“นฤเบศวร์ นายปล่อยมือของนายซะ นายโอบฉันอย่างนี้ ฉันอึดอัด”
กนกอรยกมือข้างหนึ่ง คิดจะดึงมือข้างนั้นของเขาที่โอบเอวเธออยู่ แต่ดึงไม่ออก ทั้งยังกลัวรถล้มด้วย เธอจึงรีบประคองรถเอาไว้
นฤเบศวร์พูดอย่างใสซื่อ: “ผมกลัวผมตกรถ โอบคุณไว้ ปลอดภัยกว่า”
“......”
กนกอรโมโหกับความหน้าไม่อายของเขาจนสีหน้าอึมครึม แต่กลับทำอะไรเขาไม่ได้
เดิมทีเขาก็เป็นคนหน้าไม่อายอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่ว่าแม่ของเธอเป็นคนออกหน้าเอง เขาคงไม่ยอมหย่าแน่ๆ
ยังดีที่ ปากซอยไม่ได้ไกลจากตระกูลภูสิทธ์อุดมมาก ไม่นานก็มาถึงหน้าบ้านของตระกูลภูสิทธ์อุดมแล้ว
กนกอรจอดรถไฟฟ้า แล้วก้มหน้าออกแรงดึงมือใหญ่ๆของเขาที่กำลังโอบเอวเธอออกไป
พอได้ยินเสียงฝีเท้าที่ลานบ้าน นฤเบศวร์จึงรีบปล่อยมือ
เขาลงจากรถ บนใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มบางๆ
ถึงจะไม่ได้ขโมยหอมแก้ม แต่ได้โอบเอว เขาก็เหมือนแมวที่ได้ขโมยเนื้อปลาแล้ว
กนกอรถลึงตาใส่เขา พูดกับเขาเบาๆ: “นฤเบศวร์ ถึงฉันจะให้โอกาสนายจีบฉัน แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ยอมรับการตามจีบของนายนะ ฉันยังไม่ได้เป็นแฟนนาย ช่วยมีมารยาทกับฉันหน่อย เอาเปรียบฉันให้มันน้อยๆหน่อย”
การที่เธอไม่ได้เชื่อฟังคำแนะนำของแม่ ที่บอกให้เปลี่ยนเบอร์มือถือ ให้ออกไปเที่ยวสักปีไม่ต้องกลับมา แต่กลับยินยอมที่จะให้โอกาสนฤเบศวร์สักครั้งและให้โอกาสแก่ตนเองด้วย ก็อยากจะเห็นท่าทีของนฤเบศวร์ ที่ทำอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าเธอยอมรับเขาแล้ว
นฤเบศวร์สีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้น: “กนกอร ผมไม่ได้เอาเปรียบคุณนะ นั่นผมคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองต่างหาก ไม่งั้นเอาอย่างนี้ไหม ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเสียเปรียบ งั้นผมให้คุณโอบผมคืน คุณอยากโอบนานแค่ไหนก็ได้ ผมคืนให้คุณทั้งต้นทั้งดอกเลย”
กนกอรหงุดหงิด
“อร กลับมาแล้วเหรอลูก”
ยายทองออกมาจากด้านใน
เธอมานั่งคุยเล่นที่ตระกูลภูสิทธ์อุดม
นฤเบศวร์เห็นยายทอง ก็คลายกังวล
เขาคิดว่าเป็นผู้ใหญ่ของตระกูลภูสิทธ์อุดมที่เดินออกมาซะอีก
“ค่ะ เลิกงานแล้ว ยายทอง ทานข้าวเย็นหรือยังคะ?”
“ยังเลย กำลังจะกลับบ้านไปทำกับข้าวนี่แหละ อร นี่แฟนของเราเหรอ? ยายมองแล้วทำไมหน้าตาคุ้นจัง เหมือน......คนขับแกร็บหรือคนขับแท็กซี่คนนั้นเลย? ที่เราเคยบอกยายคราวก่อนน่ะ”
ใบหน้าหล่อๆของนฤเบศวร์หม่นหมองเล็กน้อย
ไม่นึกว่าเธอจะแนะนำเขาอย่างนี้
เขามันแย่นักเหรอ?
“ยายทอง เขาเป็นเพื่อนของหนูค่ะชื่อนฤเบศวร์”
กนกอรไม่ได้ยอมรับว่าเป็นแฟน แต่ก็ไม่บอกว่าเป็นใครมั่วๆ แค่บอกว่าเป็นเพื่อน
ระหว่างชายหญิงที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน ใครๆก็คงคิดว่าเป็นแฟนกันทั้งนั้นแหละ
ยายทองพลางพิจารณานฤเบศวร์พลางยิ้มชมกนกอร: “อร เราตาแหลมดีนะ รวมๆแล้วพ่อหนุ่มนี่ดูไม่เลวเลย ไม่เลว!”
เห็นนฤเบศวร์หอบช่อดอกไม้เงินเอาไว้ ยายทองจึงจ้องอยู่สักพัก แล้วถามขึ้น: “พ่อหนุ่ม ช่อดอกไม้เงินนี่เงินจริงหรือเงินปลอมล่ะ? ทำได้สมจริง เหมือนเงินจริงมากเลย ทำออกมาเป็นช่อดอกไม้ก็ดูสวยดี วัยหนุ่มสาวอย่างพวกเธอเนี่ย ลูกเล่นเยอะจริงๆ”
นฤเบศวร์หัวเราะ พูดขึ้น: “ยายทอง ตาแหลมมากเลยนะครับ”
ไม่ได้ตอบว่าเงินจริงหรือเงินปลอม แค่ประจบสอพลอไปหนึ่งประโยค ก็หยอกเย้าให้ยายทองหัวเราะได้แล้ว
หลังจากคุยกันไม่กี่ประโยค ยายทองก็พูดขึ้น: “อร ยายกลับไปทำกับข้าวก่อนนะ ไม่รบกวนเรากับเพื่อนแล้ว รีบเข้าไปในบ้านเถอะ”
“ไว้เจอกันใหม่นะครับยายทอง”
นฤเบศวร์บอกลายายทองอย่างปากหวาน
ยายทองยิ้มแย้ม เดินไปพูดไป: “พ่อหนุ่มปากหวานจังนะ”
รอให้ยายทองเดินไปแล้ว กนกอรจึงเข็นรถไฟฟ้าเข้าไปในลานบ้าน ตัวบ้านของเธออยู่ในลานบ้านของตนเองที่ติดกับโรงรถแผ่นเหล็ก เธอจอดรถไฟฟ้าไว้ในโรงรถ หยิบกุญแจรถ หมุนตัวจะเข้าไปในบ้าน แต่กลับไม่เห็นนฤเบศวร์แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน