กนกอรเดินไปด้วยหันหลังมองมาด้วย เมื่อแน่ใจแล้วว่าคุณแม่ไม่ได้วิ่งตามออกมาแล้ว เธอถึงโล่งอกใจออกมา
แต่เธอก็กลัวเพื่อนบ้านเรียงเคียงเห็น จึงทำตัวเหมือนขโมย วิ่งเร็วมากเกือบเหมือนบิน และเมื่อวิ่งมาถึงหน้ารถของนฤเบศวร์ ได้ตีหน้ารถของนฤเบศวร์ไปด้วยหันไปมองด้านหลังด้วย
ตอนแรกนฤเบศวร์อยากให้เธอนั่งรถของบอดี้การ์ด ลังเลไปประมาณสิบวิ และในที่สุดก็ยอมเปิดประตูออก
กนกอรเข้าไปนั่งในรถอย่างรวดเร็ว หลังจากปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว เธอถึงโล่งใจออกมาได้
คนขับรถรอเธอขึ้นรถเสร็จ ก็รีบสตาร์ทรถแล้วขับออกไปทันที
นฤเบศวร์เอียงหน้ามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
“วิ่งเร็วขนาดนี้ ข้างหลังมีผีตามคุณมาเหรอ?”
“ฉันไม่อยากให้แม่และเพื่อนบ้านเห็นฉันขึ้นรถของคุณ”
กนกอรเอากระเป๋าตัวเองวางไว้ด้านข้าง
นฤเบศวร์ขมวดคิ้ว “ทำไม ผมปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นไม่ได้เหรอ?”
“คุณอยากให้ครอบครัวฉันรู้ความสัมพันธ์ของพวกเราเหรอ?”
นฤเบศวร์พูดไม่ออก
เรื่องที่เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเธอขึ้นรถของเขา ทำให้นฤเบศวร์รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย มันมีความรู้สึกเหมือนลับๆ ล่อๆ เป็นเรื่องที่ให้คนอื่นเห็นไม่ได้
แต่เมื่อเธอถามเขาออกมาอย่างตรงไปตรงมา เขากลับตอบไม่ได้
เพราะเขาเป็นคนเสนอเองว่าเรื่องงานแต่งต้องเป็นความลับ
“ฉันต้องซื้ออะไรไหม?”
กนกอรถามผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง
นฤเบศวร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า: “ไม่จำเป็น”
“ฉันไปเจอหน้าผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรไปเหรอ?แบบนั้นจะทำให้ฉันดูเหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาหรือเปล่า?เจอหน้าพ่อแม่สามีครั้งแรก กลับไปมือเปล่า”
“ถึงแม้คุณจะยกภูเขาทองไปทั้งภูเขา พ่อแม่ผมก็ไม่ชอบหรอก”
กนกอรเอียงหน้ามองเขา
นฤเบศวร์แม้มปาก แล้วอธิบายออกมาว่า: “แม่ผมชอบเปรมามาก เธอหวังมาตลอดอยากให้ผมได้แต่งงานกับเปรมา”
นอกจากเปรมาแล้ว เขาจะแต่งงานกับใคร แม่ก็ไม่ชอบทั้งนั้น
ส่วนคุณพ่อ คุณพ่อก็มีเหตุผลที่ต้องคำนึง
ในสายตาของคุณพ่อ เขาไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเปรมา แต่ต้องแต่งงานกับคนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ภรรยาที่วงศ์ตระกูลใกล้เคียงกัน และสามารถช่วยเขาได้ในทุกสถานการณ์
กนกอรตอบโอะออกมา “ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าฉันต้องเตรียมตัวรับมือกับพ่อแม่สามีที่อาจรังแกฉันได้ตลอดเวลาสินะ?”
นฤเบศวร์ไม่พูดอะไรออกมา
คืนนี้เขาพากนกอรกลับบ้าน เพื่อเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองต่อหน้าคนในครอบครัว คิดว่าคงต้องสร้างความโกลาหลให้กับคนที่บ้านแน่
การไม่ถูกต้อนรับ กนกอรที่ไม่ถูกยอมรับ ยังไงก็ต้องถูกรังแกและได้รับความอับอายอยู่แล้ว
แต่นฤเบศวร์กลับไม่คิดที่จะปกป้องเธอ
ต้องการให้คุณปู่เห็น การที่คุณปู่จับคู่ไปเรื่อย บังคับเขาให้แต่งงานกับกนกอร คือเป็นการทำร้ายกนกอรนั่นเอง
“นฤเบศวร์ ฉันรู้สึกว่าฉันถูกเอาเปรียบ เหมือนตัวเองกระโดดลงไปในกองไฟ”
“ทะเบียนสมรสจดเรียบร้อยแล้ว ผมไม่มีทางหย่าร้างกับคุณ ในเวลาอันสั้นนี้หรอก”
ถึงแม้เขาจะต้องการหย่าร้างมากก็ตาม
ในช่วงเวลาที่คุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ เขาหย่าร้างกับกนกอรไม่ได้เด็ดขาด เพราะอาจต้องสูญเสียตำแหน่งไป
กนกอรถอนหายใจออกมา “ฉันรู้ดี ใครให้ฉันติดหนี้บุญคุณคุณหล่ะ”
หนี้บุญคุณ ตอบแทนได้ยากมาก
“คืนนี้ ผมจะลองคุยกับคุณปู่ดูอีกครั้ง นอกจากคนในครอบครัวผมแล้ว ผมจะไม่ให้คนอื่นรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเด็ดขาด จำไว้สิ่งที่คุณรับปากกับผมไว้ คือต้องรักษาไว้เป็นความลับ”
นฤเบศวร์พูดเตือนกนกอรขึ้นมา “อีกอย่าง ห้ามหลงรักผมเด็ดขาด เพราะผมไม่มีทางรักคุณ หัวใจของผมให้เปรมาไปตั้งนานแล้ว นอกจากเธอแล้ว ชาตินี้ผมไม่มีทางรักผู้หญิงอื่นเด็ดขาด”
กนกอรยิ้มแล้วเอามือข้างหนึ่งไปจับไหล่เขา จากนั้นเอาตัวเข้าไปใกล้เขา แกล้งจับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา หัวเราะคิๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่โง่ถึงขนาดไปหลงรักคุณหรอก พวกเราสองคนก็แค่ทำงานร่วมกัน ฉันก็แค่ตอบแทนหนี้บุญคุณคุณเท่านั้นเอง เมื่อความสัมพันธ์นี้จบลง อย่าลืมจ่ายค่าตอบแทนฉันก็พอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน