“ป้าสะใภ้ พี่ชายบอกว่าเขาจะแต่งงานใหม่กับพี่สะใภ้อีกครั้ง ในเมื่อจะแต่งงานกันใหม่อีกครั้ง งั้นฉันก็เรียกเขาว่าพี่สะใภ้ต่อไปนะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องพูดใหม่ ”
บัณฑิตาโมโหอย่างมาก
ยิ่งจะปวดใจที่ลูกชายได้รับบาดเจ็บเพราะกนกอร
เธออยากจะดูบาดแผลของลูกชาย ถูกนฤเบศวร์ห้ามไว้
“แม่ แค่แผลถลอกนิดหน่อยเอง ไม่ต้องดูหรอก ลูกชายของแม่ตายไม่ได้หรอกนะ”
“ยังจะพูดว่าแผลถลอดนิดหน่อยอีกนะ เห็นสีหน้าแกซีดเผือด มีสาเหตุมาจากเลือดไหลออกมาเยอะแน่นอน กนกอรก็คือตัวซวย ตั้งแต่เล็กมาแกไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลย เพราะว่าเธอ แกถึงได้บาดเจ็บอย่างนี้เบศวร์แกไม่ต้องคบหากับกนกอรอีกแล้ว เธอก็คือผู้หญิงที่กินผัว”
“แม่!”
นฤเบศวร์วางมีดในมือลงดังเปรี๊ยะ ใบหน้าที่หล่อเหลามืดมน พูดอย่างไม่พอใจ : “นี่มันไม่เกี่ยวกับกนกอรนะ แม่ด่ากนกอรทำไม?”
“กนกอรไม่ใช่ตัวซวย และเธอไม่ใช่คนที่มีดวงกินผัวด้วย!”
บัณฑิตาพูดอย่างโมโหว่า : “แกยังจะปกป้องเธอเหรอบัณฑิตา? แกดุแกสิ่งที่แกเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ เป็นความผิดของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ แกจะได้รับบาดเจ็บเหรอ?เธอซวย เจอกับโจรปล้น ก็ลากให้แกซวยไปด้วย เบศวร์ แกไม่ต้องคบหากับเธออีกแล้ว หย่าก็หย่ากันแล้ว ตัดขาดกันหมดสิ้น เธอไม่เหมาะกับแก เธอมีเพียงแค่ทำให้แกซวยไปด้วย ”
“วันนี้ทำให้แกบาดเจ็บก็เพราะเธอ พรุ่งนี้ไม่แน่ก็อาจจะทำให้แกบาดเจ็บหนักกว่าเดิม ถึงขั้นคร่าชีวิต”
“ที่รัก คุณพูดอะไรกันล่ะ คุณกำลังแช่งลูกชายเหรอ?”
ธารณ์รู้สึกว่าภรรยาพูดไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ ไม่เห็นว่าใบหน้าของชายชราเยือกเย็นลงแล้ว
“สามี ฉันไม่ได้แช่งลูกชายนะ สิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง คุณลองคิดดูนะ หลังจากที่เบศวร์อยู่ด้วยกันกับกนกอรเคยเกิดเรื่องดีอะไรขึ้นบ้างไหม?มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น ตอนแรกเรื่องของเปรม์ ตอนนี้แม้แต่เบศวร์ก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่แน่ต่อไปก็จะมีหายนะที่ยิ่งใหญ่กว่านี้”
“กนกอกก็คือตัวซวย เบศวร์หย่าร้างกับเขา งั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากคบหากันต่อไป ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ถ้าหากเธอไม่ใช่ตัวซวย เบศวร์อยู่ด้วยกันกับเธอ ก็น่าจะราบรื่นในทุก ๆ เรื่องถึงจะถูก”
สีหน้าของนฤเบศวร์มืดคล้ำแล้ว
เขาเหลืออด พูดออกมาหนึ่งประโยคว่า : “หลังจากที่พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน ก็ไม่เห็นว่าจะราบรื่นไปซะทุกเรื่องเลยนะ นี่ก็พูดได้ว่าแม่ก็ไม่เหมาะสมกับพ่อผมหรือเปล่า?”
เขาไม่ได้พูดคำว่าตัวซวยออกมา เป็นคำนึงถึงว่ายังไงก็เป็นแม่แท้ๆของตัวเอง
บัณฑิตา:“……สามี คุณดูสิ เบศวร์เพื่อกนกอรแล้วคิดไม่ถึงว่าจะตำหนิว่าฉันที่เป็นแม่ ฉันเป็นแม่แท้ๆของเขานะ!”
“เบศวร์ คำพูดเมื่อกี้ของแกเกินไปแล้วนะ”
ธารณ์พูดล้อเล่น
ชายชราพูดหนึ่งประโยคอย่างนิ่งๆว่า : “คำพูดของเบศวร์ก็มีเหตุผลนะ บัณฑิตาหลังจากที่คุณแต่งงานกับธารณ์ก็ไม่เห็นว่าธารณ์จะราบรื่นไปซะทุกเรื่อง และก็โชคร้ายกว่าหลายครั้ง และก็เคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะว่าแต่งงานกับคุณหรือเปล่า?”
บัณฑิตา : “……พ่อ สิ่งเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นมันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น ชีวิตคนเรา จะสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีราบรื่นไปทุกอย่างจริงๆได้ที่ไหนกันล่ะ?จะต้องเจอเรื่องโชคร้ายบ้าง ”
“เหอะ!”
ชายชราพูดเหอะ พูดเยาะเย้ยกลับว่า : “คุณก็รู้ว่าชีวิตของคนไม่สามารถสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีได้จริงๆ ก็รู้ว่าเป็นคนต่างก็ต้องเจอเรื่องโชคร้ายเล็กน้อย?งั้น เบศวร์เกิดอุบัติเหตุ ทำไมคุณถึงไปโทษกนกอรล่ะ?”
หลังจากที่บัณฑิตาสำลัก พูดเสียงเบาๆว่า : “เบศวร์ได้รับบาดเจ็บเพราะกนกอร งั้นก็เป็นความรับผิดชอบของกนกอร เป็นความผิดของกนกอร”
“แม่ กนกอรไม่ได้อยากเจอโจรปล้นสักหน่อย อีกอย่าง ผมก็ริเริ่มที่จะปกป้องเธอเอง เพราะเหตุนี้ การที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะผมไม่ระวัง ไม่เกี่ยวกับกนกอร”
เขายังจงใจได้รับบาดเจ็บด้วยนะ ง่ายที่จะทำให้กนกอรเป็นห่วงเขามากๆหน่อย
เพียงแต่พูดคำเหล่านี้ออกไปไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ให้แม่ใส่ร้ายป้ายสีไปที่กนกอรอีก
“ทำไม……”
“แคร่กๆๆ”
ลุงเซนไอครู่หนึ่งแล้ว
เขาต้อนรับให้กนกอรเข้ามา ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้
ลุงเซนแอบมองดูสีหน้าของกนกอร เห็นกนกอรสีหน้าสงบ เหมือนว่าไม่เก็บคำพูดของคุณหญิงมาใส่ใจ ลุงเซนไม่เพียงแค่ไม่ผ่อนคลาย แถมยังเป็นกังวลมากด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน