ไม่สามารถทำให้กนกอรส่งเขากลับบ้านได้ นฤเบศวร์จึงได้แต่ขับรถกลับไปเอง
ระหว่างทาง โทรศัพท์มือถือของเขาส่งเสียงดังสิบกว่าครั้ง ทุกสายเป็นของเปรมา เขาไม่รับสายเลยสักครั้ง
กำลังขับรถอยู่นี่ รับสายจะเสียสมาธิ เขาไม่อยากเสียสมาธิจนขับรถชน
นฤเบศวร์ไม่รับสายของเปรมาเลย ทำให้เธอโมโหจนปาโทรศัพท์มือถือลงพื้น
คุณณัฏฐาเห็นดังนั้น ก็รีบเก็บโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา
“เปรม์ ลูกโมโหไปจะมีประโยชน์อะไร แม่บอกลูกตั้งกี่ครั้งแล้ว ลูกก็ไม่ยอมเชื่อคำพูดของแม่เลย ท่าทีที่ลูกทำกับนฤเบศวร์ เขาจะไม่โกรธได้ยังไง มีปัญหาก็ไปหาเขา พอไม่มีปัญหาก็ไปหายศพัฒน์ ลูกเห็นเขาเป็นอะไร ลูกจะเรียกเมื่อไหร่ก็มา จะโบกมือไล่ก็ไปเหรอ”
“ดูเอาเถอะ เขาเองก็ถูกลูกทำร้ายจิตใจไปแล้ว ตอนที่แม่โทรหาเขา เขาก็ไม่ได้อยากจะมานัก แต่สุดท้ายก็รับปากว่าจะมาเยี่ยมลูก ใครจะไปรู้ว่าจะไม่ยอมมาอีก แล้วยังปิดเครื่องตลอดทั้งวันด้วย”
“เปรม์ ลูกคงทำให้เบศวร์เสียใจมาก ไม่อยากจะสนใจเรื่องของลูกแล้ว หรือไม่ก็ไอ้แก่หนังเหนียวไม่ยอมตายของตระกูลเดชอุปสั่งเขา ไม่ให้เขามา ตอนที่ลูกโทรไปหานังตัวดีนั่น หล่อนบอกว่ายังไง”
เปรมาเอ่ยอย่างโมโหว่า“นังกนกอรมันด่าหนูในโทรศัพท์ หนูสงสัยมากว่ามันคงอยากจะตบหนู ขู่ให้หนูกลัวจนไม่กล้าไปหามันที่One Day In Coffee”
ตอนนี้กนกอรเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนฤเบศวร์ ตอนนี้สำหรับกนกอรเธอก็เป็นแค่เมียน้อย เมียหลวงจะตบตีเมียน้อย เรื่องแบบนี้มีให้เห็นเยอแยะไป
เปรมากลัว จึงไม่กล้าไปหากนกอร ได้แต่โวยวาย ทุบทำลายข้าวของอยู่ที่ในบ้าน
“เบศวร์ไม่มีทางทำแบบนี้กับหนู ต้องเป็นไอ้แก่หนังเหนียวคนนั้นสั่งเขา ไม่ให้มาหาหนูแน่ แม่ ตอนนี้หนูจะทำยังไงดีคะ ในเมื่อตัวตนที่แท้จริงของเทวิกาเก่งขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงตระกูลสาระทาแค่ทางพัฒน์ หนูก็แย่แล้ว”
“พัฒน์แค่สืบดูก็รู้ว่าหนูเป็นคนทำเรื่องนี้ เขารักเทวิกาขนาดนั้น ต้องมาคิดบัญชีกับหนูแน่นอน”
ตอนนี้เปรมาจิตใจร้อนรุ่มมาก มีลางสังหรณ์ว่าครั้งนี้ตนเองต้องแย่แล้วจริงๆ
ถ้าแม้แต่นฤเบศวร์ยังไม่ช่วยเหลือเธอ เธอก็อย่าคิดที่จะอยู่ที่เมืองแอคเซสซ์อีกต่อไป
ทำไมเรื่องราวมันถึงเป็นแบบนี้ได้นะ
เพราะเทวิกา!
ใช่ เป็นเพราะเทวิกา!
ตอนนี้เทวิกาเป็นถึงคุณหนูของตระกูลสาระทา!
เมื่อนึกถึงสถานะของตระกูลสาระทาที่เมืองซูเพร่า รวมถึงตัวตนของผู้นำตระกูลสาระทา เปรมาก็อิจฉาจนแทบเป็นบ้า
“เทวิกาเองก็ต้องรู้ว่าเป็นฝีหนูแน่ เธอตั้งใจไม่ชี้แจง ปล่อยให้เรื่องราวมันเลยเถิดไป แบบนี้ก็จะมีหลักฐานมาฟ้องหมิ่นประมาทหนู มันเห็นหนูเล่นละคนก็เหมือนกับดูลิง มองดูหนูตื่นเต้น ดีใจ รอจนหนูคิดว่าตนเองชนะแล้ว เธอจึงค่อยๆเปิดเผยความสัมพันธ์พี่น้อง เธอมันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”
เปรมาคลุ้มคลั่งตลอดทั้งวัน ถ้าหากเธอใจเย็นลงอีกนิดก็จะคิดได้ว่าตนเองตกหลุมพรางเข้าให้แล้ว
“เปรม์ ลูกอย่าไปคิดเลยว่าทำไม รีบไปหาเบศวร์เถอะ เขาต่างหากที่เป็นความหวังสุดท้ายชองลูก ถ้าแม้แต่เบศวร์ลูกยังผลักไส แล้วลูกจะยังเหลืออะไรอีก”
คุณณัฏฐาทั้งโกรธทั้งเกลียดทั้งสงสารลูกสาวตัวเองจริงๆ
เปรมาตกตะลึง
เธอจะเสียเบศวร์ไปเหรอ
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะสูญเสียเบศวร์ไป เบศวร์หลงเธอหัวปักหัวปำขนาดนั้น
ในอดีต ไม่ว่าเธอทำอะไร เบศวร์ก็จะยอมให้เธอ ให้อภัยเธอ
ไม่มีทาง นฤเบศวร์ไม่มีทางทิ้งเธอเด็ดขาด ตอนนี้เขาไม่รับสายเธอ ต้องเป็นไอ้แก่หนังเหนียวที่บ้านตระกูลเดชอุปคนนั้นแน่ที่ขัดขวางเขา
ทำไมไอ้แก่นั่นไม่ตายสักทีนะ!
ถ้าเขาตาย นฤเบศวร์ถึงจะได้เป็นผู้นำตระกูลอย่างแท้จริง ต่อไปนฤเบศวร์อยากจะช่วยเหลือเธออย่างไร ก็จะไม่มีใครคอยขัดขวางอีกต่อไป
เปรมาสาปแช่งคุณปู่เร็นอยู่ในใจ
คุณปู่เร็น :ยิ่งเธอเกลียดฉัน ฉันก็ยิ่งมีชีวิตอยู่นานอีกหน่อย อยู่ให้ถึงอายุ120ปี รอจนเธอกลายเป็นสาวแก่ก็ยังแต่งเข้ามาตระกูลเดชอุปไม่ได้!
“แม่คะ หนูจะไปหาเบศวร์ตอนนี้เลย”
ในที่สุดเปรมาก็ยอมเชื่อคำเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวของแม่แล้ว
เธอไปหยิบกุญแจรถ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่ถูกปาลงพื้นเมื่อครู่ในมือแม่กลับมา รีบเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เพิ่งจะเปิดประตูบ้านก็มองเห็นคนรับใช้คนหนึ่ง คนรับใช้คนนั้นดูเหมือนกำลังจะเคาะประตู คิดไม่ถึงว่าเธอจะออกมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน