ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะหากนกอรเจอ
“พวกเธอเข้ามาด้วยทำไม?”
เทวิกาตอบว่า “ฉันรู้สึกว่านฤเบศวร์ดูออกแล้วว่าเป็นพวกฉัน เราต้องรีบหนี”
กนกอรเอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า “ผิดที่ฉันพลั้งปากแซวเอง ทำให้เราสองคนยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้ว หนุ่มหล่อสักคนก็ไม่ได้จีบ”
มิลินท์เอาโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่อง ก่อนจะโทรหาเพื่อนคนหนึ่ง อีกฝ่ายเป็นผู้จัดการของคลับรักนะ เมื่ออีกฝ่ายรับสาย มิลินท์ก็ขอให้อีกฝ่ายส่งเสื้อผ้ามาที่ห้องน้ำเบอร์หนึ่งสามชุด
หลังจากได้ยินคำขอของมิลินท์ อีกฝ่ายก็เอ่ยว่า “ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง มีแต่เสื้อผ้าผู้ชาย”
“เสื้อผ้าผู้ชายก็ได้ เอาสูทมานะ รบกวนเธอรีบมาส่งให้เร็วที่สุดเลย”
“ได้ ฉันจะให้คนไปส่งให้เธอ”
“ขอบคุณมาก ฉันยังมีเรื่องด่วน ขอวางสายก่อนล่ะ”
มิลินท์พูดจบก็รีบวางสายแล้วปิดเครื่องทันที
เผื่อกษิดิโทรมาหาเธอ
เทวิกากับกนกอรไม่ได้เอาโทรศัพท์มากันทั้งคู่ จึงทำได้เพียงแค่มอง
“เราจะเปลี่ยนเสื้อหนีเหรอ?”
กนกอรถาม
“ถ้าไม่หนี เธอยังอยากจะคล้องแขนแลกแก้วเหล้ากับนฤเบศวร์ที่นี่หรือไง?”
เทวิกาเอ่ยอย่างขบขันว่า “อยู่ดีๆเธอจะไปหยอดหมอนั่นทำไม ถ้าไม่หยอดเขาแต่แรก เราก็ไม่ต้องเข้ามาได้ไม่ทันไร ขนาดเก้าอี้ยังนั่งไม่ทันอุ่นก็ต้องหนีกลับกันแล้ว”
สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือนฤเบศวร์รู้ว่าพวกเธอเป็นใครแล้วโทรบอกยศพัฒน์มาจับเธอ
จากนิสัยของนฤเบศวร์ เขาต้องทำแบบนั้นแน่ ๆ
กนกอรยิ้มแหยๆ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาตาแหลมขนาดนั้น ปกติก็ไม่เห็นเขาตาดีขนาดนั้นสักหน่อย ผู้หญิงอย่างเปรมา เขาดูมาเกือบสามสิบปีก็ยังดูไม่ออกเลย ฉันแค่แต่งหน้าเปลี่ยนโฉม เขาก็ดันสงสัยซะงั้น”
มิลินท์รีบเปลี่ยนโฉมให้เพื่อนสองคนอย่างรวดเร็วไปพลาง พูดไปพลางว่า “ฉันสามารถเปลี่ยนโฉมให้พวกเธอได้ แต่ฉันเปลี่ยนเสียงของพวกเธอไม่ได้ รูปร่างของพวกเธอฉันก็เปลี่ยนไม่ได้ คนที่คุ้นเคยกับพวกเธอ ถ้าได้ยินเสียงและเห็นรูปร่างพวกเธอ ก็ย่อมสงสัยอยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าพวกเธออยู่กับฉัน งั้นพวกเขาก็ยิ่งมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์”
“บางครั้งฉันเองก็เปลี่ยนโฉมเหมือนกัน ตอนที่ฉันไปเที่ยวเตร่ ก็ไม่กล้าบังเอิญเจอกับกษิดิมาก่อนเลย”
พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นกษิดิจำเธอได้แน่ ๆ
ลองคิดดูอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกหวานแหวว แสดงว่าเธอเป็นคนพิเศษของเขาที่ไม่เหมือนใคร เขาประทับเสียง รูปลักษณ์ และรอยยิ้มของเธอไว้ในหัวใจแล้ว ดังนั้น จึงสามารถดูออกว่าเป็นเธอได้อย่างง่ายดาย
“เธอว่านฤเบศวร์จะโทรหาพัฒน์ไหม?”
มิลินท์ “......วิกา ปากเธอล้างซวยมาหรือยัง?”
เทวิกาเอ่ยอย่างลังเลว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเคยล้างซวยหรือ้ปล่า แต่ฉันสังหรณ์แบบนี้ รู้สึกว่านฤเบศวร์ต้องบอกพัฒน์แน่ ๆ ลินท์ เราสองคนต้องรีบหน่อยแล้ว เดี๋ยวถ้าพัฒน์มา เราสองคนจะหนีไม่ทัน”
มิลินท์เร่งมือทันที
ทุกคนล้วนภาวนากันในใจว่านฤเบศวร์จะไม่โทรหายศพัฒน์ เพราะเขาเป็นคู่อริกับยศพัฒน์
ไม่นาน เพื่อนของมิลินท์ก็ให้คนมาส่งเสื้อผ้าให้พวกเธอ
เธอเองก็เปลี่ยนโฉมให้เทวิกาเสร็จแล้ว ก่อนจะยัดเสื้อสูทผู้ชายให้เทวิกาหนึ่งชุด เอ่ยว่า “วิกา เธอรีบไปเปลี่ยนเสื้อเร็ว จากนั้นเธอก็ไปก่อน เราสามคนไปพร้อมกันไม่ได้ ไม่แน่บอดี้การ์ดตระกูลเดชอุปอาจจะเฝ้าอยู่ตรงประตูคลับก็ได้”
“จริงสิ เธออย่าลืมลากหนุ่มหล่อสักคนไปด้วยล่ะ พูดคุยไปพลางเดินไปพลาง ต้องใจเย็นนะ”
บอดี้การ์ดตระกูลเดชอุปไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ จึงไม่กล้ารั้งคนไว้สุ่มสี่สุ่มห้า
หลังจากเปลี่ยนเสื้อสูท อีกทั้งยังเปลี่ยนโฉม เธอก็ดูเหมือนนักธุรกิจหญิงมากๆ
เทวิกาเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็รีบออกไปจากห้องน้ำทันที
เธอทำตามที่มิลินท์พูด โดยรั้งหนุ่มหล่อคนหนึ่งเอาไว้ โกหกอีกฝ่ายว่าเธอมาที่นี่ครั้งแรก ในนี้ใหญ่เกินไปจนเธอหลงทาง แล้วขอให้อีกฝ่ายส่งเธอออกไปด้านนอก
หนุ่มหล่อคนนั้นเองก็ตอบตกลงเธอทันที
ผ่านไปไม่นาน มิลินท์กับกนกอรก็ทำแบบนี้เช่นกัน
เทวิกาเดินออกจากคลับมาได้อย่างราบรื่น เธอมีน้ำใจ ตัวเองหนีออกมาแล้ว ก็ไม่ได้ทิ้งเพื่อนสองคนแล้วหนีไปเอง แต่กลับหลบซ่อนอยู่ในมุม จับจ้องไปที่ประตูคลับ รอเพื่อนสองคนของเธอออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน