้วยเอกสารที่เขาต้องจัดการ ในขณะที่เขากำลังวุ่นอยู่กับการทำงานอยู่นั้น โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมาทันที
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอกับเบอร์โทรที่โทรเข้ามา ป้าอ้อยเป็นคนโทรมา เขารีบรับสายขึ้นมาทันที
“คุณชาย คุณหญิงร้องไห้ไม่ยอมหยุด เกลี้ยกล่อมเธอยังไงก็ไม่สำเร็จสักที”
ประยสย์รีบถามออกมาว่า: “ตุ๊กตายังอยู่ไหม?”
“ยังอยู่ค่ะ คุณหญิงร้องไห้กอดตุ๊กตาอยู่ และไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร หลังเที่ยงตอนพักผ่อนตื่นขึ้นมา คุณหญิงก็นั่งเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่าง พอเหม่อลอยได้สักพักก็ร้องไห้ออกมา”
“คุณหญิงไปเจอใครมาเหรอ?”
“คุณพลอยมาที่นี่ค่ะ แต่ว่าฉันขวางเธอไว้ ไม่ให้เธอได้เจอคุณหญิง ต่อมาคุณท่านกลับมา คุณพลอยจึงออกจากบ้านไปพร้อมคุณท่าน หลังจากนั้น ก็ไม่มารบกวนคุณหญิงอีกเลย”
ป้าอ้อยรายงานทุกอย่างที่เธอรู้ให้ประยสย์ได้รับทราบ
“ได้ ผมรู้แล้ว ผมจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ ป้าช่วยดูแลคุณหญิงก่อน อย่าให้เธอออกไปนอกห้องเด็ดขาด ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก เดี๋ยวคุณย่าผมจะมาด่าอีก”
“คุณชายเดินทางปลอดภัยนะคะ บอกคนขับรถให้ขับช้าๆ หน่อย ยังไงคุณหญิงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้คุณชายจะรีบกลับมาก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ความปลอดภัยของคุณชายสำคัญที่สุด”
ประยสย์ตอบอืมออกมา
บ้านหลังนี้ ก็มีแต่ป้าอ้อยที่เป็นห่วงพวกเขาแม่ลูก
ส่วนคนอื่น มีแต่ต้องการให้เขาเกิดเรื่องหรือประสบอุบัติเหตุ
จู่ๆ คุณแม่ก็ร้องไห้หนัก ทำให้ประยสย์ไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงานต่อ จึงทิ้งงานที่ยังทำไม่เสร็จอีกมากมายไว้ก่อน แล้วพาบอดี้การ์ดกลับบ้านอย่างเร่งด่วน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ป้าอ้อยเฝ้าอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นประยสย์กลับมา เธอรีบเดินเข้าไปหา “คุณชาย คุณกลับมาแล้ว คุณหญิงยังอยู่ในห้องค่ะ”
“แม่ผมยังร้องไห้อยู่อีกไหม?”
“ไม่ร้องไห้เสียงดังแล้ว แต่น้ำตายังไหลอยู่ ทำให้คนที่เห็นพลอยรู้สึกปวดใจไปด้วย”
ในขณะที่ป้าอ้อยพูดอยู่นั้นดวงตาก็แดงก่ำไปด้วย
ทั้งชีวิตของคุณหญิง กลัวว่าคงต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปแล้ว
ถ้าสวรรค์มีตา ก็ขอให้คุณหนูรีบกลับมาเร็วๆ ถ้าคุณหนูกลับมา ไม่แน่คุณหญิงอาจมีโอกาสสติกลับมาดีอีกครั้งก็ได้ ไม่งั้น……
“ผมเข้าไปดูก่อน”
ประยสย์เดินผ่านป้าอ้อย ไปหยุดอยู่หน้าห้อง แล้วผลักประตูเข้าไปเบาๆ เห็นคุณแม่อุ้มตุ๊กตาไว้ในอกแล้วนั่งอยู่ตรงหน้าของหน้าต่าง ผมที่ยาวของเธอปล่อยไว้ตามธรรมชาติ เวลาที่เธอนั่งอยู่ ทำให้ผมยาวไปจนถึงพื้น
เธอไม่ได้ตัดผมมานานมากแล้ว
เธอพูดว่า ลูก ชอบดึงผมของเธอ เธอจึงต้องไว้ผมยาว แบบนี้ลูก จะได้ดึงอย่างดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน