ณ โรงพยาบาล เมืองแอคเซสซ์
ภายใต้การอยู่เป็นเพื่อนของเทวิกา คุณหญิงธิษณามีความสุขมากตลอดทั้งเช้า ชนิดที่ว่าไม่มีการกอดตุ๊กตาแล้วเรียกว่าลูกจ๋า
ตอนที่เธอคุยกับเทวิกานั้น การพูดการจาดูปกติมาก จนรู้สึกว่าเธอไม่ได้เสียสติแต่อย่างใด
เพียงแต่ เมื่อเห็นประยสย์ ได้ยินเธอเรียกประยสย์ว่าที่รัก ถึงรู้และเข้าใจ
คนรับใช้ของตระกูลอริยชัยกุลมาเสิร์ฟอาหารเที่ยงแล้ว คุณหญิงใหญ่เป็นคนจัดแจงให้
หลังจากบริการอาหารกลางวันให้กับคุณหญิงธิษณาแล้ว คุณหญิงธิษณาก็มีอาหารหาว จึงรู้ว่าเธอง่วงแล้ว เทวิกาได้กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า:“คุณน้าคะ คุณน้าง่วงแล้ว นอนพักสักครู่นะคะ”
คุณหญิงธิษณากลับกล่าวด้วยความลนลาน:“ฉันกลัว”
“คุณน้ากลัวอะไรเหรอคะ”
คุณหญิงธิษณากล่าวเบา ๆ:“ฉันกลัวเมื่อฉันนอนหลับแล้ว จะมีคนแอบมาหอมฉัน จากนั้น——”
ได้ยินดังนั้นเทวิกากับประยสย์สบตากัน สีหน้าของประยสย์ก็หม่นลงทันใด
เทวิกาใช้สายตาส่งสัญญาณให้เขาอย่าหุนหัน และก็บอกให้เขาออกไป ปล่อยให้เธอเกลี้ยกล่อมเอง
ประยสย์ออกไปอย่างเงียบ ๆ
เทวิกานั่งลงข้างเตียง แล้วถามด้วยความเป็นห่วง:“คุณน้าฝันหรือว่ามีคนทำมิดีมิร้ายกับคุณน้าจริง ๆ คะ”
สีหน้าของคุณหญิงธิษณาดูสับสน สมองของเธอตอนนี้ทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้ “ฉันไม่รู้ อีกสักพักฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ต้องนอนพักกลางวัน ตอนพักกลางวันเหมือนกับฝันอย่างนั้น แต่เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ในห้องก็ไม่มีใครสักคน”
“ฉันกลัวมาก”
เทวิกากอดเธอด้วยความปวดใจ
คุณหญิงธิษณาตอนนี้ไม่ได้สติ เธอไม่รู้เรื่องภายในของตระกูลสาระทา ไม่รู้ว่าปกติใครเป็นคนดูแลคุณหญิงธิษณา เรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง ๆ หรือว่าคุณหญิงธิษณาแค่ฝันไป
“ตอนนี้ไม่ต้องกลัวนะคะ มีหนูอยู่ ที่นี่มีหนูคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณน้า จนกว่าคุณน้าจะตื่นจากนอนพักกลางวันนะคะ”
คุณหญิงธิษณายิ้ม “จริงเหรอ นานมากแล้วที่ฉันไม่กล้านอนพักกลางวัน”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น ล้วนเกิดขึ้นตอนที่เธอนอนพักกลางวัน ดังนั้นเธอจึงกลัวการนอนพักกลางวัน
“จริงค่ะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนคุณน้า”
“งั้น ฉันจะนอนพักสักแป๊บ ลูกล่ะ ฉันจะพาลูกเข้านอนกลางวันด้วย”
เทวิการีบยื่นตุ๊กตาให้กับนาง เธอกอดตุ๊กตา เธอนอนลงภายใต้การพยุงของเทวิกา
เพราะง่วงมาก คุณหญิงธิษณาจึงหลับในไม่ช้า
ช่วยเธอคลุมผ้าห่มบางแล้ว เทวิกาก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป
“วิกา”
ทันทีที่เดินออกจากห้องก็เห็นพี่ชายชเนนทร์
มือข้างหนึ่งของชเนนทร์ถือตะกร้าดอกไม้ อีกด้านหนึ่งถือตะกร้าผลไม้
เวลานี้กำลังคุยอยู่บางอย่างกับประยสย์ เห็นเทวิกาออกมา ทั้งคู่ก็หยุดการสนทนาขึ้น
“พี่ พี่มาได้ยังไงคะ”
ชเนนทร์ดุเธอเบา ๆ:“เธอมักจะเป็นแบบนี้ เกิดเรื่องก็ไม่ยอมบอกที่บ้าน หากไม่ใช่เพราะพัฒน์บอกกับพี่ พี่ก็คงไม่รู้”
เทวิกาเดินหน้ามาคล้องแขนพี่ชายไว้แล้วกล่าวออดอ้อน:“ฉันยี่สิบสี่แล้วนะคะพี่ สามารถจัดการเรื่องของตัวเองได้ ไม่อยากรบกวนพี่ และก็ไม่อยากทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง พี่อย่าโกรธเลยนะ”
ชเนนทร์วางตะกร้าผลไม้ลง ปล่อยมือข้างหนึ่งออก และจิ้มนิ้วลงบนหน้าผากของน้องสาว “ใช่ ๆ ๆ ตอนนี้เธอปีกแข็งแล้ว ทำอะไรก็ไม่จำเป็นต้องบอกทางบ้านแล้ว เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอยังไม่บอกพวกเราเลย”
เทวิกาแลบลิ้นออกมาอย่างขี้เล่น
ประยสย์มองวิธีการอยู่ด้วยกันของสองพี่น้อง สายตามีความอิจฉาเล็กน้อย
เขาก็เป็นพี่ชายของวิกา และก็เป็นพี่ชายแท้ ๆ ด้วย แต่พี่น้องถูกแยกออกจากกันเมื่อพวกเขาอายุได้เพียงไม่กี่เดือน
ยี่สิบสามปีที่เติบโตโดยไม่มีการติดต่อ ไม่เคยเห็นหน้า หากว่าไม่รู้ล่วงหน้าว่าน้องสาวมีหน้าตาที่เหมือนกับคุณย่า สองพี่น้องคงไม่มีทางรู้จักกัน
ถึงแม้ว่าทั้งคู่ต่างรู้ดีแก่ใจว่าพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ ๆ กัน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันก็ยังรู้สึกอึดอัด นอกจากคุยเรื่องคุณแม่แล้ว น้องพี่น้องก็ไม่รู้ว่าจะคุยกันเรื่องอะไรดี
ตอนนี้เทวิกาเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติกับเขาเหมือนกับชเนนทร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน